นันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด (“SCBAM”) เปิดเผยว่าภาพรวมเศรษฐกิจปีนี้ ยังมีความท้าทายจากความไม่แน่นอนด้านนโยบายการเงินและการปรับลดดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้นจริงของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และความผันผวนของตลาดหุ้น ในเชิงของการปรับพอร์ตลงทุนจึงมองว่าการมีตราสารหนี้ในพอร์ตยังเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยกระจายความเสี่ยง มีโอกาสสร้างกระแสเงินสด พร้อมเสริมเสถียรภาพสมดุลพอร์ตให้เหมาะสมกับภาวะตลาดได้ ทั้งนี้ จากการเสนอขายกองทุนใหม่ในช่วงที่ผ่านมา การลงทุนที่มีโอกาสให้ผลตอบแทนส่วนเพิ่มจากสัญญาออปชั่น เป็นกลยุทธ์ที่นักลงทุนให้การตอบรับอย่างดี สะท้อนผ่านกระแสเรียกร้องที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับ SCBAM มองว่าตลาดหุ้นไทยยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะการลงทุนเพื่อหาผลตอบแทนกับดัชนี SET50 ที่เป็นศูนย์รวมของหุ้นไทยที่มีปัจจัยพื้นฐานแกร่ง มีศักยภาพการเติบโตที่โดดเด่น และมีโอกาสปรับตัวขึ้นจากเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มขยายตัว ทั้งภาคการส่งออก ที่คู่ค้าหลายประเทศอาจเร่งนำเข้าสินค้าก่อนที่สงครามการค้าจะขยายตัวในวงกว้าง และการบริโภคในประเทศ จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ SCBAM จึงเปิดกองทุน SCBCR1YW หรือ “กองทุนเปิดไทยพาณิชย์คอมเพล็กซ์รีเทิร์น 1YW ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย” กำหนดเสนอขายวันที่ 10 – 17 กุมภาพันธ์ 2568 เริ่มต้นเงินลงทุนขั้นต่ำ 500,000 บาท เพื่อเป็นทางเลือกให้นักลงทุนที่ยังต้องการปรับสมดุลพอร์ตเพิ่มเติม

กองทุน SCBCR1YW เป็นกองทุน Complex Fund อายุ 1 ปี ที่ยังเน้นจุดเด่นกลยุทธ์ลงทุนต่อการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนแบบลดความเสี่ยงขาดทุนเงินต้น และโอกาสรับผลตอบแทนส่วนเพิ่มจากสัญญาออปชั่นที่เชื่อมโยงกับการปรับตัวของดัชนี SET50 ซึ่งจะแบ่งนโยบายลงทุนออกเป็น 2 ส่วน คือ (1) การลงทุนตราสารหนี้และเงิ
นันท์มนัส กล่าวเพิ่มเติมว่า “การจัดพอร์ตลงทุนให้สมดุลเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่อยากให้นักลงทุนมองข้าม เพราะเป็นส่วนที่เสริมให้พอร์ตลงทุนมีความทนทานต่อตลาดทุน หากเกิดปัจจัยที่ทำให้เกิดความผันผวน ซึ่งกองทุน SCBCR1YW จะช่วยสร้างสมดุลจากโอกาสที่ได้รับกระแสเงินสดที่มั่นคง จากการลงทุนในตราสารหนี้และเงินฝากกว่า 90% ขณะที่ ยังมีโอกาสรับผลตอบแทนส่วนเพิ่มจากการลงทุนผ่านสัญญาออปชั่นจากกลุ่มหุ้นไทยพื้นฐานดีที่อ้างอิงตามดัชนี SET50 และอาจจะมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ ซึ่งจะทำให้พอร์ตมีโอกาสเติบโตได้อย่างสมดุล”