ตลาดเครื่องดื่มเดือด “น้ำอัดลม-ชาเขียว” ทุ่มงบฯ สาดแคมเปญไล่ตุนยอดขายหน้าร้อน

2685

จากการคาดการณ์ของบริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ จํากัด มีเดียเอเยนซี่รายใหญ่ระบุว่า ในช่วงหน้าร้อนปีนี้ (มีนาคม-พฤษภาคม 2561) สินค้าต่างๆ จะใช้งบโฆษณาผ่านสื่อต่างๆ รวมประมาณ 2.4 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นเดือนมีนาคม 8 พันล้านบาท เมษายน 8.8 พันล้านบาท และพฤษภาคม 7.6 พันล้านบาท

โดยคาดว่ากลุ่มสินค้าที่ทุ่มอัดงบโฆษณาผ่านสื่อกันอย่างครึกโครมในช่วงหน้าร้อนนี้คือ กลุ่มเครื่องดื่ม เครื่องปรับอากาศ พัดลม กลุ่มรถยนต์ รวมถึงผลิตภัณฑ์กันแดด ซึ่งในช่วงดังกล่าวนี้ถือเป็นฤดูกาลการขายของสินค้ากลุ่มนี้

โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องดื่มที่เริ่มปูพรมแคมเปญการขายกันมาเป็นระยะตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาแล้ว ทั้งอัดงบโฆษณาและโปรโมชั่นหวังกวาดยอดขายกันท่วมตลาด

ตลาดน้ำอัดลม 5 หมื่นล้านระอุ

โดยในส่วนของตลาดน้ำอัดลมในประเทศไทยนั้น ปีที่ผ่านมามีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 5.49 หมื่นล้านบาท มีอัตราการเติบโตที่ติดลบถึงราว  4.7%  ซึ่งเป็นผลมาจากสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ยังอ่อนตัว

ปีนี้ “เป๊ปซี่” โดยบริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด ต้อนรับซัมเมอร์ด้วยการทุ่มงบการตลาด 300 ล้านบาทเปิดตัวแคมเปญระดับโลก “เป๊ปซี่ ซ่าทุกยุค…ไม่มีเปลี่ยน” (PEPSI GENERATIONS) เพื่อฉลองครบรอบ 120 ปีของการเป็นแบรนด์ร่วมสมัยที่อยู่ในกระแสนิยมของคนทั่วโลกมาทุกยุค

พร้อมทั้งอัดกิจกรรมการตลาดเต็มรูปแบบตลอดหน้าร้อนตอกย้ำผู้นำ “แบรนด์เลิฟ” อันดับหนึ่งด้วยการสร้างประสบการณ์ร่วมกับผู้บริโภคผ่านอีเว้นท์มาร์เก็ตติ้งกับงาน “PEPSI GENERATIONS CLUB” มัดใจวัยซ่า ด้วยแพ็กเกจจิ้งรุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่น เสื้อผ้าคอลเล็กชั่นพิเศษที่เป๊ปซี่ร่วมมือกับเกรย์ฮาวด์

เพื่อย้ำภาพความเป็นผู้นำตลาดน้ำดำและเป็นแบรนด์ที่มียอดขายเติบโตสูงที่สุดในตลาดในปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ยังเป็นแบรนด์น้ำดำแบรนด์เดียวที่ยังรักษาอัตราการเติบโตได้เป็นบวก ซึ่งสวนทางกับแบรนด์อื่นๆ ในตลาด และยังเป็นแบรนด์ที่ยังคงครองแชมป์อันดับหนึ่งในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น  แบรนด์ที่ผู้บริโภครักและชื่นชอบ (Brand Love) แบรนด์เครื่องดื่มที่เติมเต็มความสดชื่นได้อย่างเต็มที่ (Ultimate Refreshment) และแบรนด์ที่มีความเป็นผู้นำเทรนด์อีกด้วย

