แรงดึงดูดของอุตสาหกรรมปูนไลม์ที่มีความน่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตสินค้าที่อยู่ในชีวิตประจำวันแทบทุกประเภท สะท้อนออกมาจากการผลตอบรับของนักลงทุนสถาบันที่แห่จองหุ้น IPO ของบริษัท เคมมีแมน จำกัด(มหาชน) หรือ CMAN ในช่วงราคาเสนอขายสูงสุด 3.84 บาท ล้นจากจำนวนที่เปิดให้จองถึง 20 เท่า ย่อมบอกได้เป็นอย่างดีว่า นี่คือคือหุ้นในกลุ่มปิโตรและเคมีภัณฑ์ที่ไม่ธรรมดา
หลายคนอาจไม่ทราบว่าปูนไลม์คืออะไร ไม่ใช่ปูนซิเมนต์ หรือปูนขาว แต่นี่คือเคมีภัณฑ์พื้นฐานที่ใช้ในการผลิตตั้งแต่แร่โลหะ อโลหะ ผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงอาหารสัตว์ ไม่ว่าจะเป็น ทองคำ, ทองแดง, สังกะสี, อลูมิเนียม, นิกเกิล, ลิเธียม, กราไฟท์, เหล็กกล้า, เยื่อกระดาษ, น้ำตาล, พลาสติกชีวภาพ แก้ว กระจก การบำบัดน้ำเสีย และอาหารสัตว์
อดิศักดิ์ เหล่าจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคมีแมน จำกัด(มหาชน) หรือ CMAN เผยว่า บริษัทฯ เป็นผู้ประกอบธุรกิจปูนไลม์เพียงรายเดียวในประเทศไทย ที่มีทั้งโรงงานผลิตและได้รับประทานบัตรเหมืองอายุ 25 ปี (สิ้นสุด 23 มิ.ย. 2583) จากกระทรวงอุตสาหกรรม บนพื้นที่อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ซึ่งเป็นแหล่งแร่หินปูนเคมีที่มีปริมาณแคลเซียมสูงเป็นพิเศษ (Ultra-high Calcium Limestone) มีปริมาณแร่หินปูนเคมีสำรองกว่า 115 ล้านตัน (จากข้อมูลสำรวจ ณ เดือน ต.ค. 2559) จึงทำให้บริษัทฯ มีความได้เปรียบในเชิงคุณภาพและการบริหารต้นทุนของวัตถุดิบ
ปัจจุบัน เคมีแมน ไม่ได้เป็นเพียงผู้ผลิตและจำหน่ายปูนไลม์รายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เพราะด้วยกำลังการผลิตที่มีมากถึง 9 แสนตันต่อปี ก็มากพอที่จะเป็นผู้นำอุตสาหกรรมปูนไลม์และผลิตภัณฑ์เคมีต่อเนื่องของเอเชีย
“เคมีแมนมีฐานการผลิตในจังหวัดสระบุรีและระยองรวม 3 แห่ง และเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ก็ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เตาเผาปูนควิกไลม์ใหม่ (KK 6) เพิ่มขึ้นอีก 1 เตา ที่โรงงานแก่งคอย จังหวัดสระบุรี เป็นที่เรียบร้อย ส่งผลให้มีกำลังการผลิตติดตั้งรวมเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 9 แสนตันต่อปี รวมถึงศูนย์กระจายสินค้าที่สำคัญอีก 2 แห่งในประเทศออสเตรเลียเพื่อรองรับการทำตลาดต่างประเทศอีกด้วย โดยปัจจุบันเคมีแมนมีฐานลูกค้าในภูมิภาคเอเชีย ออสเตรเลียและแอฟริกา ครอบคลุมกว่า 20 ประเทศ ซึ่งเคมีแมนมีสัดส่วนการผลิตเพื่อใช้ในประเทศ และการส่งออกอยู่ที่ 50 : 50 ”
ล่าสุด เคมีแมนได้ลงนามในสัญญาแต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) และแต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้
มานพ เพชรดำรงค์สกุล หัวหน้าธุรกิจขนาดใหญ่ ตัวแทนบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน เผยว่า หลังจากสำรวจความต้องการซื้อหุ้น (Book Building) IPO ของ บมจ.เคมีแมน จากนักลงทุนสถาบันเมื่อวันที่ 6-8 มีนาคมที่ผ่านมา โดยมีช่วงราคาเสนอขายที่ 3.72 – 3.84 บาทต่อหุ้น พบว่ามีนักลงทุนสถาบันแสดงความต้องการจองซื้อที่ราคาสูงสุดหุ้นละ 3.84 บาท และแสดงความต้องการจองซื้อหุ้นเป็นจำนวนมากเกินกว่าที่จัดสรรไว้ประมาณ 20 เท่า จึงกำหนดราคาเสนอขาย IPO หุ้นละ 3.84 บาท เตรียมเปิดให้นักลงทุนทั่วไปจองซื้อวันที่ 14-16 มีนาคมนี้ และคาดว่าจะนำหุ้น บมจ.เคมีแมน เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 21 มีนาคม 2561
