‘บมจ.ชริ้งเฟล็กซ์ (ประเทศไทย) หรือ SFT’ หนึ่งในผู้นำการให้บริการ Labeling Solutions แบบครบวงจร ด้วยผลิตภัณฑ์ฉลากฟิล์มหดรัดรูปในภูมิภาคอาเซียน ประเมินครึ่งปีหลังสร้างการเติบโตที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง รับแผนเร่งเครื่องรุกตลาดบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อน (Flexible Packaging) หลังได้รับใบรับรองระบบความปลอดภัยของอาหาร BRC หนุนศักยภาพการขยายตลาดและฐานลูกค้า ดันการเติบโตอย่างนัยสำคัญตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายปีนี้เป็นต้นไป คาดทั้งปีทำรายได้1,000 ล้านบาทตามแผน
ซุง ชง ทอย ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชริ้งเฟล็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SFT หนึ่งในผู้นำการให้บริการ Labeling Solutions แบบครบวงจร ด้วยผลิตภัณฑ์ฉลากฟิล์มหดรัดรูปในภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง มั่นใจว่าจะสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากแผนการดำเนินธุรกิจที่ต้องการรุกขยายตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อน หรือ Flexible Packaging ให้มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ผลิตสินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและกลุ่มของใช้ในครัวเรือน ทั้งในกลุ่มลูกค้าเดิมและขยายฐานลูกค้ารายใหม่ หลังจากโรงงานแห่งใหม่ของ SFT ได้รับใบรับรอง BRC Global Standard Packaging Materials Issue 6 สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการยกระดับบรรจุภัณฑ์ที่ปลอดภัยและได้มาตรฐานสำหรับอาหารให้ได้รับการยอมรับในระดับสากล ช่วยสร้างความเชื่อมั่นที่ดีให้แก่ลูกค้ายิ่งขึ้น โดยจะเริ่มเห็นสัญญาณเติบโตของยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อนตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3 ปีนี้เป็นต้นไป
ขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์ฉลากฟิล์มหดรัดรูปแบบดิจิทัลและระบบการพิมพ์แบบกราเวียร์ มีสัญญาณเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง และเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยผลักดันการเติบโตในปีนี้ หลังจากฐานลูกค้าเดิมในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มเริ่มส่งสัญญาณถึงแผนทำกิจกรรมส่งเสริมการขายในช่วงปลายปีนี้ จึงมีออเดอร์สั่งผลิตฉลากฟิล์มหดรัดรูปเข้ามาเพิ่มเติม ประกอบกับความสำเร็จในการขยายฐานลูกค้ารายใหม่ๆ เข้ามาใช้บริการเพิ่มเติม ส่งให้อัตราการใช้เครื่องจักรในการผลิตจะทยอยปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ ทำให้บริษัทฯ ได้ประโยชน์จาก Economy of Scale ที่ดียิ่งขึ้น รวมถึงปัจจัยเชิงบวกจากราคาวัตถุดิบที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลง คาดว่าจะทำให้อัตราการทำกำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้น
“ปีนี้เราพยายามผลักดันเป้าหมายรายได้รวม 1,000 ล้านบาทได้ตามแผน โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ Flexible Packaging จะมียอดขายในปีนี้ประมาณ 20 ล้านบาทและเพิ่มเป็น 100 ล้านบาทในปีถัดไป ซึ่งจะช่วยสนับสนุนต่อการดำเนินงานในปี 2567 อย่างมีนัยสำคัญ” ซุง ซง ทอย กล่าว