ไทยพาณิชย์ โพรเทค ประกาศความพร้อมเดินหน้า วาง 3 กลยุทธ์ รุกธุรกิจประกันเต็มตัว

392

หนึ่งในธุรกิจภายใต้ยานแม่ทางการเงิน SCB X ที่เริ่มมีบทบาทเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อย่าง ไทยพาณิชย์ โพรเทค โบรคเกอร์ธุรกิจประกัน ในปีนี้ ถือเป็นที่น่าจับตามอง เพราะวันนี้การทำประกันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนทางการเงินของผู้คน ที่จะสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตและครอบครัวได้อย่างชัดเจนแน่นอนมากกว่าการลงทุนเรื่องใดๆ

เพราะแม้จะเริ่มต้นดำเนินธุรกิจในช่วงที่มั่นใจว่าผู้คนจะตระหนักถึงความสำคัญของการทำประกันชีวิต แต่ไทยพาณิชย์ โพรเทค ก็กลับมาติดหล่มกับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่ทุกอย่างถูกล็อกดาวน์ การจับจ่ายหยุดชะงัก แม้แต่การจะหาพนักงานขายก็ยากลำบาก เพราะการสอบใบอนุญาตขายประกันของทาง คปภ. ก็หยุดเช่นกัน  กว่าจะกลับมาเดินหน้าได้ก็ล่วงมาถึงปี 2565 ที่ผ่านมาก เมื่อประเทศเปิดกว้างเต็มที่ ผลงานเต็มตัวในปีแรกของไทยพาณิชย์ โพรเทค ก็ปิดปีอย่างสวยหรู  ด้วยเบี้ยรับรวม 1.7 พันล้านบาท และฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นกว่า 1.8 แสนราย พร้อมก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทนายหน้าประกันชีวิตและประกันวินาศภัยที่มียอดกรมธรรม์ผ่านช่องทางออนไลน์ที่เติบโตรวดเร็วที่สุดในตลาด ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ย 200% ต่อเดือน 

ปรมาศิริ มโนลม้าย

ปรมาศิริ มโนลม้าย รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจประกัน ธนาคารไทยพาณิชย์ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยพาณิชย์ โพรเทค จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันชีวิตและประกันวินาศภัย เปิดเผยว่า ความสำเร็จในปี 2565 เกิดจากจากการวางรากฐานการทำงานเพื่อสร้างการเจริญเติบโตในช่วงที่ผ่านมา การนำเสนอผลิตภัณฑ์ด้านความคุ้มครองที่คุ้มค่าและพัฒนาช่องทางการติดต่อลูกค้าทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อให้ผู้บริโภคกลุ่มแมสเข้าถึงความคุ้มครองที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะช่องทางประกันออนไลน์ (Digital Insurance) https://online.scbprotect.co.th/ ส่งผลให้บริษัท ไทยพาณิชย์ โพรเทค จำกัด มีการเติบโตด้านลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น 77% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า มีเบี้ยรับรวมเติบโต 145% และรายได้รวมเติบโต 139% และเป็นปีแรกที่สามารถทำกำไรได้ 

            “ปี 2565 ที่ผ่านมา ถือเป็นปีของการเริ่มต้นขยายงาน เริ่มส่งพนักงานเข้าสอบใบอนุญาตจาก คปภ.ได้ ซึ่งนอกจากการขายแบบดั้งเดิม Face to Face แล้ว ในช่วงการระบาดของสถานการณ์โควิด -19 ที่ให้พฤติกรรมคนเปลี่ยนไปสู่การใช้ออนไลน์ เราจึงเปิดช่องทางประกันออนไลน์ SCB Protect Online แต่ก็พบว่า แม้จะมีผู้คนเข้ามาใช้บริการช่องทางออนไลน์เป็นจำนวนมากถึง 5-6 แสนรายต่อเดือน แต่การคลิกซื้อประกันผ่านช่องออนไลน์ ก็ยังมีจำนวนน้อยอยู่มาก ลูกค้าเน้นการเข้ามาเพื่อหาข้อมูลเปรียบเทียบเป็นหลัก เป็นโจทย์สู่การพัฒนาบริการในปี 2566” 

            ปรมาศิริ กล่าวต่อว่า ในปีนี้ไทยพาณิชย์ โพรเทค จะวางแนวทางดำเนินธุรกิจตามกลยุทธ์การของบริษัทแม่ธนาคารไทยพาณิชย์ คือ Bank with Human Touch ตั้งเป้าหมายเติบโตอย่างมีศักยภาพ โดยกำหนดกลยุทธ์สอดรับกับกลยุทธ์ของธนาคารไทยพาณิชย์ที่ประกาศเป็น “ดิจิทัลแบงก์ที่เป็นอันดับหนึ่งด้านการบริหารความมั่งคั่ง  ด้วย 3 กลยุทธหลัก