ขณะที่แบรนด์ “โค้ก”  ภายใต้การบริหารของ โคคา-โคลา (ประเทศไทย) ส่งแคมเปญใหม่ “ฮูลาฮูล่ากับโค้กหน้าร้อนนี้’”  ต้อนรับเทศกาลแห่งการเดินทางช่วงฤดูร้อน พร้อมร่วมปลุกกระแสการท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยชูความภาคภูมิใจของไทย ในฐานะหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของโลก

นอกจากนี้ยังเปิดตัวฉลากใหม่สุดพิเศษบนกระป๋องและขวดโค้ก PET ที่มากับชื่อและสัญลักษณ์ของจุดหมายในการท่องเที่ยวยอดนิยมทั่วประเทศไทยให้เลือกสะสมถึง 24 ลาย 24 แหล่งท่องเที่ยวของไทยไลต์บนฉลากบรรจุภัณฑ์ของเครื่องดื่มโค้ก ให้คนไทยจะได้สนุกกับการตามเก็บผลิตภัณฑ์ให้ครบทั้ง 24 แบบ หรือสนุกกับการตามหากระป๋อง หรือขวดที่มีลายพิมพ์ที่มีความหมาย เพื่อแบ่งปันความทรงจำดีๆ ร่วมกับคนพิเศษที่รออยู่ที่บ้าน

ไม่เพียงเท่านี้ ผู้บริโภคยังมีสิทธิลุ้นเที่ยวฟรี 60 ทริปสู่จุดหมายปลายทางในฝันทั่วประเทศไทย 21 แห่ง เพียงซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มโค้ก ที่มีฝารุ่นพิเศษ “ฝาสีเหลือง” และร่วมชิงโชคผ่านรหัส 10 หลักใต้ฝาของผลิตภัณฑ์ที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 30 เมษายนนี้ด้วย

“ชาเขียว” เล่นหนัก! แจกรถ-ไอโฟน-แพ็กเกจทัวร์

เช่นเดียวกับกลุ่มเครื่องดื่มชาเขียวที่ทุ่มงบฯ การตลาดอย่างหนักเช่นกัน ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาตลาดชาเขียวหดตัวลงต่อเนื่องนั่นเอง ว่ากันว่าในช่วงที่ตลาดชาเขียวบูมสุดๆ นั้นมูลค่าตลาดพุ่งไปถึง 1.6 หมื่นล้านบาท ปัจจุบันหดตัวเหลือประมาณ 1.3 ล้านบาท  

เริ่มตั้งแต่ “โออิชิ” ที่ทุ่มงบฯ กว่า 300 ล้านบาท จัดแคมเปญ “โออิชิ โอทั้งคู่ ยูเลือกได้” โดยเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคสามารถเลือกของรางวัลเองได้ คือ ทริปเรือสำราญที่ญี่ปุ่น หรือโตโยต้า ยาริส ในช่วงตั้งแต่ 19 กุมภาพันธ์-31 พฤษภาคม 2561 โดยให้ลูกค้าส่งรหัสผ่านช่องทางออนไลน์ โออิชิโมบายแอป และเว็บไซต์

นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมา “โออิชิ” ก็ได้ทยอยส่งสินค้าใหม่ ๆ เข้าตลาดอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นฟรุ๊ตที ชารสผลไม้ หรือชาเขียวผสมวุ้นมะพร้าว พร้อมกับกิจกรรมการตลาดต่าง ๆ เพื่อสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ “อิชิตัน” ก็ทุ่มงบฯ จัดแคมเปญ “อิชิตัน รหัสรวยเปรี้ยง ฝาเดียว 4 คัน ขับมันส์ทั้งบ้าน” แจกรางวัล ผู้โชคดีรางวัลที่หนึ่งของแต่ละสัปดาห์จะได้รับรถถึง 4 คันไปขับขี่กันทั้งครอบครัว พร้อมจัดหนักรางวัลที่สอง ไอโฟน X มากถึง 300 เครื่อง รวมจำนวนรางวัลทั้งสิ้น 310 รางวัล  รวมมูลค่ารางวัลกว่า 33 ล้านบาท ร่วมสนุกส่งรหัสใต้ฝา หรือในกล่องกลุ่มผลิตภัณฑ์อิชิตัน, เย็นเย็น, ไบเล่ และ T247 ทุกขนาดทุกรสชาติ ลุ้นรางวัลทุกสัปดาห์ เริ่ม 1 มีนาคม – 9 พฤษภาคม 2561 นี้

