บลจ.ไทยพาณิชย์ เปิดตัวกองทุนใหม่ SCBCR1YQ ยกระดับโอกาสสร้างผลตอบแทนการลงทุน ผสานตราสารหนี้ที่ช่วยลดความเสี่ยงขาดทุนเงินต้น พร้อมหาผลตอบแทนส่วนเพิ่มกับดัชนีหุ้นไทย SET50 เสนอขายวันที่ 9-17 กันยายน นี้
นันท์มนัส เปี่ยมทิพมนัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ SCBAM เปิดเผยว่า “แม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจโลกจะมีความไม่แน่นอน ซึ่งส่งผลต่อความผันผวนของตลาดทุน ภาพรวมตลาดหุ้นปีนี้ยังคงมีแนวโน้มเติบโตได้ดีในบางกลุ่มอุตสาหกรรม โดยการลงทุนในบริษัทที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งและมีแนวโน้มเติบโตจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ในขณะเดียวกัน การกระจายความเสี่ยงในพอร์ตลงทุนเพื่อจัดการกับความผันผวนนี้ก็มีความสำคัญ SCBAM มองว่าการลงทุนในตราสารหนี้ยังคงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการกระจายสัดส่วนพอร์ต โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่อัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งสามารถช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนในตลาดทุนได้ นอกจากนี้ เศรษฐกิจไทยมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ดี โดยไตรมาส 2 ของปี 2567 GDP ขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 2.3 และคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีโอกาสในการหาผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารหนี้และหุ้นไทยในอนาคต ด้วยเหตุนี้ นักลงทุนควรพิจารณากลยุทธ์การลงทุนที่สามารถสร้างโอกาสในการทำกำไรควบคู่ไปกับการจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้พอร์ตการลงทุนมีการเติบโตและความมั่นคงในระยะยาว SCBAM จึงเปิดเสนอขายกองทุน SCBCR1YQ หรือ “กองทุนเปิดไทยพาณิชย์คอมเพล็กซ์รีเทิร์น 1YQ ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย” กองทุนที่จะเสริมมูลค่าให้พอร์ตลงทุน ด้วยกลยุทธ์ลงทุนที่มุ่งหวังโอกาสการสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่าได้ โดยจะเปิดเสนอขายครั้งเดียววันที่ 9 – 17 กันยายน 2567 เริ่มต้นลงทุนขั้นต่ำ500,000 บาท
กองทุน SCBCR1YQ เป็นกองทุน Complex Fund อายุ 1 ปี ที่มีนโยบายและกลยุทธ์ลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนจากการแบ่งเงินลงทุนออกเป็น 2 ส่วนคือ (1) ลงทุนตราสารหนี้และเงินฝากระดับ Investment Grade ทั้งในและต่างประเทศ ประมาณร้อยละ 99.85 ของทรัพย์สินกองทุน ทำให้การลงทุนส่วนนี้มีความผันผวนต่ำ มีโอกาสช่วยลดความเสี่ยงการขาดทุนเงินต้นและความเสี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ โดยกองทุนจะได้รับเงินต้นคืนพร้อมดอกเบี้ยเมื่อครบกำหนดอายุโครงการ และ(2) ลงทุนโดยการเข้าทำธุรกรรมสัญญาออปชั่น Digital Call สัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีเงื่อนไขการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับดัชนี SET50 ประมาณร้อยละ 0.15 ของทรัพย์สินกองทุน เพื่อเสริมโอกาสในการสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่ม โดยในวันพิจารณาผลตอบแทน หากระดับดัชนี SET50 ปรับขึ้นเท่ากับหรือมากกว่า 10% จากวันที่เริ่มต้นสัญญา ผู้ถือหน่วยจะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนส่วนออปชั่นตามเงื่อนไข โดยกองทุนมีกำหนดจ่ายผลตอบแทนครั้งเดียวในวันครบอายุโครงการ(*ผู้ลงทุนสามารถศึกษาข้อมูลลักษณะการจ่ายผลตอบแทนของกองทุนเพิ่มเติมได้จากหนังสือชี้ชวน)
