BLC โชว์ผลงาน 9 เดือน New High ทำกำไรสุทธิ 121.3 ล้านบาท พุ่ง 20.5%

325

‘บมจ. บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค หรือ BLC’ ประกาศผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปี 2567 ทำสถิติสูงสุดใหม่กวาดรายได้จากการขายและให้บริการรวม 1,134 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 121.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.2% และ 20.5% ตามลำดับเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ประเมินแนวโน้มไตรมาส 4/2567 ยังเติบโตต่อเนื่อง รับปัจจัยบวกจากสังคมสูงวัย-เทรนด์สุขภาพหนุนโต พร้อมเตรียมลุยตลาด E-Commerce เต็มสูบ มุ่งสร้างการรับรู้ของแบรนด์ วางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายร้านยาชั้นนำทั่วประเทศ พร้อมนำผลิตภัณฑ์ยาเข้าจดทะเบียนในต่างประเทศ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

ภก.สุวิทย์ งามภูพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค จำกัด (มหาชน) หรือ BLC ผู้ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบัน ประเภทยาสามัญ และยาสามัญใหม่ ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ผลิตภัณฑ์ยาสำหรับสัตว์ และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพครบวงจร ครอบคลุมกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์อื่นๆ เปิดเผยว่า บริษัทฯ สามารถทำผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง นับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2566 สะท้อนความแข็งแกร่งของพื้นฐานธุรกิจ และศักยภาพการเติบโตตามแผนที่วางไว้ โดยในช่วงไตรมาส 3/2567 (กรกฎาคม – กันยายน) บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 398.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 43.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เป็นผลมาจากการเดินหน้ากลยุทธ์สร้าง Brand awareness อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการออกบูธ และประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคอย่างครอบคลุม ส่งให้ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน ปี 2567 (มกราคม – กันยายน) มีรายได้จากการขายและการให้บริการรวม 1,134 ล้านบาท เติบโต 12.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะที่กำไรสุทธิทำได้ 121.3 ล้านบาท เติบโต 20.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BLC กล่าวว่า บริษัทฯ ประเมินผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/2567 ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบของประเทศไทย ซึ่งจะส่งผลให้ความต้องการใช้ยาที่เกี่ยวข้องกับโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้ง เทรนด์สุขภาพที่เน้นการใช้เทคโนโลยีชีวภาพ (Biotech)  ยังช่วยให้การเข้าถึงการรักษาง่ายขึ้น นอกจากนี้ ผู้บริโภคหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพทั้งภายในและภายนอกมากขึ้น เห็นได้จากความนิยมในการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องสำอาง ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่นิยมซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น จึงเตรียมความพร้อมรุกตลาดอีคอมเมิร์ซเต็มสูบ

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยส่งเสริมการเติบโต จากการนำผลิตภัณฑ์นวัตกรรมสมุนไพรจากพริก เข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร ทำให้ใช้สวัสดิการประกันสุขภาพของรัฐบาลเบิกจ่ายได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงยาของผู้ป่วย และสนับสนุนยอดขายให้เติบโตขึ้น รวมทั้ง การทำ Brand awareness ซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญของบริษัทฯ ในการเดินหน้าสร้างแบรนด์ในพอร์ตโฟลิโอให้แข็งแกร่ง เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน โดยมุ่งเน้นการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก ผ่านการเป็นสปอนเซอร์ให้รายการประกวด, การแข่งขันกีฬา และการใช้ Influencer Marketing เพื่อสร้างการับรู้ของแบรนด์ และเข้าถึงผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น อีกทั้งบริษัทฯ มีแผนที่จะนำยาสามัญ และยาสามัญใหม่ เข้าจดทะเบียนในตลาดต่างประเทศมากขึ้น และขยายช่องทางการจัดจำหน่ายครอบคลุมทุกร้านขายยาชั้นนำทั่วประเทศ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างครอบคลุม พร้อมทั้งขยายช่องทางการจำหน่ายออนไลน์ ผ่านแพลตฟอร์ม Shopee, TikTok และ Facebook และวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และผลักดันรายได้เติบโตตามเป้า

“BLC มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ยา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ผลิตภัณฑ์ยาสำหรับสัตว์ และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพครบวงจร ที่มีคุณภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยกลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง และการปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด จะช่วยผลักดันให้ BLC บรรลุเป้าหมายการเติบโตที่วางไว้    และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างยั่งยืน” ภก.สุวิทย์ กล่าว