ไม่เพียงเท่านี้ยังมีกองทัพกิจกรรมที่จะมอบของรางวัลแบบว้าวๆ ที่ยากจะคาดเดา ทั้งหมดนี้ก็เพื่อสร้างสีสัน ให้กับตลาดเครื่องดื่มซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดมีความต้องการผลิตภัณฑ์และการแข่งขันสูง อิชิตันจะทำให้ตลาดเครื่องดื่มกลับมาคึกคักอย่างเต็มที่อีกครั้งรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่กำลังขยายตัว

พร้อมตั้งเป้าว่าแคมเปญนี้จะผลักดันให้ยอดขาย เติบโตเฉลี่ยทั้งปี 30% และแคมเปญนี้จะยังช่วยตอกย้ำความเป็นแบรนด์เครื่องดี่มคุณภาพที่ผู้บริโภคพึงพอใจมากที่สุดด้วย

ดังนั้น ตลาดน้ำอัดลมและชาเขียวในปีนี้…จึงไม่มีใครยอมใคร…

จับตา! ชาเขียวฟื้น?

สำหรับภาพรวมของโออิชิในปี 2560 ที่ผ่านมานั้น “โออิชิกรุ๊ป” มีรายได้ (1 ต.ค. 2559 – 30 ก.ย. 2560) จากการขายรวมทั้งสิ้น 13,551 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 0.6% จากปีก่อน โดยแบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจอาหาร 6,497 ล้านบาท เติบโตทรงตัวจากปีที่ผ่านมา (-0.8) ส่วนธุรกิจเครื่องดื่มมีรายได้ 7,054 ล้านบาท เติบโตทรงตัวจากปีที่ผ่านมาเช่นกัน (-0.4%)

ขณะที่กำไรสุทธิรวมเติบโตขึ้นทั้ง 2 ธุรกิจ บริษัทได้ผลกำไรสุทธิรวม 1,443 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.5% จากปีก่อน แบ่งเป็นผลกำไรสุทธิจากธุรกิจอาหาร 210 ล้านบาท เติบโต 76.5% ธุรกิจเครื่องดื่มกำไรสุทธิ 1,233 ล้านบาท เติบโต 22.8%

ส่วน “อิชิตัน กรุ๊ป” ระบุว่า รายได้สำหรับปี 2560 ที่ผ่านมา มีรายได้รวม  5.69 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.54% เมื่อเปรียบเทียบกับปีงบประมาณ 2559 คิดเป็นกำไร 315 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนเล็กน้อย ทั้งนี้ ประเมินว่าภาพรวมธุรกิจในปี 2561 นี้ยังคงมีแรงหนุนจากการเติบโตของยอดส่งออก โดยคาดว่าจะเติบโตได้มากกว่า 20% ซึ่งจะช่วยชดเชยยอดขายตลาดในประเทศที่ยังมีการแข่งขันที่รุนแรง ทั้งนี้คาดว่าบริษัทฯ จะมียอดขายรวมเติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมาราว 7%

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ว่าในปี 2561-2562 นี้ อิชิตัน กรุ๊ป จะมีกำไรที่ 388 ล้านบาท และ 446 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่ “โออิชิ” ยังเป็นแบรนด์ที่ครองแชมป์ชาเขียวได้อย่างแข็งแกร่ง โดยมีส่วนแบ่งการตลาดกว่า 46% นับว่าเป็นแนวโน้มที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง…