บอร์ด SKR ไฟเขียวควัก 370 ล้านบาท จ่ายเงินปันผล 0.18 บาท/หุ้น โชว์ผลงานไตรมาส 4/66 แข็งแกร่งทั้งรายได้-กำไรสุทธิ หนุนภาพรวมทั้งปี 66 กำไรสุทธิแตะ 891 ล้านบาท พร้อมรักษาอัตรากำไร 15.23% สูงกว่าภาพรวมอุตสาหกรรม ปักหมุดรายได้ปี 67 โตทะลุ 6,500 ล้านบาท จากแผนเดินหน้าพัฒนาศักยภาพทางการแพทย์ รองรับการเติบโตเคสผ่าตัดโรคยากซับซ้อน พร้อมต่อยอดโรงพยาบาลเฉพาะทาง 24 ชั่วโมง ภายใต้การดำเนินงานตามกลยุทธ์ “Single Quality to Multiple Transform”
นายสุริยันต์ โคจรโรจน์ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ศิครินทร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SKR ผู้ประกอบธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) ล่าสุด ณ วัน 21 กุมภาพันธ์ 2567 ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลงวดปี 2566 อัตรา 0.18 บาท/หุ้น คิดเป็นวงเงิน 370 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 49.85% ของกำไรสุทธิ หลังภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2566 แข็งแกร่ง
โดยผลการดำเนินงานช่วงไตรมาส 4/2566 เติบโตแข็งแกร่งทั้งรายได้และกำไรสุทธิ มีรายได้รวม 1,538 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.53% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,196 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 198 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.78% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 150 ล้านบาท รับอานิสงค์จากจำนวนคนไข้ที่เข้ามาใช้การรักษาพยาบาลที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากกลยุทธ์ของบริษัทที่มุ่งเน้นการรักษาโรคยากที่มีความซับซ้อนด้วยการผ่าตัดผ่านสถาบันการแพทย์และศูนย์การแพทย์เฉพาะทางด้านต่างๆ ภายใต้การนำเสนอ “เรื่องผ่าตัดไว้ใจศิครินทร์”
หนุนภาพรวมทั้งปี 2566 บริษัทมีกำไรสุทธิ 891 ล้านบาท รายได้รวม 5,852 ล้านบาท เติบโต 2.46% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ทำได้ 5,711 ล้านบาท โดยสามารถรักษาอัตราการกำไรสุทธิไว้ได้ที่ 15.23% ซึ่งนับเป็นระดับที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกัน ขณะที่อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ในระดับต่ำเพียง 0.24 ส่งผลให้บริษัทยังมีศักยภาพรองรับแผนขยายงานในอนาคตได้อย่างมั่นคง
นายสุริยันต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับปี 2567 บริษัทยังคงเดินหน้ามุ่งพัฒนาศักยภาพทางการแพทย์ (Excellent Center) รองรับการเพิ่มขึ้นของเคสรักษาโรคยากที่ซับซ้อนด้วยการผ่าตัด พร้อมต่อยอดโรงพยาบาลเฉพาะทาง 24 ชั่วโมง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้สามารถเข้าถึงการรักษาที่ครอบคลุมทุกช่วงเวลาและทุกกลุ่มโรค ตั้งเป้ารายได้เติบโตกว่า 6,500 ล้านบาท ภายใต้กลยุทธ์ Single Quality to Multiple Transform ผ่าน 3 Organic Growth และ 2 Inorganic Growth เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นต่อไป