กลยุทธ์ที่ 1 Omni-Channel  มอบประสบการณ์การให้บริการที่เชื่อมถึงกันอย่างไร้รอยต่อในทุกช่องทาง” ด้วยการวางโครงสร้างการให้บริการและการวางระบบรากฐานข้อมูลเทคโนโลยี IT infrastructure ให้สามารถรองรับการให้บริการที่เชื่อมถึงกันอย่างไร้รอยต่อ  จากช่องทางการขายที่แตกต่างกัน ทั้งช่องทางออนไลน์  ช่องทางเทเลเซลล์  ช่องทางพนักงานขาย และช่องทางคอลล์เซ็นเตอร์  1314  เป็นการผสานความสะดวกสบายในการเข้าถึงความคุ้มครองผ่านทางดิจิทัลกับการดูแลและให้บริการลูกค้าด้วยใจจากพนักงานทั้งก่อนและหลังการขาย ไม่ว่าลูกค้าจะติดต่อผ่านช่องทางใด ก็จะเชื่อมโยงทุกๆ ช่องทาง เพื่อการบริการอย่างต่อเนื่องที่ดีที่สุด

“บริษัทฯ มีแนวทางที่สอดคล้องกับแบงก์แม่ คือ การให้บริการที่เชื่อมถึงกันอย่างไร้รอยต่อในทุกช่องทาง โดยยึดหลักการดูแลด้วยใจและใส่ใจบริการ ด้วยการบริการที่หลากหลายช่องทาง นำโดย1314 SCB Protect Customer Service Center เป็นศูนย์กลางการให้บริการหลังการขายและตอบคำถามเกี่ยวกับประกันจากทุกช่องทาง ความสามารถในการรองรับการให้บริการจาก 200 คนต่อเดือนในช่วงเริ่มต้น เป็น 200 คนต่อวันในปี 2566 ช่องทางดิจิทัลอย่าง LINE Official Account (LINE OA) SCB Protect, Facebook SCB Protect และอีเมล และในปี 2566 นี้ ได้เชื่อมต่อระบบประกันออนไลน์ และประกันรถยนต์ทางโทรศัพท์เข้ากับ LINE OA SCB Protect ทำให้สามารถสอบถามเกี่ยวกับประกันที่สนใจ ทำรายการซื้อจนจบจ่ายเงิน และรับความคุ้มครองผ่านทางไลน์ได้อย่างปลอดภัย เป้าหมายสำคัญคือการเชื่อมต่อทุกระบบเพื่อเป็น One-Stop Service ในการให้บริการลูกค้าสำหรับทุกประเภทประกัน เพื่อให้คนไทยเข้าถึงประกันที่ต้องการได้ในราคาที่คุ้มค่า ผ่านการบริการที่สะดวกรวดเร็วในปี 2567” ปรมาศิริ กล่าว 

กลยุทธ์ที่ 2  การพัฒนา AI ในการเรียนรู้และวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และค่าเบี้ยที่คุ้มค่าผ่านช่องทางการขายที่เหมาะสมสำหรับลูกค้าแต่ละราย โดย AI จะประมวลข้อมูลของลูกค้าแต่ละราย เพื่อการนำเสนอที่ตรงตามความต้องการอย่างแท้จริง ทั้งผลิตภัณฑ์ และช่องทาง ไม่ใช่การติดต่อแบบสะเปะสะปะ หว่านแหเหมือนในอดีต 

กลยุทธ์ที่ 3  การขยายเครือข่ายสู่ภูมิภาคหลัก ด้วยการเปิดศูนย์กลางการดำเนินงานประจำภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ 4 แห่ง  ประเดิมภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ที่เปิดให้บริการเป็นแห่งแรก ตามด้วยศูนย์ จ.ขอนแก่น คาดว่าจะเปิดในช่วงไตรมาส 3   ขณะที่ศูนย์ภาคตะวันออก และศูนย์ภาคใต้ จะเปิดในราวไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ 

โดยการเปิดศูนย์กลางการดำเนินงานประจำภูมิภาค  เชียงใหม่ ปรมาศิริ กล่าวว่า  เชียงใหม่เป็นเมืองหลักของธุรกิจการค้าและการท่องเที่ยวของประเทศไทย และตลาดแรงงานปรับดีขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนจากจำนวนผู้ประกันตนมาตรา 33 จังหวัดเชียงใหม่ ในไตรมาสแรกของปี2566 เติบโต 30%*1 อีกทั้งยังพบว่าหลังจากสถานการณ์โควิดดีขึ้นนั้น มีแรงงานกลับคืนถิ่นจำนวนมาก และต้องการมีอาชีพที่มั่นคง จนปัจจุบัน ศูนย์กลางการดำเนินงานประจำภาคเหนือ มีพนักงาน รวมทั้งสิ้น 450 คน มีทีมขาย Face to Face  ทีม Telesales ทีม คอลล์เซ็นเตอร์ 1314 และทีมงานหลังบ้าน ทีมไอที