ปัจจุบัน บมจ. เคมีแมน มีทุนจดทะเบียน 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 1,000 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1.00 บาท โดยทุนที่ออกและชำระแล้วมีจำนวน 720 ล้านบาท และจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 240 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO เพื่อระดมทุนนำไปใช้ขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ ชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงินและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
ทั้งนี้ จากผลสำรวจภาวะอุตสาหกรรมปูนไลม์ในประเทศไทยโดย Frost & Sullivan เคมีแมนเป็นผู้ประกอบการที่มีส่วนแบ่งตลาดปูนควิกไลม์และปูนไฮเดรตไลม์สูงสุดทั้งการขายในประเทศและการส่งออก โดยปี 2559 มีส่วนแบ่งการขายปูนควิกไลม์และปูนไฮเดรตไลม์ในประเทศ ร้อยละ 29 และ 21 และมีมูลค่าส่งออก ร้อยละ 81 และ 84 ของมูลค่าส่งออกปูนไลม์รวมของประเทศไทยตามลำดับ ขณะที่ผลการดำเนินงานงานปี 2560 มีรายได้รวม 2,215 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 109.31 ล้านบาท
ด้านประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CMAN กล่าวถึงวัตถุประสงค์การระดมทุน และเป้าหมายว่า ได้กำหนดเป้าหมายขยายกำลังการผลิตติดตั้งปูนไลม์ติด 10 อันดับแรกของโลก โดยจะขยายกำลังการผลิตติดตั้งเพิ่มเป็นประมาณ 1 ล้านตันต่อปีภายในปี 2563 เพื่อตอบสนองความต้องการของปูนไลม์ที่ขยายตัว ซึ่งจะเอื้อให้บริษัทสามารถขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมที่หลากหลายทั้งในประเทศและต่างประเทศ
เงินทุนที่ได้จากระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์อีกส่วนหนึ่ง จะใช้เพื่อการขยายธุรกิจในประเทศอินเดียซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพ ด้วยการร่วมทุนกับพาร์ทเนอร์ท้องถิ่นในสัดส่วน 50 : 50 ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายปูนไลม์ในอินเดียอีก 2 แห่งที่เมือง Visakhapatnam และเมือง Tuticorin ซึ่งเป็นเมืองท่าและเขตอุตสาหกรรมที่สำคัญของประเทศอินเดียอีกด้วย โดยในส่วนของบริษัทฯ จะใช้งบลงทุนแห่งละ 87.50 ล้านบาท และประมาณ 115 ล้านบาทตามลำดับ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ภายในปี 2562
ขณะที่การขยายธุรกิจในแนวลึก ก็จะมีการมองหาแนวทางการผลิตสินค้าใหม่ๆ ที่ต้องใช้เทคโนโลยีการผลิตที่สูงขึ้น แต่ให้มูลค่าที่สูงกว่าสินค้าทั่วไป เช่นกลุ่มแร่สังเคราะห์ พลาสติก ยาง รวมถึงยาสีฟัน ที่ล้วนแต่มีปูนไลม์เป็นส่วนประกอบ
“วันนี้เรามีความพร้อมในการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้านตัน ทำให้วิสัยทัศน์ที่จะเป็นผู้นำอุตสาหกรรมปูนไลม์และผลิตภัณฑ์เคมีต่อเนื่อง 1 ใน 10 อันดับแรกของโลกเป็นเรื่องไม่ไกล เรามุ่งมั่นที่จะสร้างความสมดุลให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย และมีเป้าหมายขยายฐานลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมที่หลากหลายทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่พึงพอใจแก่ผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง และพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืนบนหลักบรรษัทภิบาลที่ดี” อดิศักดิ์กล่าว