นันท์มนัส กล่าวเพิ่มเติมว่า “ตลาดหุ้นไทยอาจยังมีความผันผวนระยะสั้นจากปัจจัยภายนอก เช่น โอกาสการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยของทางสหรัฐฯ และ การเลือกตั้งในสหรัฐฯ ในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ แต่หากมองปัจจัยภายในประเทศ เศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มการฟื้นตัวต่อเนื่อง หลังจากที่บรรยากาศทางการเมืองภายในประเทศเริ่มผ่อนคลาย มีแนวทางนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ และการเพิ่มขึ้นของแรงขับเคลื่อนจากการใช้จ่ายและการลงทุนของภาครัฐ จะช่วยสนับสนุนการขยายตัวของการอุปโภคบริโภคภายในประเทศ รวมถึงการพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และธนาคารแห่งประเทศไทยในระยะถัดไป อีกทั้งคาดว่าจะมีเงินลงทุนจากกองทุน Thai ESG ลดหย่อนภาษี และกองทุนวายุภักษ์ มาช่วยสนับสนุนให้ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อโอกาสการสร้างผลตอบแทนให้พอร์ตลงทุนได้”
(*)กองทุน SCBCR1YQ เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารที่มีความซับซ้อน (Complex Fund) และห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย เนื่องจากการลงทุนในผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนที่มีความเสี่ยงสูงหรือมีความซับซ้อนซึ่งมีปัจจัยอ้างอิง มีความแตกต่างจากการลงทุนในปัจจัยอ้างอิงโดยตรง จึงอาจทำให้ราคาของผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนมีความผันผวนแตกต่างจากราคาของปัจจัยอ้างอิงได้ (ในกรณีที่เป็นกองทุนรวมที่มีปัจจัยอ้างอิง (underlying asset) และกำหนดเงื่อนไขการจ่ายผลตอบแทนโดยอ้างอิงกับปัจจัยอ้างอิงดังกล่าว โปรดศึกษารายละเอียดข้อมูลการจ่ายผลตอบแทนจากหนังสือชี้ชวน) ทั้งนี้ กองทุนยังมีความเสี่ยงในการผิดชำระหนี้ (default risk)ที่เกิดขึ้นจากการผิดชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร/เงินฝาก และ/หรือ จากการผิดชำระหนี้ของผู้ออกสัญญา/คู่สัญญา ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้ลงทุนไม่ได้รับเงินต้นคืนเต็มจำนวน และ/หรือ ไม่ได้รับผลตอบแทนจากธุรกรรม Interest Rate Swap ได้ บริษัทจัดการจะใช้ดุลพินิจในการเปลี่ยนแปลงทรัพย์สินที่ลงทุนหรือสัดส่วนการลงทุนได้ต่อเมื่อเป็นการดำเนินการภายใต้สถานการณ์ที่จำเป็นและสมควรเพื่อรักษาผลประโยชน์ของผู้ลงทุนเป็นสำคัญ โดยไม่ทำให้ความเสี่ยงของทรัพย์สินที่ลงทุนเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ ผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนในช่วงเวลา 1 ปีตามอายุกองทุน ดังนั้น หากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมากได้
ผู้สนใจลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนทำการลงทุน ขอคำแนะนำที่ปรึกษาทางการเงินของท่าน และสามารถศึกษาข้อมูลกองทุนจากหนังสือชี้ชวนเพิ่มเติม เพื่อทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน สอบถามและขอคำแนะนำการลงทุนเพิ่มเติมที่ บลจ.ไทยพาณิชย์ โทร.02 777 7777 และผู้สนับสนุนการขายทุกราย หรือดูรายละเอียดกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ https://scbam.info/4dQKyA5 หรือสนใจเปิดบัญชีกองทุนผ่านแอปพลิเคชัน SCBAM Fund Click ได้ที่ https://scbam.link/scbam_fund_click