ศูนย์กลางการดำเนินงานประจำภูมิภาค  เชียงใหม่

พร้อมกับการเปิดศูนย์ในครั้งนี้ ไทยพาณิชย์ โพรเทค ก็มีการลงนามความร่วมมือกับ 5 องค์กรภาคธุรกิจการค้าและการท่องเที่ยวเชียงใหม่ ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ สมาพันธ์ SME ไทย จังหวัดเชียงใหม่ สมาคมส่งเสริมพัฒนาผู้ประกอบการไทยจังหวัดเชียงใหม่ATED.CM และสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ (ตอนบน) สนับสนุนผลิตภัณฑ์ประกันกลุ่มราคาพิเศษสุด เพื่อช่วยตั้งต้นวางแผนชีวิตอย่างมั่นคงสำหรับกลุ่มอาชีพอิสระเกี่ยวกับธุรกิจการค้าและการท่องเที่ยวซึ่งเป็นหัวใจหลักของภาคเหนือสามารถเข้าถึงประกันที่จำเป็นได้ในราคาคุ้มค่า

ปรมาศิริ กล่าวว่า ในการเปิดศูนย์บริการเชียงใหม่ บริษัทฯ ร่วมมือกับ ซันเดย์ ประกันภัย บริษัทอินชัวร์เทคชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ SCB 10X ถือหุ้นอยู่ พัฒนาผลิตภัณฑ์และระบบที่ทันสมัยเหมาะกับลูกค้าในยุคดิจิทัลที่สามารถรับความคุ้มครองง่ายๆ ผ่านมือถือ ออกประกันกลุ่มอุบัติเหตุสุดคุ้ม (Group Personal Accident) ประกันพื้นฐานความคุ้มครองสำหรับความเสี่ยงในการใช้ชีวิตประจำวันที่เกิดขึ้นได้บ่อยสำหรับทุกวัย ทำระดับ โดยสามารถทำได้ทั้งพนักงานองค์กร สมาชิกในองค์กรและครอบครัวของคนในองค์กร อาชีพอิสระ กลุ่มไรเดอร์  คนขับรถตู้ฟรีแลนซ์  มัคคุเทศก์ ด้วยค่าเบี้ยเริ่มต้นเพียงปีละ 225 บาท รับความคุ้มครองชีวิตจากอุบัติเหตุสูงถึง 100,000 บาท และอีกไฮไลต์สำคัญคือประกันกลุ่มอุบัติเหตุ PA แผน 6 ที่มีค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุครั้งละ 5,000 บาท ไม่จำกัดจำนวนครั้ง และความคุ้มครองชีวิตจากอุบัติเหตุสูงถึง 500,000 บาท ด้วยค่าเบี้ยเพียง1,180 บาทต่อปี  เริ่มจากภาคธุรกิจท่องเที่ยว นอกจากนี้ ยังมีประกันกลุ่มรถทัวร์ รถตู้ ประกันทรัพย์สินและโรงงาน ให้บริการอีกในลำดับถัดไป การขยายเครือข่ายสู่ภูมิภาคนี้ บริษัทตั้งเป้าสร้างเบี้ยรับเพิ่มภาคละ 720 ล้านบาทต่อภาคต่อปี

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายศูนย์กลางการดำเนินงานประจำภาค โดยภาคถัดไป คือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่จังหวัดขอนแก่น  โดยจะเริ่มรับสมัครทีมงานในไตรมาส 3 ของปีนี กว่า 300 อัตรา จุดเด่นของงานเช่น งานเทเลเซลล์ คือ เป็นสัญญาจ้างพนักงาน มีเงินเดือนประจำ เบี้ยขยัน ค่าคอมมิชชั่นตามผลงาน รางวัลพิเศษตามแคมเปญ และสวัสดิการต่างๆ นอกจากนี้ บริษัทยังส่งเข้าอบรมและส่งสอบใบอนุญาตโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เป็นต้น โดยรับทั้งผู้ที่มีประสบการณ์งานขายประกันและนักศึกษาจบใหม่ บริษัทฯ คาดว่าจะได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามเช่นที่จังหวัดเชียงใหม่ ผู้สนใจสามารถแอดไลน์@scbprotect เพื่อติดตามประกาศเกี่ยวกับการรับสมัครงานและโปรโมชั่นประกันดีๆ คุ้มๆ ได้ตลอดทั้งปี  โดยตั้งเป้าภูมิภาคจะมีส่วนผลักดันให้เบี้ยรับรวมและรายได้ปีนี้เติบโต 200%

ที่มา : *1 ข้อมูลภาวะเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ธนาคารแห่งประเทศไทย