‘บริษัท วาย.เอส.เอส. (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)’ หรือ ‘YSS’ ผู้นำในการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์โช้คอัพประสิทธิภาพสูง (High-Performance) ภายใต้แบรนด์ ‘YSS’ เตรียมพร้อมเสนอขาย IPO จำนวนไม่เกิน 160 ล้านหุ้น เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายหลังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) นับหนึ่งไฟลิ่ง ชูจุดเด่นการเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์โช้คอัพสัญชาติไทยระดับโลก ที่ได้รับการยอมรับจากผู้ชนะการแข่งขันระดับโลก (World Champion Product) มุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรม “ระบบกันสะเทือน” เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย
ภิญโญ พานิชเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วาย.เอส.เอส. (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ YSSผู้ค้นคว้า วิจัย พัฒนา และเป็นผู้ผลิต และจัดจำหน่ายโช้คอัพประสิทธิภาพสูง (High-Performance) ชั้นนำระดับโลกของไทยสำหรับรถจักรยานยนต์และรถยนต์ ภายใต้แบรนด์ ‘YSS’ เปิดเผยว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์โช้คอัพประสิทธิภาพสูง (High-Performance) เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างครอบคลุม ทั้งกลุ่มผู้แข่งรถมืออาชีพและกลุ่มผู้ใช้ยานยนต์ทั่วไป ผ่านการวิจัย พัฒนา และสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยมีทีมวิจัยและพัฒนาใน 8 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ ประเทศไทย เนเธอร์แลนด์ อิตาลี สเปน เยอรมัน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ผลักดันให้ YSS เป็นผู้นำผลิตภัณฑ์โช้คอัพสัญชาติไทยระดับโลก ที่ได้รับการยอมรับจากผู้ชนะการแข่งขันระดับโลก (World Champion Product) การันตีด้วยรางวัล Prime Minister’s Export Award 2019 และมาตรฐานสินค้าระดับสากล อาทิ มาตรฐาน ABE จากสถาบัน KBA ประเทศเยอรมนี
บริษัทฯ มุ่งสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน โดยใช้จุดแข็ง 6 ประการ ดังนี้
1) ผู้พัฒนา ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย แบรนด์ผลิตภัณฑ์โช้คอัพประสิทธิภาพสูง (High Performance) ชั้นนำของประเทศไทย แบรนด์ YSS ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้ในหลากหลายประเทศทั่วโลก ด้วยการเป็นผู้นำในการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์โช้คอัพประสิทธิภาพสูง (High-Performance) ที่ได้รับการยอมรับจากผู้ชนะการแข่งขันระดับโลก (World Champion Product) และการันตีด้วยรางวัล Prime Minister’s Export Award 2019 และมาตรฐานสินค้าระดับสากล เช่น มาตรฐาน ABE จากสถาบัน KBA ประเทศเยอรมนี
2) มีเครือข่ายช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าที่กว้างขวาง บริษัทฯ มีช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลายและครอบคลุม ทั้งในและต่างประเทศ ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้อย่างทั่วถึง ผ่านเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายกว่า 1,900 รายทั่วประเทศ และตัวแทนจัดจำหน่ายในต่างประเทศกว่า 30 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุม 5 ทวีป พร้อมทั้งวางแผนขยายช่องทางการจัดจำหน่ายโดยตรง เพื่อเพิ่มความหลากหลายของสินค้าและเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น
3) มีทีมงานวิจัยและพัฒนาทั้งในและต่างประเทศ เพื่อออกแบบ ปรับปรุง และพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ด้วยการสะสมองค์ความรู้ (Know-how) และกลยุทธ์การยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุดและทันต่อสถานการณ์ตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
4) มีความสามารถในการทำกำไรสูงเมื่อเปรียบเทียบกับอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ รวมถึงมีโอกาสในการขยายธุรกิจเพื่อเติบโตในตลาดใหม่ บริษัทฯ มีอัตรากำไรสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดอย่างต่อเนื่องในช่วงปี 2564-2566 โดยเน้นกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ YSS ให้เป็นสินค้าพรีเมียม และมุ่งเน้นการผลิตโช้คอัพสมรรถนะสูง ส่งผลให้มีอำนาจในการตั้งราคาและสร้างผลกำไรที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ YSS ยังมีโอกาสเติบโตผ่านการขยายผลิตภัณฑ์ไปยังตลาดใหม่ เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า จักรยานเสือภูเขา และการขยายตลาดต่างประเทศ
5) มีผลิตภัณฑ์โช้คอัพที่หลากหลาย ครอบคลุมความต้องการของผู้ใช้งานทั้งในและต่างประเทศ บริษัทฯ เป็นผู้นำด้านระบบกันกระเทือนระดับโลก นำเสนอผลิตภัณฑ์โช้คอัพที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้ใช้งานทั้งในและต่างประเทศ ด้วยการวิจัย พัฒนา ผลิต และจัดจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับระบบกันกระเทือนชั้นนำมากกว่า 9,000 รายการ ครอบคลุมรถจักรยานยนต์ รถยนต์ เอทีวี ยูทีวี และยานยนต์ชนิดต่างๆ กว่า 3,000 รุ่น โดยมีผลิตภัณฑ์โช้คอัพที่หลากหลายทั้งในด้านวัตถุประสงค์ เทคโนโลยี และการใช้งาน เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ทุกระดับ ตั้งแต่ผู้แข่งรถมืออาชีพ ไปจนถึงผู้ใช้ยานยนต์ทั่วไป
6) ผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมมาอย่างยาวนาน ทำให้สามารถนำพาบริษัทฯ ให้เติบโตและก้าวผ่านความท้าทายต่างๆ ได้อย่างมั่นคง ด้วยจุดแข็งทั้ง 6 ประการนี้ ส่งผลให้ YSS มีความพร้อมในการเติบโตและขยายธุรกิจ เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำในตลาดผลิตภัณฑ์โช้คอัพประสิทธิภาพสูง (High-Performance) ในระดับโลกอย่างยั่งยืน และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างมั่นคงในระยะยาว
นลิน วิริยะเสถียร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า หลังจาก YSS ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ล่าสุด สำนักงาน ก.ล.ต. ได้นับหนึ่งไฟลิ่งแล้ว ทั้งนี้ บริษัทฯ จะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 160 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท คิดเป็น 26.67% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญครั้งนี้ แบ่งเป็น 1) เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทวาย.เอส.เอส. (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จำนวนไม่เกิน 100 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท คิดเป็น 16.67% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญครั้งนี้ 2) เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ Victory Rise Holding Limited ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเดิม จำนวนไม่เกิน 60 ล้านหุ้น คิดเป็น 10% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญครั้งนี้ โดยบริษัทฯ โดยมีแผนนำเงินไปใช้ ลงทุนในเครื่องจักรและปรับปรุงกระบวนการผลิต การวิจัย และพัฒนาสินค้าใหม่ ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายในหรือต่างประเทศ ชำระเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ซึ่งการเพิ่มทุนในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของบริษัทฯ และเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนได้ลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทที่เป็นความภาคภูมิใจของคนไทยและได้รับการยอมรับในระดับโลก