เซวา ไทยแลนด์ ดึง ‘เจนี่’ นั่ง CO-CEO เปิดตัว SEWA GOLDEN GINSENG CREAM ดันยอดขาย 100 ล้านใน 5 เดือน

491

เซวา ไทยแลนด์ (SEWA Thailand) สกินแคร์บำรุงผิวสัญชาติไทยแท้ ที่สร้างภาพจำจากการเป็นแบรนด์น้ำตบโสมสกัดจากเกาหลีที่ครองใจสาวไทยและทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ฉลองก้าวสู่ปีที่ 6 เปิดไตรมาสแรกปี 2566 ด้วยกลยุทธ์เซเลบลิตี้ มาร์เก็ตติ้ง ดึงนางเอกสาวคนดัง เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม (Co-CEO) เพื่อปลุกปั้น SEWA GOLDEN GINSENG CREAM (ครีมโสมทองคำ) ผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดซึ่งถือเป็นโพรดักส์พรีเมียมสุดของแบรนด์ ด้วยเทคโนโลยีที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะอย่าง Ginsenology โดยจะเน้นช่องทางการขายผ่านระบบตัวแทนเป็นหลัก มั่นใจภายใน 5 เดือน ดันยอดขาย SEWA GOLDEN GINSENG CREAM แตะ 100 ล้านบาท

นางสาวเบญจกิตติ เมฆแสน ซีอีโอ ซีอีโอและผู้ก่อตั้งแบรนด์เซวา ไทยแลนด์ กล่าวว่า ภาพรวมในปีนี้ตั้งเป้ารายได้รวมทะลุ 500 ล้านบาท โดยมีแผนจะทยอยเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ต่อเนื่องตลอดทั้งปี และแตกไลน์โปรดักค์อื่นๆ เช่น ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและเครื่องสำอาง ภายใต้แบรนด์ “เซวา” พร้อมขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมแบบปูพรม ได้แก่ ระบบตัวแทน 50% โมเดิร์นเทรด 30% และออนไลน์ 20% ซึ่งเราได้ทุ่มงบสูงมากเพื่อพัฒนาระบบหลังบ้านของตัวแทนให้มีความเป็นมืออาชีพและได้มาตรฐานเดียวกันทุกราย ตัวแทนทุกคนจะมีหน้า Sale Page เป็นของตัวเองไว้บริหารจัดการการขายแบบออนไลน์ ทำให้แบรนด์สามารถควบคุมในเรื่องราคาขายที่เป็นธรรม ไม่เกิดการตัดราคา ตลอดจนตรวจสอบคุณภาพสินค้าให้อยู่ในมาตรฐานเดียวกัน 100%

“เซวาจะดูแลเรื่องการจัดส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้าเองทั้งหมด ทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ดูน่าเชื่อถือขึ้น เราให้คุณค่ากับการเป็นแบรนด์ที่ไว้ใจได้ ต้องการสร้างภาพลักษณ์ให้แบรนด์เซวาโปร่งใส ตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน ซึ่งจะสร้างความสะดวกใจทั้งแก่ตัวแทนทั้งหมดกว่า 450 คนและลูกค้าที่ซื้อสินค้าไปด้วยว่าได้สินค้าของแท้จากแบรนด์แน่นอน อีกทั้งยังมีบริการหลังการขาย ช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าตลอดจนถึงเที่ยงคืนของทุกวัน”

นอกจากนี้ ยังมีทีมแอดมินช่วยสอนเทคนิคการขายทุกช่องทางออนไลน์ให้กับตัวแทน ซึ่งหลังจากทดลองใช้แพลตฟอร์มระบบตัวแทนเป็นครั้งแรกกับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวประเภทช่วยลดจุดด่างดำ รอยจากสิวอักเสบ “Sewa dark spot solution black ginseng ampoule” ที่ทำร่วมกับนักแสดงและผู้จัดละครคนดัง หนิง-ปณิตา ธรรมวัฒนะ ส่งผลให้ยอดขายแบรนด์เติบโตขึ้นถึง 50% ดันยอดขายแตะหลักร้อยล้านบาทได้ภายในระยะเวลาเพียง 4 เดือน จึงมีแผนจะนำระบบตัวแทนที่มาต่อยอดในกลุ่มผลิตภัณฑ์อื่นๆ ประเดิมด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีความพรีเมียมอย่าง SEWA GOLDEN GINSENG CREAM โดยตั้งเป้าว่าจะทำยอดขายได้ 100 ล้านบาท ภายใน 5 เดือน

