บมจ.ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค หรือ PIN โชว์ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2566 เติบโตก้าวกระโดด ทำรายได้รวม 409.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 572% และมีกำไรสุทธิ 158.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 468% หลังมีรายได้จากการโอนขายที่ดินพุ่งเป็น 147 ไร่ รับปัจจัยบวกนักลงทุนต่างประเทศย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทย หนุนผลงานครึ่งปีแรกของปีนี้มีรายได้รวม 899.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 105% และมีกำไรสุทธิ 315.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 233% พร้อมประกาศปรับเป้ายอดขายที่ดินปีนี้เพิ่มเป็น 600 ไร่ หลังครึ่งปีหลังยอดขายที่ดินขยายตัวต่อเนื่อง
พีระ ปัทมวรกุลชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ PIN เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2566 (เมษายน-มิถุนายน) บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการผลักดันผลการดำเนินงานเติบโตได้ดี โดยทำรายได้รวม 409.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 572%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและมีกำไรสุทธิ 158.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 468% หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งมีปัจจัยมาจากรายได้จากการโอนขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทองจำนวน 53 ไร่ จากความต้องการของนักลงทุนต่างชาติที่ต้องการย้ายฐานการผลิตเข้ามาในประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนจีนที่เข้ามาซื้อที่ดินเพิ่มขึ้น คิดเป็น 89% ของยอดขายที่ดินในไตรมาสนี้ สะท้อนถึงความสำเร็จในการทำตลาดและสร้างการรับรู้ถึงจุดเด่นโครงการนิคมอุตสาหกรรมไปยังกลุ่มนักลงทุนประเทศจีนได้เป็นอย่างดี ขณะที่กลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำและสม่ำเสมอ (Recurring Income) ที่มาจากรายได้จากการให้บริการเช่าโรงงานและคลังสินค้าในนิคมอุตสาหกรรม และรายได้จากการจัดเก็บค่าบริการพื้นที่ส่วนกลางและระบบสาธารณูปโภคภายในโครงการ ก็ขยายตัวได้ดีตามกิจกรรมการผลิตของลูกค้าทั้งรายเดิมและรายใหม่ที่เข้ามาตั้งฐานการผลิตในนิคมอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV)
ปัจจัยความสำเร็จดังกล่าว ส่งผลให้ผลการดำเนินงานช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ (มกราคม-มิถุนายน) บริษัทฯ มีรายได้รวม 899.0 ล้านบาท เติบโต 105% และมีกำไรสุทธิ 315.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น233% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยภาพรวมยอดโอนที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นเป็น147 ไร่ จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดโอนเพียง 74 ไร่ ตอกย้ำถึงศักยภาพการดำเนินธุรกิจของ PIN ซึ่งมีโครงการนิคมอุตสาหกรรมที่อยู่ในทำเลเขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษตะวันออก หรือ EEC และรูปแบบการให้บริการแบบ One Stop Service ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนต่างชาติ
“ผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2 และครึ่งปีแรกของปีนี้เติบโตได้อย่างโดดเด่นทั้งในแง่ของรายได้และกำไรสุทธิ สะท้อนถึงศักยภาพการดำเนินธุรกิจของ PIN สามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตรับกับโอกาสการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างชาติได้เป็นอย่างดี” นายพีระ กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PIN กล่าวว่า ทิศทางการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง บริษัทฯ ประเมินว่าแนวโน้มความต้องการซื้อที่ดินของนักลงทุนต่างชาติที่ต้องการย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยบวกที่ส่งผลดียอดขายที่ดินในปีนี้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จึงประกาศปรับเป้ายอดขายที่ดินปีนี้จากเดิม 420 ไร่ เพิ่มเป็น 600 ไร่ ซึ่งปัจจุบัน PIN มียอดขายและยอดจองแล้วกว่า 450 ไร่ โดยคาดว่าจะทยอยโอนได้ทั้งหมดภายในปีนี้ ประกอบกับรายได้จากกลุ่มธุรกิจ Recurring Income มีสัญญาณขยายตัวได้ดีตามกิจกรรมการผลิตที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน ส่งผลดีต่อภาพรวมการดำเนินงานปีนี้ขยายตัวได้อย่างมีนัยสำคัญ