วิริยะประกันภัย ระดมพลเครือข่ายการบริการในพื้นที่ภาคเหนือ เปิด “ปฏิบัติการ FIRST AID” ประเดิมด้วยสั่งเตรียมพร้อมรถยกเกาะติดพื้นที่เสี่ยง เพียงแค่ลูกค้าโทรแจ้ง 1557 หรือแจ้งผ่านตัวแทน ดีลเลอร์ หรือใช้มือถือแจ้งผ่านระบบ VClaim on VCall พร้อมบริการไปลากรถให้ทันที เผยในเบื้องต้นยอดรถยนต์น้ำท่วมมีแค่ 11 คันแถมเสียหายไม่มาก
ณัฐพงศ์ บุญเย็น ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การเกิดอุทกภัยขึ้นหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสาน อันเนื่องมาจากอิทธิพลของร่องมรสุม ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวังการเกิดน้ำท่วมอย่างฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะในพื้นที่ถือเป็นจุดเสี่ยงภาคเหนือ คือ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน และตาก ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการเข้าไปช่วยเหลือประชาชน จึงได้ระดมกลุ่มวิริยะจิตอาสาในแต่ละพื้นที่เฝ้าระวังและเข้าไปดำเนินการให้ความช่วยเหลือในหลากหลายรูปแบบตามความต้องการของพื้นที่นั้นๆ ส่วนความเสียหายด้านทรัพย์สิน โดยเฉพาะรถยนต์ที่ทำประกันภัยไว้กับบริษัทฯ ล่าสุดบริษัทฯ ได้ประสานไปยังเครือข่ายตัวแทน นายหน้า ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ในพื้นที่ที่เป็นจุดเสี่ยงให้ช่วยประชาสัมพันธ์แจ้งข่าวไปโดยตรงต่อเจ้าของรถยนต์ว่า วิริยะประกันภัยพร้อมที่จะส่งรถยกไปนำรถออกจากพื้นที่เสี่ยงไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยที่บริษัทฯ จัดไว้ให้หรือพื้นที่ที่เจ้าของรถยนต์มีความประสงค์หรือเจ้าของรถยนต์สามารถประสานขอใช้บริการรถยกได้โดยตรงกับบริษัทเพียงแค่โทรแจ้ง 1557
“นอกจากนี้ด้วยนวัตกรรมการบริการสินไหมทดแทนที่บริษัทฯ ได้พัฒนาอยู่ตลอดเวลา ทางเจ้าของรถยนต์ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง สามารถใช้ช่องทางแจ้งขอใช้บริการรถยก ผ่านระบบ VClaim on VCall ด้วยมือถือของท่านเอง”
ณัฐพงศ์ กล่าวต่อไปอีกว่า บริษัทฯ มีความพร้อมรับมือกับวิกฤตน้ำท่วมในทุกพื้นที่ทั่วไทยเป็นอย่างดี ด้วยความเชี่ยวชาญจากการนำโมเดล “ปฏิบัติการ FIRST AID” มาใช้จนเป็นผลสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหัวใจหลักของระบบ FIRST AID อยู่ที่ความรวดเร็วในการนำรถไปยกรถออกจากพื้นที่จุดเสี่ยง เพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน หรือรถยนต์ถูกน้ำท่วมแล้วก็จะสามารถฟื้นฟูหรือซ่อมแซม นำรถยนต์ออกจากน้ำให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ความเสียหายขยายตัวไปมากกว่าเดิม นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการอบรมพัฒนาเสริมสร้างความรู้ความชำนาญให้แก่พนักงาน รวมถึงพัฒนากระบวนการทำงานของปฏิบัติการ FIRST AID อยู่ตลอดเวลา จึงเชื่อมั่นได้ว่าไม่ว่าอุทกภัยจะเกิดขึ้นที่ไหน และมีรถยนต์เสียหายจำนวนมากน้อยแค่ไหนก็ตาม ศูนย์ปฏิบัติการสินไหมทดแทนที่มีอยู่ทุกทิศทั่วไทยก็สามารถทำงานได้ทันทีโดยไม่ต้องรอการสั่งการ”
“สำหรับข้อมูลความเสียหายของรถยนต์น้ำท่วม ณ วันที่ 1 ตุลาคม จากการปฏิบัติการดังกล่าวข้างต้นที่ได้เริ่มดำเนินการไปแล้วพบว่า มีรถยนต์เกิดความเสียหายจากน้ำท่วมมีจำนวน 11 คันและเป็นความเสียหายไม่มากนัก แต่ก็ยังต้องเฝ้าระวังเพราะทางกรมอุตุนิยมวิทยายังประกาศเตือนออกมาเป็นระยะๆ อีกทั้งทางบริษัทฯ ยังเตรียมความพร้อมในการให้บริการในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้วย” ณัฐพงษ์กล่าว