ภาพของธุรกิจน้ำมันวันนี้ เริ่มมีการปรับตัวกระจายความเสี่ยงจากราคาน้ำมันที่ผันผวน ด้วยการดึงธุรกิจ Non-Oil เข้ามาเป็นอีกหนึ่งขาธุรกิจ ยักษ์ใหญ่เจ้าตลาดในเมืองไทย อย่าง ปตท. มีเป้าหมายในการขยับธุรกิจ Non-Oil ให้มีส่วนแบ่งรายได้ครึ่งหนึ่งของรายได้ ปตท.ทั้งหมด ภายในเวลา 4-5 ปี ทั้งการจับมือกับแบรนด์ดัง อย่าง 7-11 , ติ่มซ่ำฮั่วเซงฮง, โดนัทแด๊ดดี้โดล, เคเอฟซี และการเปิดแบรนด์เอง อย่าง กาแฟอเมซอน, Pearly Tea ชานมไข่มุก, ไก่ทอดเท็กซัส รวมไปถึงโรงแรมราคาประหยัด Budget Hotel ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
แต่สำหรับเชลล์ แบรนด์น้ำมันยักษ์ใหญ่จากยุโรป กลับมีแนวทางการทำธุรกิจที่ต่างออกไป
อัษฎา หะรินสุต ประธานกรรมการบริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด ยอมรับว่า Non-Oil เป็นธุรกิจที่เชลล์ให้ความสนใจ ปัจจุบัน เชลล์มีร้านสะดวกซื้อแบรนด์ Select และร้านกาแฟ Deli Café ที่ปั้นขึ้นเอง แต่คงต้องใช้เวลาอีกนานจึงจะพัฒนาธุรกิจ Non-Oil ให้มีสัดส่วนเทียบเท่ากับธุรกิจน้ำมันได้ วันนี้แนวทางของเชลล์จึงมุ่งมั่นไปที่การเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีน้ำมันเชื้อเพลิง
อัษฎา กล่าวว่าในฐานะผู้นำเทคโนโลยีน้ำมันเชื้อเพลิงระดับโลก เชลล์ทุ่มเทด้านการวิจัยและพัฒนาน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างต่อเนื่องโดยร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลก เช่น เฟอร์รารี่ บีเอ็มดับเบิลยู และบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำ โดยมีการจัดสรรงบประมาณกว่า 3.5 หมื่นล้านบาทต่อปีเพื่อคิดค้นสูตรน้ำมันที่ดีที่สุดสำหรับเครื่องยนต์ประเภทต่างๆ ทั้งของรถยนต์ส่วนบุคคล รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ เครื่องจักรหนัก รวมถึงการคิดค้นเชื้อเพลิงที่สะอาดและยั่งยืนสำหรับรถยนต์ในอนาคตอีกด้วย ล่าสุด เชลล์เปิดตัวเทคโนโลยีน้ำมัน “ไดนาเฟล็กซ์”
อรอุทัย ณ เชียงใหม่ กรรมการบริหาร ธุรกิจการตลาดค้าปลีก บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย ประจำประเทศไทย กล่าวว่า คุณภาพของน้ำมันเชื้อเพลิง คือหัวใจของการทำธุรกิจของเชลล์ จึงมุ่งพัฒนาทั้งผลิตภัณฑ์และบริการให้ครอบคลุมและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามากที่สุด โดยเชลล์เป็นแบรนด์แรกที่มีการเปิดตัวน้ำมันเกรดพรีเมียมในชื่อ V-Power เปลี่ยนความคิดของผู้ใช้ว่า น้ำมันไม่ได้มีประสิทธิภาพเหมือนกันทุกแบรนด์ และไดนาเฟล็กซ์ ก็ถือเป็นเทคโนโลยีน้ำมันที่ดีที่สุดในรอบ 100 ปี ของเชลล์ ที่เปิดตัวใน 40 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย
เทคโนโลยี “ไดนาเฟล็กซ์” เป็นนวัตกรรมน้ำมันเชื้อเพลิงล่าสุดที่เป็นคิดค้นจากนักวิทยาศาสตร์เชลล์ ในการค้นคว้าและทำวิจัยร่วมกับเฟอร์รารี่เป็นเวลานานกว่า 5 ปี จนเกิดเป็นเทคโนโลยีน้ำมันเชื้อเพลิงที่ช่วยเพิ่มความแรง สมรรถนะ และประสิทธิภาพให้กับเครื่องยนต์ทุกประเภท ตั้งแต่รถยนต์ทั่วไปที่ใช้งานในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงเครื่องจักรหนักและรถที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรม
