เชื่อว่านักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ส่วนใหญ่ อยากมีหุ้นในฝันที่ไม่เพียงแต่มีผลประกอบการที่ดี แต่ต้องมองเห็นอนาคตของธุรกิจไปได้ไกลๆ ซึ่งอาจจะหาไม่ได้ง่ายๆ ในปัจจุบัน เพราะแม้แต่กลุ่มธุรกิจที่เคยแข็งแกร่งในตลาดหลักทรัพย์มายาวนาน อย่างกลุ่มธนาคาร ก็ยังสั่นคลอนจากการคุกคามของเทคโนโลยีได้
และหากบอกว่า ในไตรมาสแรกของปีนี้ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จะมีหุ้นน้องใหม่ที่มีปัจจัยตามที่นักลงทุนต้องการ เป็นธุรกิจเกี่ยวข้องกับเหมืองแร่ ก็อาจจะไม่มีใครเชื่อ เพราะอุตสาหกรรมเหมืองแร่ส่วนใหญ่แทบจะเป็นธุรกิจขาลง มีวงจรชีวิตธุรกิจสั้น แร่หมดความนิยมเปลี่ยน มีวัตถุอื่นทดแทน
แต่ไม่ใช่กับ บมจ. เคมีแมน หรือ CMAN ผู้ผลิตและจำหน่ายปูนไลม์และผลิตภัณฑ์เคมีต่อเนื่องรายใหญ่ที่สุดในไทย ที่ได้รับอนุมัติไฟล์ลิ่งจากสำนักงาน ก.ล.ต เป็นที่เรียบร้อย พร้อมเดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เตรียมขาย IPO ไม่เกิน 240 ล้านหุ้น
ความสำคัญของปูนไลม์ อดิศักดิ์ เหล่าจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคมีแมน จำกัด (มหาชน) หรือ CMAN กล่าวว่า ปูนไลม์ เกิดจากการแปรสภาพแร่ธรรมชาติสู่ผลิตภัณฑ์แร่เคมีพื้นฐานและเคมีสังเคราะห์ เพื่อนำไปเป็นวัตถุดิบหรือส่วนประกอบสำคัญในกระบวนการผลิตสินค้าในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั้งการอุปโภคและบริโภค เช่น ทองคำ ทองแดง สังกะสี อลูมิเนียม นิกเกิล ลิเทียม กราไฟท์ เหล็กและเหล็กกล้า เยื่อกระดาษและกระดาษ น้ำตาล พลาสติกชีวภาพ อาหารสัตว์ แก้ว ขวด กระจก อิฐมวลเบา เป็นต้น รวมไปถึงการช่วยในกระบวนการบำบัดน้ำเสีย การควบคุมแก๊สไอเสียจากโรงงานไฟฟ้าที่แปรรูปจากขยะ
นอกเหนือจากความโดดเด่นของปูนไลม์ที่อยู่เบื้องหลังกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์มากมาย เคมีแมน ยังเป็นผู้ประกอบการในธุรกิจนี้รายเดียวในประเทศไทย ที่ได้รับประทานบัตรเหมืองแร่หินปูนเคมีเพื่อผลิตปูนไลม์ มีอายุยาวนานถึง 25 ปี จากกระทรวงอุตสาหกรรม ที่เหมืองทับกวาง อำเภอแก่งคอย สระบุรี มีปริมาณแร่หินปูนเคมีสำรองมากกว่า 115 ล้านตัน โดยแร่หินปูนเคมีที่นี่ มีปริมาณแคลเซียมสูงเป็นพิเศษ(Ultra-high Calcium Limestone) ทำให้ได้ปูนไลม์ที่มีคุณภาพสูง
ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ 3 ประเภทที่จำหน่ายภายใต้เครื่องหมายการค้า “CHEMEMAN” ได้แก่ 1. ปูนควิกไลม์ หรือแคลเซียมออกไซด์ 2. ปูนไฮเดรตไลม์ หรือแคลเซียมไฮดรอกไซด์ และ 3. แร่หินปูนเคมีและแร่หินปูนเคมีบด หรือแคลเซียมคาร์บอเนต เพื่อจำหน่ายออกสู่ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ในด้านการผลิต เคมีแมน ถือเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมปูนไลม์และผลิตภัณฑ์เคมีต่อเนื่องในภูมิภาคเอเชีย และเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายปูนไลม์รายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยกำลังการผลิตติดตั้งปูนไลม์ ในปี 2560 ราว 800,000 ตันต่อปี จากฐานการผลิต 3 แห่ง ที่อำเภอแก่งคอย สระบุรี, อำเภอพระพุทธบาท สระบุรี และนิคมอมตะซิตี้ ระยอง
“การที่เคมีแมน มีเหมืองแร่ขนาดใหญ่ และมีโรงงานผลิตเป็นของตนเอง ทำให้บริษัทฯ มีความได้เปรียบในเชิงคุณภาพและการบริหารต้นทุนของวัตถุดิบ สามารถแข่งขันด้านราคาได้ เนื่องจากการทำตลาดในระดับโลก ลูกค้าจะมองเรื่องกำลังการผลิตเป็นสำคัญ หากมีขนาดเล็กไม่สามารถรองรับงานของลูกค้าได้ก็เสียโอกาส โดยล่าสุด เคมีแมนก็ได้รับงานจากเจ้าของสัมปทานเหมืองทองขนาดใหญ่ ในปาปัว นิวกินี มาในปีนี้”
จากผลสำรวจภาวะอุตสาหกรรมปูนไลม์ในประเทศไทยโดย Frost & Sullivan เคมีแมน เป็นผู้ประกอบการที่มีส่วนแบ่งตลาดปูนควิกไลม์และปูนไฮเดรตไลม์สูงสุดทั้งการขายในประเทศและการส่งออก โดยในปี 2559 มีส่วนแบ่งการขายปูนควิกไลม์และปูนไฮเดรตไลม์ในประเทศ ร้อยละ 29 และ 21 และมีมูลค่าส่งออก ร้อยละ 81 และ 84 ของมูลค่าส่งออกปูนไลม์รวมของประเทศไทยตามลำดับ โดยสัดส่วนการจำหน่ายของบริษัท จะเป็นการจำหน่ายในประเทศ และส่งออกต่างประเทศเท่ากัน 50:50 ปัจจุบัน เคมีแมน มีฐานลูกค้าครอบคลุมมากกว่า 20 ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชีย ออสเตรเลีย และแอฟริกา โดยบริษัทฯ มีศูนย์กระจายสินค้า 2 แห่งในประเทศออสเตรเลีย รองรับอุตสาหกรรมเหมืองทองขนาดใหญ่
