เอพี ทำลายสถิติ เปิด 43 โครงการ จอง 2 ทำเลทองใหม่ กทม. เปิดคอนโดหรู

1394

การเดินหน้าสร้างโครงการรถไฟฟ้าหลากหลายเส้นทางของรัฐบาล ไม่เพียงจะสร้างความสะดวกสบายให้กับคนกรุงเทพฯ และผู้คนรอบเขตปริมณฑล แต่ได้กลายเป็นตัวกระตุ้นสำคัญให้กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้คึกคัก

เพราะที่ดินรอบข้างที่เส้นทางรถไฟฟ้าไปถึงจากที่ดินเว้งว้างว่างเปล่า กลายเป็นที่ดินทอง  หรือจากที่ดินทอง ก็กลายเป็นที่ดินเพชร เพื่อมูลค่าขึ้นมาหลายเท่าตัว

เอพี ถือเป็นอีกหนึ่งผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชั้นแนวหน้าของเมืองไทย ที่พัฒนาโครงการตามแนว 2 เส้นทางรถไฟฟ้า มาหลายโครงการ  และเมื่อโครงการเส้นทางรถไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นใหม่อีกเกือบ 10 เส้นทาง 5 ปีข้างหน้า ทำให้ในปีนี้ เอพี ประกาศทำลายสถิติมูลค่าการเปิดโครงการนับต้องแต่ตั้งบริษัทมา ถึง 43 โครงการ มูลค่ารวม 64,750 ล้านบาท  แบ่งเป็น บ้านเดี่ยว 17  โครงการ  ทาวน์โฮม 21 โครงการ และคอนโดมิเนียม  5 โครงการ

วิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กร และการสร้างสรรค์ บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) กล่าวว่า  บริษัทดำเนินการภายใต้เป้าหมายหลัก คือมุ่งเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยสำหรับคนเมือง โดยมีพันธกิจสำคัญในการส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีในการอยู่อาศัย ผ่านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่หลากหลาย ทั้งคอนโดมิเนียม ทาวน์โฮม และบ้านเดี่ยว  ทั้งนี้ ในปี 2560 ที่ผ่านมา เราประสบความสำเร็จอย่างมากในการเปิดตัวคอนโดมิเนียมติดแนวรถไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็น Life ลาดพร้าว Life วิทยุ  Life อโศก-พระราม 9 และล่าสุดในไตรมาส 1/2018 Life สุขุมวิท 62 โดยที่ทั้ง 4 โครงการได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทั้งลูกค้าไทยและต่างชาติ โดยสามารถปิดการขายได้ถึงประมาณ 90%

โดยในปีนี้ช่วงไตรมาสแรก เอพี เปิดตัวโครงการทั้งแนวราบ และคอนโดมิเนียมไปแล้ว 8 โครงการ และมีแผนที่จะเปิดอีก 35 โครงการ ในอีก 3 ไตรมาสที่เหลือ  โดยเป็นโครงการแนวราบ บ้านเดี่ยว และทาวน์โฮม รวม 32 โครงการ และคอนโดมิเนียมอีก 3 โครงการ  ซึ่งในเดือนสิงหาคม และตุลาคมนี้ ก็พร้อมที่จะเปิดคอนโดมิเนียมรับแนวรถไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นในช่วง 2-3 ปีนี้  2 โครงการ

วิทการ กล่าวว่า เพื่อรองรับตลาดคอนโดสำหรับลูกค้าคนเมืองรุ่นใหม่กลุ่ม Young Achiever ที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เอพีจึงพร้อมเดินหน้าเปิดตัว 2 คอนโดมิเนียม โครงการร่วมทุนระหว่าง เอพี และ มิตซูบิชิ จิโช เรสซิเดนซ์ (บริษัทในเครือมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป – MECG) มูลค่ารวมประมาณ 12,000 ล้านบาท ในทำเลศักยภาพศูนย์กลางธุรกิจใหม่ของกรุงเทพฯ แวดล้อมด้วยเครือข่ายคมนาคมในวันนี้และอนาคต ประกอบด้วย

 1) Life Ladprao Valley มูลค่าโครงการประมาณ 6,400 ล้านบาท โดดเด่นด้วยศักยภาพของทำเลแห่งอนาคต แวดล้อมด้วยเครือข่ายคมนาคมที่เป็นศูนย์กลางในการเดินทางเชื่อมต่อ  ใกล้รถไฟฟ้าสถานีห้าแยกลาดพร้าว ที่คาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการปี 2563 และรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีพหลโยธิน  รวมถึงศูนย์การขนส่งบางซื่อ เหมาะกับการลงทุนทั้งซื้อเพื่ออยู่อาศัย หรือปล่อยเช่าระยะยาว ด้วยผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าประมาณ 5 – 6%

