พูดถึง อั๊คโซ่ โนเบล ผู้บริโภคชาวไทยอาจจะไม่คุ้นชื่อเท่า ดูลักซ์ หรือสีไอ ซี ไอ บริษัทผู้นำด้านอุตสาหกรรมสีระดับโลกจากแดนกังหันลม เนเธอร์แลนด์ ที่มีอายุมากกว่า 350 ปี ทำธุรกิจอยู่ในมากกว่า 80 ประเทศ และก็ไม่ได้มีเพียงแค่สีทาอาคารที่ผู้บริโภคชาวไทยรู้จักกัน แต่มีสีที่ใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม นับ 100 แบรนด์
และหนึ่งในตลาดสีที่ อั๊คโซ่ โนเบลให้ความสำคัญในตลาดเมืองไทย ไม่แพ้ตลาดสีทาอาคาร นั่นคือ กลุ่มสีผง หรือสีฝุ่น (Powder Coat)
สีผง ถือเป็นนวัตกรรมของสีพ่นวัตถุ ที่ในอดีตเราเคยใช้สีน้ำมัน ที่มีสารโลหะเป็นส่วนประกอบ ทำให้เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ แต่สีผง นอกจากเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่มีไอ ไม่มีสาระเหย หรือกลิ่นฉุนแล้ว ยังให้งานที่ได้ผิวเรียบกว่าสีน้ำมัน สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้เกือบ 100% และที่สำคัญคือ ต้นทุนราคาถูกกว่า
ในปลายปี 2560 ที่ผ่านมา อั๊คโซ่ โนเบลได้เสร็จสิ้นการดำเนินการย้ายโอนกิจการ บริษัท วี.เพาเดอร์เทค จำกัด ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกและผู้ผลิตธุรกิจสีผงชั้นนำของไทย เพื่อจัดจำหน่ายให้แก่กลุ่มอุตสาหกรรม เครื่องใช้ภายในบ้าน เฟอร์นิเจอร์ และกลุ่มอุตสาหกรรมทั่วไป ที่เข้าไปซื้อกิจการมา เพื่อเสริมศักยภาพด้านเทคโนโลยี บริการ และความแข็งแกร่งทางธุรกิจของอั๊คโซ่ โนเบล ภายใต้แบรนด์ อินเตอร์พอน และ วี.พาวเดอร์เทค
มูเนน ฌอง ปอล ผู้จัดการฝ่ายงานสถาปัตยกรรมระดับนานาชาติ บริษัท อั๊คโซ่ โนเบล พาวเดอร์ โค้ทติ้ง กล่าวว่า การเข้าไปซื้อกิจการวี เพาเดอร์เทค นี้จะทำให้ อั๊คโซ่ โนเบล มีโรงงานผลิตสีผงที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน มีเครื่องฉีดสี 10 เครื่อง พร้อมจัดระบบการขนส่งสินค้าของตัวเองด้วยรถบรรทุกขนส่งสินค้าจำนวน 20 คัน สามารถขนสินค้าได้ถึงกว่า 300 ตันต่อวัน ทำให้ลูกค้าจะได้รับการส่งมอบสินค้าตรงเวลา และช่วยให้ธุรกิจดำเนินการได้อย่างรวดเร็วไร้รอยต่อ
“ในระดับโลก อั๊คโซ่ โนเบล เป็นผู้ผลิตสีผงรายใหญ่ที่สุดในโลก ภายใต้แบรนด์ อินเตอร์พอน ทำรายได้ 1.2 ล้านล้านยูโรต่อปี และมีงบในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ R&D มากถึงปีละ 35 ล้านยูโร ขณะที่ในเอเชีย การรวมธุรกิจเข้ากับวี.พาวเดอร์เทค ก็ทำให้เราเป็ผู้ลิตรายใหญ่ที่สุดในเอเชีย เช่นกัน”
ด้าน อลัน อเล็กซ์ ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ ภูมิภาคเอเชียใต้ บริษัท อั๊คโซ่ โนเบล พาวเดอร์ โค้ทติ้ง กล่าวถึงตลาดสีผงในเมืองไทยว่า มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี ตามการเติบโตของ GDP และการให้ความสนใจในสิ่งแวดล้อม เพราะสีผงเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทดแทนสีน้ำมัน โดยตลาดมีการเติบโตปีละ 5-7% สูงกว่า GDP ประเทศ และประเทศไทยถือเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของภูมิภาค เพราะมีมูลค่าที่สูงสุดในภูมิภาค แม้การเติบโตแต่ละปีจะน้อยกว่าเวียดนาม
“ในประเทศไทยมีตลาดสำคัญที่ใช้สีผงใหญ่ๆ หลายตลาด ตั้งแต่ตลาดก่อสร้าง ตลาดยานยนต์ รวมถึงตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า โรงงานฮอนด้าที่มีการผลิตมากขึ้น และการเปิดห้างสรรพสินค้าเฟอร์นิเจอร์ อิเกีย สาขาใหม่ ก็เป็นโอกาสที่สีผงจะเติบโตมากขึ้น”