ด้าน เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ กล่าวถึง การมารับตำแหน่ง CO-CEO  แบรนด์เซวาว่า  โปรเจ็กต์นี้ใช้เวลาทำงานร่วมกันนานกว่า 2 ปี เพราะเจนี่ลงรายละเอียดเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่ Product Development เพราะเป็นสินค้าที่สะท้อนตัวตนของเราที่เป็นคนใส่ใจในการดูแลตัวเองทั้งภายนอกและภายในออกมาจริงๆ ต้องการให้ได้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวระดับพรีเมียมที่ดีที่สุด ดังนั้น พอคิดจะทำสกินแคร์ เลยตัดสินใจมาร่วมทำธุรกิจกับทางเซวา เพราะได้มีโอกาสเห็นตั้งแต่ก้าวแรกของเซวาและติดตามการเติบโตของแบรนด์มาตลอด จนมั่นใจในชื่อเสียงและคุณภาพของสินค้าและแบรนด์ จึงตั้งใจทุ่มสุดตัวเพื่อปลุกปั้น SEWA GOLDEN GINSENG CREAM ตั้งแต่การพัฒนาสูตร เดินทางไปดูแหล่งวัตถุดิบ และโรงงานที่เกาหลีด้วยตัวเอง เพื่อให้มั่นใจว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับกลุ่ม Anti-Aging ที่ออกมาดีที่สุดและตอบโจทย์มากที่สุด

สำหรับจุดเด่นของ SEWA GOLDEN GINSENG CREAM มาจากโจทย์ของเจนี่ ที่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่ดูแลผิวได้อย่างล้ำลึก แต่เนื้อครีมยังบางเบา จึงมาลงตัวที่ส่วนผสมสุดพรีเมียมอย่างโสมทองสกัดสด ที่ไม่เพียงคัดโสมคุณภาพดีจากแหล่งปลูกโสมขึ้นชื่อของเกาหลีมาสกัดสดด้วยเทคโนโลยี Ginsenology ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของโรงงานระดับท็อปที่เกาหลี โดยเซวา ไทยแลนด์ เป็นแบรนด์แรกและแบรนด์เดียวในไทย ที่นำนวัตกรรมดังกล่าวมาใช้เพื่อย้อนวัยให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์ ซึ่งตอบโจทย์กับเทรนด์ Early Aging หรือ ค่านิยมของสาวๆ ยุคนี้ที่มีวัยตั้งแต่อายุ 25 ปีขึ้นไปที่เริ่มมองหาและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เน้นป้องกันผิวให้ดูสดใส ดูอ่อนกว่าวัยอยู่เสมอไว้ก่อน

ขณะที่ วิริฒิพา ภักดีประสงค์ อีกหนึ่งซีอีโอแห่งเซวา ไทยแลนด์ ซึ่งดูแลด้านงานส่งเสริมประชาสัมพันธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ กล่าวเสริมว่า สำหรับผลิตภัณฑ์  SEWA GOLDEN GINSENG CREAM ที่ได้เจนี่มาร่วมทำธุรกิจ ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีมากๆ เพราะเจนี่มีแพชชั่นเกี่ยวกับเรื่องความสวยความงามอยู่แล้ว และยังมีทัศนคติในการทำธุรกิจตรงกัน จึงมองว่าเจนี่เหมาะสมและสอดคล้องกับกลยุทธ์ “เซเลบริตี้ มาร์เก็ตติ้ง” ของแบรนด์ที่มีการดึงซุปตาร์ในวงการบันเทิงมาเสริมทัพพรีเซ็นเตอร์ แต่ครั้งนี้ เจนี่อัพเลเวลไปอีกขั้นด้วยการมาร่วมเป็น CO-CEO หรือเป็นเจ้าของร่วมด้วยเลย ซึ่งทางเซวาเล็งเห็นถึงศักยภาพของเจนี่ จึงทุ่มงบสำหรับไลน์ผลิตภัณฑ์ลักซ์ชูรีตัวแรกของแบรนด์ไปกว่า 30 ล้านบาท

“ถึงเราจะยังชูกลยุทธ์การตลาดโดยการเลือกใช้ดาราหรือคนดังเป็นหลัก แต่หัวใจสำคัญของแบรนด์คือเน้นคุณภาพ ใช้ของที่เป็นอันดับหนึ่ง เริ่มตั้งแต่โรงงานที่แพงเป็นอันดับหนึ่งของเกาหลี ผลิตสินค้าระดับเดียวกับเคาน์เตอร์แบรนด์ระดับโลก โดยในปีนี้ เซวาได้เตรียมงบการตลาดไว้กว่า 70 ล้านบาท สำหรับผลิตภัณฑ์ ใหม่ๆ ที่จะทยอยเปิดตัวตลอดทั้งปี และยังเตรียมจะเปิดตัวอีก 2 ซุปตาร์ตัวแม่ของวงการที่จะมาเสริมทัพพรีเซ็นเตอร์”