การเข้าถือหุ้น 51% ของ “ทีสเปซ ดิจิตอล” (TSPACE DIGITAL) ใน TARAD.com นอกจากจะเป็นการก้าวสู่ธุรกิจดิจิทัลอย่างเป็นทางการของกลุ่มไทยเบฟแล้ว ยังเป็นการพลิกโฉม TARAD.com ให้มีบริการที่ครบวงจรในทุกช่องทางที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกันก็เป็นไปตามเจตนารมณ์ของทั้งสองฝ่าย นั่นคือในระยะแรก ทีสเปซ ต้องการสนับสนุนกิจการของคนไทยก่อน ส่วน TARAD.com ก็เพิ่งกลับมาอยู่ในมือผู้ก่อตั้งคนไทยหลังจากไปอยู่ใต้ปีก Rakuten ของญี่ปุ่นนานถึง 7 ปี การผนึกกำลังกันในครั้งนี้จึงสะท้อนนัยยะสำคัญในการจับมือของบริษัทคนไทยด้วยกัน เพื่อนำพาสินค้าและธุรกิจไทยสู่ตลาดโลกผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์มร่วมกัน
มารุต บูรณะเศรษฐกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีสเปซ ดิจิตอล จำกัด เปิดเผยว่า ทีสเปซเป็นบริษัทที่เพิ่งจดทะเบียนเมื่อต้นเดือนมีนาคม 2561 ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 1 ล้านบาท ถือหุ้น 100% โดยบริษัท อเดลฟอส จำกัด ของสองพี่น้องทายาทไทยเบฟ ฐาปน และปณต สิริวัฒนภักดี มีเป้าหมายเพื่อการลงทุนและเพื่อการทำธุรกิจ โดยด้านการลงทุน จะพิจารณาบริษัทที่มีโอกาสเติบโตทั้งบริษัทไทยและต่างชาติ แต่ในระยะแรกต้องการสนับสนุนบริษัทและสตาร์ทอัพของคนไทยก่อน ส่วนด้านการทำธุรกิจ จะเริ่มจากบิ๊กดาต้า และขยายไปยังธุรกิจในอนาคต ได้แก่ e-payment, e-wallet เป็นต้น
“เราเล็งเห็นศักยภาพของคนไทยและผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่มีความมุ่งมั่นในการขยายธุรกิจสู่โลกอนาคต โดยเฉพาะธุรกิจ e-commerce และธุรกิจออนไลน์อื่นๆ ซึ่งเราเชื่อว่าหลายๆ บริษัทมีศักยภาพมากพอที่จะเติบโตไปในระดับโลกหากได้รับการสนับสนุนที่ดี สำหรับการผนึกกำลังกับตลาดดอทคอมนั้น เป็นเพราะเรามองเห็นศักยภาพ โดยเฉพาะจุดแข็งทางด้านธุรกิจ e-commerce ที่เป็นเจ้าแรกที่ดำเนินธุรกิจมากว่า 20 ปี ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่ตลาดดอทคอมจะมาช่วยเสริมความแข็งแกร่งของบริษัทและส่งผลให้ธุรกิจของเราเติบโตได้อย่างรวดเร็ว”
“ไทยเบฟทำธุรกิจกับค้าปลีกมาตลอด เราไม่เคยขายสินค้าตรงให้กับผู้บริโภคเลย จากนี้ก็คงจะได้เห็นอะไรใหม่ๆ จากทีสเปซฯ ต่อไป”
ด้าน ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้ง ‘ตลาดดอทคอม’ เปิดเผยว่า การเข้ามาของทีสเปซ ช่วยพลิกโฉม TARAD.com ให้กลายเป็นผู้ให้บริการ e-commerce แบบครบวงจรทุกช่องทางมากยิ่งขึ้น
“เราได้พัฒนาแพลตฟอร์มการบริการใหม่ขึ้นมา ซึ่งถือว่าเป็นเจ้าแรกในเมืองไทยที่เรียกว่า ‘U-Commerce’ (Universal Commerce) โดยชูจุดเด่นของการเป็นผู้ให้บริการที่มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งทั้งในตัวผู้ประกอบการและกลุ่มผู้บริโภค เพื่อสร้างประสบการณ์ในการบริการที่ดีที่สุดที่ลูกค้าต้องการ ผ่านการเพิ่มประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อในทุกช่องทางการบริการที่ครบวงจร ตั้งแต่การสร้างร้านออนไลน์ การขายของผ่านช่องทางโซเชียลต่างๆ การโฆษณา การหาที่เก็บสินค้า การจัดส่งสินค้า รวมถึงการเก็บเงิน”
“โดยเราจะนำเทคโนโลยีเรื่อง Big Data มาใช้ประโยชน์ ซึ่งถือเป็นจุดแข็งที่เรามี จากการที่เราทำตลาดในธุรกิจนี้มานาน เรามีลูกค้าที่ดูแลอยู่มากกว่า 3 ล้านราย ทำให้เรามีข้อมูล transactions จำนวนมากที่เป็นลูกค้าทั้งในธุรกิจที่เป็น B2B2C และ C2C”
การเปลี่ยนแปลงรูปแบบธุรกิจในครั้งนี้ จะทำให้เกิดความร่วมมือกับ e-marketplace รายใหญ่ๆ เช่น Lazada, 11street, Shopee ฯลฯ เพื่อเชื่อมโยงสินค้าจากร้านค้าใน TARAD.com ให้สามารถไปขายบนแพลตฟอร์มนั้นๆ ได้ด้วย ซึ่งก็รวมถึงสินค้าชุมชนตามนโยบายประชารัฐของรัฐบาล ที่กลุ่มไทยเบฟมีส่วนร่วมในการดำเนินงานด้วย
“การมาของทีสเปซ เป็นการมาช่วยผู้ประกอบการคนไทย เป็นเกมที่ไม่ใช่เอาคนไทยไปสู้กับ Lazada หรือสู้กับ Alibaba แต่เราจะกอดคอเขาและนำสินค้าของเราไปให้เขาช่วยขาย”
“TARAD.com จะเป็นตัวอย่างของบริษัทคนไทยที่ transform ตลอดเวลา เป็นตัวอย่างของคนทำธุรกิจที่ต้องปรับวิธีคิด หาโมเดลที่เหมาะสม เป็นต้นหญ้าที่เติบโตได้ท่ามกลางการต่อสู้ต่างๆ…” ภาวุธ กล่าว