โดยนอกเหนือจากการซื้อกิจการบริษัท วี.เพาเดอร์เทค จำกัด เพื่อขยายกำลังการผลิตแล้ว ในส่วนของการคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีการใช้งบประมาณปีละกว่า 32 ล้านยูโรต่อปี อั๊คโซ่ โนเบลก็มีการนำเสนอนวัตกรรมของสีผงใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ได้เปิดตัวนวัตกรรมเทรนด์สีผงสำหรับงานด้านสถาปัตยกรรม Futura 2018-2021
มูเนน ฌอง ปอล กล่าวว่า ด้วยความเชี่ยวชาญด้านสีและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ทนทานและมีความยั่งยืนที่ไม่หยุดยั้งของอั๊คโซ่ โนเบล เป็นสิ่งขับเคลื่อนให้เราสร้างสรรค์ คอลเลคชั่นสีผงสำหรับงานสถาปัตยกรรม ฟิวทูรา (Futura) ซึ่งประกอบไปด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อการตกแต่งพื้นผิวพิเศษที่ใช้เคลือบส่วนประกอบโลหะสำหรับงานสถาปัตยกรรมภายนอก รวมทั้งงานเชิงนวัตกรรมที่มีความยั่งยืนและไม่ตกเทรนด์
“แต่ละธีมในคอลเลคชั่นนี้มีความโดดเด่นในเรื่องสี เนื้อสี และเอฟเฟ็คต์ที่สะท้อนถึงการออกแบบและเทรนด์ทางสังคมที่ปรากฏให้เห็นจากทั่วโลก ทั้งนี้ จะเห็นได้ชัดเจนจากผลิตภัณฑ์เพื่อการตกแต่งพื้นผิวที่สร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่ 2 ชนิดได้แก่ เนื้อสีแบบผ้าไหม และผ้าฝ้าย” ประกอบด้วย
ธีม แกลม ซิตี (Glam City) ได้รวมเอาแนวคิดสมัยใหม่นิยม หรือโมเดิร์นนิสท์ และเทรนด์ศิลปะแบบบาโรก รวมเข้ากับความทะมึนของสีโทนเข้มหรือดำที่อยู่ตรงกลางของสีแดง น้ำเงิน และเขียว
ธีม ไทม์ เอาท์ (Time Out) ช่วยสร้างบรรยากาศให้พื้นที่อยู่อาศัยมีความผ่อนคลาย ประกอบด้วยสีโทนอ่อนที่มีพื้นของสีขาวและสีโทนกลางที่นุ่มนวล
ธีม เทรเชอร์ด ไลท์ (Treasured Light) ช่วยกระตุ้นความรู้สึกของประสาทสัมผัสและประกายของโลหะที่มีความประณีตขึ้น เช่นสีทองเหลือง สีทองชมพู สีทองแดงอ่อน และสีเงิน
ธีม ไวลด์ เนเจอร์(Wild Nature) มาพร้อมกับความดั้งเดิม ความดิบของธรรมชาติ ด้วยสีน้ำตาลเอิร์ธโทน สีกากีอ่อน สีเทาของถ่าน และสีดำชาร์โคล
โดยผู้ที่สนใจสามารถดูคอลเลคชั่น ฟิวทูรา (Futura) 2018-2021 ทั้งหมดได้จากแอพพลิเคชั่น ดีไซด์แอพ (Design App) ที่นำเสนอทุกเฉดสีด้วยคุณภาพสูง นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่งสีได้อีกด้วย โดยสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น Design App ได้แล้ววันนี้ในระบบ IOS
มูเนน กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลิตภัณฑ์เพื่อการตกแต่งพื้นผิวซีรี่ส์ใหม่จะช่วยตอบโจทย์ให้ลูกค้าได้ได้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นในทุกสภาพแวดล้อม ขณะเดียวกันยังช่วยส่งเสริมการสร้างอาคารสีเขียวและการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนาคต นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์สีผงอินเตอร์พอน ยังได้รับการยกย่องจากองค์กรที่มีความน่าเชื่อถือด้วยเกียรติบัตรการรับรองสินค้าในด้านสิ่งแวดล้อม Environmental Product Declaration (EPD) ที่รวมถึงการประเมินค่าผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อมของวัตถุดิบที่เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ กระบวนการผลิต การขนส่ง ตลอดจนถึงการนำมาใช้