น้ำมันเชลล์ วี-เพาเวอร์ สูตรใหม่ ที่มาพร้อมเทคโนโลยี “ไดนาเฟล็กซ์” ให้ความแรงและประสิทธิภาพที่มากขึ้นกว่าน้ำมันเกรดธรรมดา ซึ่งได้รับการออกแบบร่วมกับสคูเดอเรีย เฟอร์รารี่ จึงทำให้น้ำมันเชลล์ วี-เพาเวอร์สูตรใหม่ มีส่วนประกอบใกล้เคียงกับน้ำมันที่ใช้ในการแข่งรถสูตรหนึ่งของทีมสคูเดอเรีย เฟอร์รารี่ ถึง 99% สำหรับน้ำมันเชลล์ วี-เพาเวอร์ แก๊สโซฮอล์ 95 มีสารทำความสะอาด และลดแรงเสียดทานมากกว่าถึง 3 เท่า จึงช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่จะบั่นทอนสมรรถนะของเครื่องยนต์ในชิ้นส่วนสำคัญของระบบน้ำมันเชื้อเพลิงได้ถึง 80% ในขณะที่น้ำมันเชลล์ วี-เพาเวอร์ ดีเซล สามารถช่วยลดสิ่งสกปรกสะสมที่หัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง และคืนพลังให้เครื่องยนต์ได้สูงสุดถึง 100% น้ำมันเชลล์ วี-เพาเวอร์ สูตรใหม่ ได้ผ่านการทดสอบว่าเป็นน้ำมันคุณภาพที่ดีที่สุดของเชลล์ ทั้งในห้องทดลองและจากการทดสอบบนถนนจริง
“นอกจากนั้น เทคโนโลยี “ไดนาเฟล็กซ์” ยังมีอยู่ในน้ำมันเชื้อเพลิง เชลล์ ฟิวเซฟ และ เชลล์ E20 แก๊สโซฮอล์ ด้วยเช่นกัน ซึ่งจะช่วยปกป้องเครื่องยนต์ให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อรองรับการขับขี่ทุกรูปแบบ ผู้บริโภคสัมผัสความแรงเต็มสมรรถนะและประสิทธิภาพที่ดีขึ้นอีกขั้นของน้ำมันเชื้อเพลิงสูตรใหม่จากเชลล์ ที่มาพร้อมเทคโนโลยี “ไดนาเฟล็กซ์” ได้แล้ววันนี้ ที่สถานีบริการน้ำมันเชลล์ทั่วประเทศ” อรอุทัยกล่าว
ปัจจุบัน เชลล์มีการเปิดสถานีบริการน้ำมันพรีเมียม ที่จำหน่ายเฉพาะ น้ำมันเชลล์ วี-เพาเวอร์ เบนซิน และวี-พาวเวอร์ ดีเซล อยู่ 2 แห่ง คือ บนถนนอโศก และถนนพระราม 9 อัษฏา กล่าวว่า เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดน้ำมันระดับพรีเมียม เชลล์ก็มีแผนที่จะเปิดสถานีบริการน้ำมันพรีเมียมนี้เพิ่มขึ้นอีกทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ ขณะที่สถานีบริการน้ำมันเชลล์ทั้งหมด ปัจจุบันมีอยู่ 517 สาขา โดยปีนี้มีแผนที่จะเปิดสถานีเพิ่ม 40 สาขา และจะเปิดเพิ่มอีกปีละ 30 สาขาต่อปี
“ตลอดระยะ เวลา 125 ปีที่เชลล์ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เรามุ่งมั่นนำเสนอนวัตกรรมต่างๆ โดยเฉพาะเทคโนโลยีน้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพสูงให้แก่ผู้บริโภคชาวไทยมาอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับแนวทางการทำงาน เชลล์เติมสุขให้ทุกชีวิต Making Life’s Journey Better และการแข่งขันในธุรกิจน้ำมัน ในฐานะที่เชลล์เป็นผู้นำในตลาดน้ำมันระดับพรีเมียม ความท้ายทายจึงเป็นการแข่งขันที่จะพัฒนาตัวเองสร้างเทคโนโลยีน้ำมันที่ดีขึ้นไป” ประธานกรรมการบริหาร เชลล์แห่งประเทศไทย กล่าว