เชลล์เปิดตัว CO2 Compensation Programme หนุนภาคธุรกิจสู่เป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์

185

บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด โดยกลุ่มธุรกิจน้ำมันเชื้อเพลิงอุตสาหกรรม (Commercial Fuels) เดินหน้าตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจพลังงานชั้นนำระดับโลก ด้วยการเปิดตัวโซลูชั่นใหม่ “CO2 Compensation Programme – โปรแกรมชดเชยคาร์บอน” ที่นำเสนอควบคู่กับน้ำมันเชื้อเพลิงเชลล์ที่หลากหลายทุกประเภท เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถขับเคลื่อนธุรกิจได้เต็มศักยภาพอย่างยั่งยืน ประเดิมคู่ค้ารายแรก บริษัท น้ำมันพืชปทุม จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำมันพืชเกสร น้ำมันพืชเกสรเพียว และน้ำมันพืชดอกไม้ นำร่องธุรกิจขับเคลื่อนสู่เป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์

ชูชาติ ศรีวรรณวิทย์

ชูชาติ ศรีวรรณวิทย์ กรรมการบริหาร ธุรกิจน้ำมันเชื้อเพลิงอุตสาหกรรม บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “เชลล์มุ่งมั่นที่จะใช้ความเชี่ยวชาญ เทคโนโลยี และนวัตกรรมของเราในการส่งมอบพลังงานที่สะอาดมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของลูกค้า และค้นหาวิธีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จากนวัตกรรมน้ำมันเชื้อเพลิงที่เชลล์พัฒนาขึ้น นำไปสู่การนำเสนอโซลูชั่นล่าสุด “CO2 Compensation Programme” หรือ โปรแกรมชดเชยคาร์บอน” ที่มาพร้อมกับน้ำมันคุณภาพจากเชลล์ ซึ่งผู้ประกอบการสามารถเลือกเพื่อตอบโจทย์การขับเคลื่อนธุรกิจได้อย่างตรงใจ โดยเฉพาะ “เชลล์ ฟิวเซฟ ดีเซล สูตรใหม่” (Shell FuelSave  Diesel) ที่มาพร้อมกับพลังการทำความสะอาดขั้นสูง ฟื้นฟูพลังงานของเครื่องยนต์และช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นถึง 3.75%นับเป็นครั้งแรกที่มีโปรแกรมชดเชยคาร์บอนในรูปแบบนี้นำเสนอต่อภาคธุรกิจ (B2B) ในประเทศไทย”

การส่งมอบ น้ำมันเชื้อเพลิงที่ชดเชยคาร์บอน3 ด้วยคาร์บอนเครดิตคุณภาพสูงจากโครงการชดเชยคาร์บอนของเชลล์ทั่วโลก รวมถึงจากโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูธรรมชาติ นำมาสู่ก้าวแรกของความสำเร็จในการสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัท น้ำมันพืชปทุม จำกัด ซึ่งเชลล์พร้อมจะเดินหน้าไปในทิศทางเดียวกันนี้ต่อไปในอนาคตร่วมกับคู่ค้าทางธุรกิจอื่นๆ เพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยด้วยพลังงานสะอาดยิ่งขึ้น

ศาณินทร์ ตริยานนท์

ด้าน ศาณินทร์ ตริยานนท์ ประธานกรรมการ บริษัท น้ำมันพืชปทุม จำกัด กล่าวว่า “เรามีเป้าหมายด้านความยั่งยืนที่ชัดเจน ในการมุ่งสู่การเป็นองค์กรธุรกิจคาร์บอนต่ำ ด้วยความมุ่งมั่นของเราที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มให้เกิดความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งจากการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับเชลล์มาอย่างยาวนาน จึงเชื่อมั่นและวางใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ตลอดจนเจตนารมณ์ที่แน่วแน่ในการลดการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้น้ำมันพืชปทุมเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน และการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ในอนาคต ด้วยเหตุนี้ “CO2Compensation Programme” ของเชลล์ จึงช่วยให้การปล่อยคาร์บอนที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานของเราถูกชดเชยและบรรลุเจตนารมณ์ด้านความยั่งยืนของน้ำมันพืชปทุมได้อย่างลงตัว”

“COCompensation Programme เป็นอีกก้าวของกลยุทธ์ “Power Progress” ของเชลล์ เพื่อเร่งการเปลี่ยนผ่านธุรกิจของเราไปสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ ทั้งในส่วนของผลิตภัณฑ์และบริการ โดยการผลักดันการเติบโตของธุรกิจที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เคียงข้างสังคมและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมไปกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เชลล์ได้ใช้แนวทางต่างๆ เพื่อเร่งไปสู่การบรรลุเจตนารมณ์การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยเริ่มจากทุกขั้นตอนของการปฏิบัติงานภายในองค์กร และผลิตภัณฑ์ที่เราซื้อมาจากองค์กรอื่น ขณะเดียวกันก็ร่วมมือกับลูกค้าของเรา “หลีกเลี่ยง” การปล่อยมลพิษ (Avoid) โดยการนำโซลูชันที่ปราศจากการปล่อยมลพิษมาใช้ในกระบวนการทำงาน ใช้ผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงคุณภาพสูงและเทคโนโลยีเพื่อ “ลด” การปล่อยมลพิษ (Reduce) จากนั้นจึง “ชดเชย” การปล่อยมลพิษที่เหลืออยู่(Compensation) ด้วยการใช้คาร์บอนเครดิตคุณภาพสูง ดังนั้น “CO2 Compensation Programme” จึงเป็นข้อพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของเชลล์ ในการช่วยให้พันธมิตรและลูกค้าของเราปลดล็อกข้อจำกัด เพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างยั่งยืน” ชูชาติ กล่าว