2) Life Asoke Hype  คอนโดมิเนียมบนทำเลศูนย์กลางธุรกิจใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ สูง 40 ชั้น จำนวน 1,253 ยูนิต เพียง 300 เมตรจากรถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีพระราม 9 มูลค่าโครงการประมาณ 5,700 ล้านบาท โดยจะเปิดขายในเดือนตุลาคมนี้  ราคาเริ่มต้น 2.89 ล้านบาท

วิทการ กล่าวว่า ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าในปัจจุบัน ดีมานด์ต่อตลาดคอนโดระดับกลางถึงไฮเอนด์มีการ-ตอบรับดีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในย่านใจกลางทำเลธุรกิจ เช่น ลาดพร้าว และอโศก – พระราม 9 ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นพื้นที่ CBD แห่งใหม่ในกรุงเทพฯ เนื่องจากศักยภาพทำเลทั้งความพร้อมในวันนี้และปัจจัยจากโครงการพัฒนาโครงข่ายรถไฟฟ้าในอนาคตอันใกล้ ที่จะเข้ามายกระดับความสามารถในการเชื่อมต่อเข้าสู่พื้นที่ CBD เดิมอย่างย่านสีลม สาทร และ สุขุมวิทได้โดยตรง อีกทั้งแวดล้อมไปด้วย สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ จึงเป็นที่ต้องการสำหรับผู้ซื้อที่ต้องการความสะดวกสบาย และผู้ซื้อที่ต้องการลงทุนในการปล่อยเช่าและขายต่อเป็นอย่างมาก โครงการที่จะเข้าสู่ตลาดระดับนี้ต้องสร้างความแตกต่างทั้งภายในยูนิตพักอาศัยและพื้นที่ส่วนกลาง เพื่อที่จะชนะใจคนเมืองที่กำลังมองหาคอนโดในทำเลนี้ ที่นับวันจะมีแต่มูลค่าเพิ่มขึ้น

ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา จากการสำรวจข้อมูลการเปิดตัวโครงการใหม่ย่านเชื่อมต่อพหลโยธิน-อารีย์-ลาดพร้าว มีคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ทั้งสิ้นจำนวน 19 โครงการ ในราคาพรีเซลเฉลี่ย 158,000 บาทต่อตารางเมตร ราคาที่ดินเฉลี่ยสูงขึ้นในช่วง 5 ปี ถึง 30% และมีแนวโน้มราคาที่ดินสูงขึ้นอีก เช่นเดียวกับย่านเชื่อมต่ออโศก-พระราม 9-รัชดาภิเษก พบคอนโดโครงการใหม่ทั้งสิ้น 14 โครงการ ราคาพรีเซลเฉลี่ยประมาณ  169,000 บาทต่อตารางเมตร เพิ่มสูงขึ้นในรอบ 5 ปีถึง 46%  โดยผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า ระยะยาว (Rental Yeild) ของคอนโดพร้อมอยู่ทั้ง 2 ย่านนี้ พบอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน อยู่ที่ประมาณ 5 – 6% จึงนับว่าราคาคอนโดมิเนียมในทำเลนี้ ยังเหมาะสมในการซื้อทั้งเพื่ออยู่อาศัยและเพื่อการลงทุน

สำหรับโครงการ Life Ladprao Valley  จะเปิดขายรอบแรกผ่านระบบ AP i-Booking ในวันพฤหัสบดีที่ 26 กรกฎาคมนี้ เวลา 19.00 – 21.00 น. และมีกำหนดเปิดพรีเซลอย่างเป็นทางการพร้อมกันทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศในวันที่ 4 – 5 สิงหาคม 2561 ราคาเริ่มต้น 3.49 ล้านบาท

วิทการ กล่าวถึง ผลการดำเนินงานของบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ในช่วงครึ่งปีแรก (ม.ค. – มิ.ย. 2561) บริษัทประสบความสำเร็จอย่างมากสามารถสร้างยอดขายรวมของโครงการทั้งกลุ่มคอนโดมิเนียมและแนวราบได้มากถึง 17,300 ล้านบาท เป็นยอดขายคอนโดมิเนียม 7,370 ล้านบาท และยอดขายสินค้าแนวราบ 9,930 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายได้แล้วราว 52% ของเป้ายอดขายปี 2561 ที่ตั้งไว้ 33,500 ล้านบาท  โดยมั่นใจว่าจากการเปิดตัว Life Ladprao Valley และ Life Asoke Hype จะสร้าง Talk of The Town และทำยอดขายลักชัวรี่คอนโดมิเนียมล็อตใหญ่ส่งท้ายปี 2561 ได้อย่างแน่นอน