รวม 9 คนบันเทิง “นักวิ่งสายแข็ง”

11779

ทันทีที่ ตูน บอดี้สแลม ออกสตาร์ทก้าวแรกจากจุดใต้สุดแดนสยาม ณ อ.เบตง จ.ยะลา ในโครงการ “ก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ” นอกจากจะสร้างปรากฏการณ์คืนความสุขแก่พี่น้องทั้งชาวไทยพุทธและไทยมุสลิมตลอดสองข้างทาง และขยายวงกว้างเป็นความสุขร่วมกันของคนไทยทั้งประเทศอยู่ในขณะนี้แล้ว ตูนยังกลายเป็นแรงบันดาลใจให้คนส่วนใหญ่หันมาเริ่มต้นออกกำลังกายด้วยการวิ่งมากขึ้น

ในแวดวงคนบันเทิง นอกจากตูนแล้ว ยังมีอีก 9 หนุ่มสาวที่หลงรักการวิ่งเป็นชีวิตจิตใจ เข้าข่าย “นักวิ่งสายแข็ง” ผู้ผ่านสนามแข่งวิ่งมาราธอนทั้งในและต่างประเทศมาแล้ว มีใครบ้าง มาดูตามลำดับอายุกันเลย!!

1. ปู-ไปรยา ลุนด์เบิร์ก วัย 28 ปี

ถึงภารกิจทูตสันถวไมตรี UNHCR คนแรกในอาเซียน และในฐานะนางแบบสังกัดโมเดลลิ่งชื่อดังระดับโลกที่สหรัฐอเมริกา จะทำให้ต้องเดินทางไกลอยู่บ่อยครั้ง แต่ปู ไปรยา ก็ยังคงเล่นกีฬาอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการลงแข่งวิ่งระยะไกล ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันกรุงเทพมาราธอน ครั้งที่ 28 ระยะทาง 42.195 กิโลเมตร หรือการแข่งขันไตรกีฬานานาชาติ 2559 ที่ค่ายนเรศวร อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ในโปรแกรมไตรกีฬาระยะสั้นประเภททีม ซึ่งปูก็สามารถวิ่งปิดท้ายเข้าเส้นชัยในระยะ 10.8 กิโลเมตรได้อย่างสวยงาม2. แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์ วัย 29 ปี

เพราะเคยเป็นอดีตนักกีฬาสาธิตสามัคคี นักกรีฑาเหรียญทองประเภทวิ่ง 4×100 เมตร และ 4×200 เมตร สมัยเป็นนักเรียนมัธยมมาแล้ว แพนเค้กจึงยังคงลงสนามแข่งวิ่งอยู่บ่อยครั้ง แต่ครั้งล่าสุดที่ได้ไปร่วมวิ่งกับตูน บอดี้สแลม ในวันแรกของโครงการ “ก้าวคนละก้าว” จากจุดสตาร์ทที่อ.เบตง เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา แพนเค้กถึงกับออกปาก ไม่เคยวิ่งไกลที่สุดขนาดนี้มาก่อน!!3. ดีเจพุฒิ-พุฒิชัย เกษตรสิน วัย 31 ปี

ดีเจนักแสดงหนุ่มหน้าหวาน แต่ความแข็งแกร่งเป็นเลิศ เพราะดีเจพุฒิก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ไม่พลาดลงสนามแข่งวิ่งมาราธอนรายการต่างๆ อาทิ BDMS กรุงเทพมาราธอน ฯลฯ รวมถึงรายการวิ่งการกุศล เช่น โครงการ 3 สถาบันแพทย์ วิ่งปั่นปันน้ำใจเพื่อผู้ป่วยยากไร้ ที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และล่าสุด ดีเจพุฒิก็ยังมาร่วมวิ่งในโครงการ “ก้าวคนละก้าว” กับตูน บอดี้สแลมด้วย

4. ก้อย-รัชวิน วงศ์วิริยะ วัย 33 ปี

ดารานักวิ่งสาวที่ได้รับการกล่าวขานถึงมากที่สุดในชั่วโมงนี้ จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ก้อย-รัชวิน กำลังใจคนสำคัญที่วิ่งเคียงข้างตูนตั้งแต่ก้าวแรกจากอ.เบตง ก่อนหน้านี้ก้อยลงแข่งวิ่งบางรายการ แต่ในช่วงหลังก็หันมาฟิตซ้อมอย่างต่อเนื่องเพื่อจะได้ก้าวไปกับตูนจนถึงอ.แม่สาย ด้วยเหตุผลที่กินใจว่า “…ความสุขที่นอกเหนือจากการได้สุขภาพที่แข็งแรงนั้น คือการที่ได้รู้ว่ามีคนที่พร้อมจะสู้ไปกับคุณและคอยเป็นกำลังใจให้กัน..”