ด้านผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน (มกราคม-กันยายน) ปี 2560 มีรายได้รวม 1,633 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการทำสัญญาซื้อขายระยะยาวกับลูกค้ารายใหญ่ที่เพิ่มขึ้น
สำหรับการเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CMAN กล่าวว่า เคมีแมน มีโครงการขยายการลงทุนเพื่อรองรับดีมานด์ของปูนไลม์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายส่วน ประกอบด้วย
- การขยายกำลังการผลิตติดตั้งปูนควิกไลม์ที่โรงงานแก่งคอยอีกกว่า 100,000 ตันต่อปี รวมเป็นกำลังการผลิตปูนไลม์กว่า 900,000 ตันต่อปี คาดว่าจะเริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 1/2561
- การก่อสร้างคลังสินค้าและไซโลที่โรงงานแก่งคอยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารสินค้าคลัง ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 2/2561
- การร่วมทุนเพื่อดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายปูนไลม์อีก 2 แห่งที่เมือง Visakhapatnam และ Tuticorin ซึ่งเป็นเมืองท่าและเขตอุตสาหกรรมที่สำคัญของประเทศอินเดียอีกด้วย โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ภายในปี 2562
อดิศักดิ์กล่าวว่า เมื่อรวมกำลังการผลิตที่จะเพิ่มขึ้นทั้งในประเทศไทย และโรงงานในอินเดีย จะทำให้เคมีแมน จะมีกำลังการผลิตในปี 2562 สูงกว่า 1 ล้านตันต่อปี และจะก้าวขึ้นติดอันดับผู้ผลิตรายใหญ่ 1 ใน 10 ของโลก โดยโรงงานในอินเดียจะใช้วัตถุดิบจากตะวันออกกลาง เช่น โอมาน, อิหร่าน ขณะที่ในอาเซียน ก็กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาเข้าไปทำเหมืองแร่หินปูนเคมีในลาว และเวียดนาม
“บริษัทฯ มีวิสัยทัศน์ที่จะเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมปูนไลม์และผลิตภัณฑ์เคมีต่อเนื่อง 1 ใน 10 อันดับแรกของโลก ด้วยการวางรากฐานบริษัทให้ใหญ่เทียบเท่าระดับ World Class พร้อมทั้งมุ่งมั่นที่จะสร้างความสมดุลให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย และมีเป้าหมายขยายฐานลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่พึงพอใจแก่ผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง และพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืนบนหลักบรรษัทภิบาลที่ดี” อดิศักดิ์กล่าว
ด้านไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ตัวแทนที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า บริษัทฯ มีศักยภาพการเติบโตที่ดีและมีความพร้อมเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยปัจจุบัน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ได้อนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟล์ลิ่ง) เป็นที่เรียบร้อย เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 240 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO โดยจะนำเงินที่ได้ไปขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศคืนเงินกู้จากสถาบันการเงินและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ ทั้งนี้จะกำหนดวันที่เสนอขายหุ้น IPO และคาดว่าจะนำ บมจ.เคมีแมน เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ในไตรมาส 1/2561
“ในอดีตหุ้นเหมืองแร่ นักลงทุนอาจจะไม่ชอบ เพราะวงจรชีวิตธุรกิจสั้น คาดเดาได้ แต่เคมีแมน มีเหมืองแร่ที่สามารถใช้ประโยชน์กับหลากหลายอุตสาหกรรม และสามารถส่งออกไปในหลากหลายประเทศ ทำให้มีการกระจายความเสี่ยงทั้งในส่วนของธุรกิจ และฐานลูกค้าที่มีจากนานาอุตสาหกรรม และยังมาจากนานาประเทศ ทำให้นักลงทุนไม่ต้องกังวลว่าธุรกิจจะมีขาลงตามอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่ง เพราะปูนไลม์ใช้ได้กับทุกอุตสาหกรรม ถือเป็นหุ้นที่น่าสนใจมาก”