5. นัท-ณัฐ ศักดาทร วัย 34 ปี

สมัยประกวด AF ก็ปล่อยพลังจนคว้าแชมป์ฤดูกาลที่ 4 พอเบนเข็มมาลงสนามแข่งวิ่ง หนุ่มนัทก็ทุ่มสุดตัวจนทำสถิติฟูลมาราธอนครั้งแรก ระยะทาง 42.195 กิโลเมตร ด้วยเวลาเพียง 4.06 ชั่วโมง ก่อนจะโกอินเตอร์ครั้งแรกในรายการฮอกไกโดมาราธอน 2016 และโตเกียวมาราธอน 2017 ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยสามารถทำลายสถิติของตัวเอง ด้วยระยะทาง 42 กิโลเมตร ในเวลาเพียง 3.50 ชั่วโมง

6. หมอก้อง-สรวิชญ์ สุบุญ วัย 34 ปี

งานหลักเป็นนายแพทย์หนุ่มประจำสำนักงานแพทย์ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม งานรองเป็นนักแสดงและพิธีกรสังกัดช่อง 3 แต่งานอดิเรกที่หมอก้องให้ความสำคัญที่สุดก็คือการออกกำลังกาย โดยเฉพาะการวิ่ง ที่เจ้าตัวมักจะลงแข่งวิ่งเมื่อมีโอกาส โดยรายการล่าสุดที่หมอก้องเพิ่งจะลงสนามก็คือ งานเดิน-วิ่ง 80 ปี เตรียมอุดมศึกษามินิมาราธอน เมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา

7. นาวิน ต้าร์ วัย 38 ปี

นอกจากจะเป็นนักร้อง นักแสดง และอาจารย์ในมหาวิทยาลัยแล้ว จากที่เคยคิดว่าตัวเองคงออกกำลังกายอะไรกับเขาไม่ได้ แต่หนุ่มต้าร์ก็สามารถเอาชนะตัวเอง กลายเป็นหนุ่มบ้าพลังในสนามแข่งขันไตรกีฬา ที่ทั้งวิ่งมาราธอน ปั่นจักรยานทางไกล และว่ายน้ำ โดยมีเป้าหมายว่า ครั้งหนึ่งในชีวิตจะต้องไปลงแข่งไตรกีฬารายการ Ironman World Championship Kona ที่ฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกาให้ได้!!

8. โย-ยศวดี หัสดีวิจิตร วัย 38 ปี

ดารานางแบบสุดไฮเปอร์ที่หันมาฝึกซ้อมวิ่งอย่างหนัก จนสามารถลงแข่งในรายการวิ่งมาราธอนระดับโลก ถึง 2 จาก 6 รายการ เริ่มจากโตเกียวมาราธอน 2016 ที่ประเทศญี่ปุ่น ระยะทาง 42.195 กิโลเมตร ในเวลา 5.32 ชั่วโมง ต่อด้วยเบอร์ลินมาราธอน 2016 ที่ประเทศเยอรมนี โดยสามารถทำลายสถิติตัวเองด้วยเวลาเพียง 5.08 ชั่วโมง ล่าสุด โยได้มาร่วมวิ่ง “ก้าวคนละก้าว” กับตูนด้วย แต่โดนสุนัขกัดระหว่างทาง โยจึงต้องถอนตัวออกไปก่อนอย่างน่าเสียดาย

9. ทนงศักดิ์ ศุภทรัพย์ วัย 55 ปี

พี่ใหญ่ของน้องๆ ดารานักวิ่ง ที่เริ่มออกวิ่งเมื่อครั้งเฝ้าไข้ภรรยาคนแรกที่โรงพยาบาลจุฬาฯ แล้วมองจากตึกลงมาเห็นสวนลุมพินี กระทั่งเมื่อภรรยาเสียชีวิต ทนงศักดิ์จึงออกวิ่งมาราธอนครั้งแรกจากกรุงเทพฯ ถึงจ.เชียงราย ระยะทาง 930 กิโลเมตร เป็นเวลา 35 วัน เพื่อรณรงค์ให้ผู้คนใส่ใจสุขภาพ นับแต่นั้น เขาก็กลายเป็นนักวิ่งผู้สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนทั่วไป และที่ถือเป็นรางวัลใหญ่ในชีวิตก็คือการได้พบรักอีกครั้งกับสาวนักวิ่งรุ่นน้องนั่นเอง

อ่านมาถึงประโยคสุดท้าย คงต้องขอตัวไปวิ่งบ้างดีกว่า…

ขอขอบคุณภาพจาก IG : prayalundberg, khemanito, push_dj, rachwinwong, natsakdatorn, kong_sarawit, navintar, yoyossavadee, FB : ทนงศักดิ์ ศุภทรัพย์