PIN เร่งเครื่องลงทุนสร้างฐานรายได้กลุ่ม Recurring Income เห็นสัญญาณโตก้าวกระโดดในปี 66

241

บมจ.ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค หรือ PIN เร่งเดินหน้าสร้างการเติบโตกลุ่มธุรกิจ Recurring Income ทั้งการให้บริการพื้นที่ส่วนกลางและสาธารณูปโภค และการให้เช่าอาคารโรงงานและคลังสินค้า หวังสร้างมั่นคงและยั่งยืนแก่ผลการดำเนินงานในระยะยาว ตั้งเป้า 3 ปี ดันสัดส่วนรายได้จากกลุ่มนี้เพิ่มเป็น 50% ตามแผน  

              พีระ ปัทมวรกุลชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ PINเปิดเผยว่า นโยบายการดำเนินธุรกิจของ PIN จะมุ่งสร้างรายได้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน จากการมุ่งสร้างพอร์ตรายได้ประจำและสม่ำเสมอ (Recurring Income) ให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนประมาณ 23.1% ของรายได้ ประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจการให้บริการพื้นที่ส่วนกลางและสาธารณูปโภค มีสัดส่วน 17.3% และกลุ่มธุรกิจการให้บริการเช่าอาคารโรงงานและคลังสินค้า มีสัดส่วน 5.8% โดยวางเป้าหมาย 3 ปีข้างหน้า ต้องการเพิ่มสัดส่วนรายได้รวมจาก 2 กลุ่มธุรกิจดังกล่าว เป็น 50% ของรายได้รวมทั้งหมด  

ทั้งนี้ บริษัทฯ จะมุ่งเพิ่มการให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณูปโภค ที่เอื้อต่อขีดความสามารถการแข่งขันให้แก่ลูกค้าที่เข้ามาตั้งฐานการผลิตในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทองและการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมของชุมชนโดยรอบ เช่น โครงการบำบัดน้ำเสีย ที่มีการให้บริการรับตรวจสอบและวิเคราะห์คุณภาพน้ำแก่ลูกค้า ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการขึ้นทะเบียนห้อง Lab กับหน่วยงานภาครัฐ คาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ภายในต้นปี 2566 หรือโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่อยู่ระหว่างการลงทุนติดตั้งระบบ Solar Rooftop บนหลังคาโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง 1-5 พื้นที่รวม 1.3 ล้านตารางเมตร และโครงการติดตั้ง Solar Floating บนบ่อน้ำของนิคมอุตสาหกรรม เนื้อที่ประมาณ 300 ไร่ เป้าหมายกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 80 เมกะวัตต์ ภายใต้งบลงทุน 1,600 ล้านบาท เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าแก่ลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรม โดยจะแล้วเสร็จเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการดังกล่าวตั้งแต่ไตรมาส 1/2566  

นอกจากนี้ ยังเร่งเดินหน้าลงทุนในโครงการโลจิสติกส์ ปาร์ค บนพื้นที่ 290 ไร่ เพื่อเพิ่มรายได้จากการให้บริการเช่าอาคารโรงงานและคลังสินค้า ที่จัดสรรพื้นที่สร้างอาคารโรงงานและคลังสินค้าให้เช่า เป็นเขตปลอดอากร (Free Zone) และพื้นที่อุตสาหกรรมทั่วไป (General Zone) กว่า 200,000 ตารางเมตร โดยชูจุดเด่นด้านทำเลที่โดดเด่น ใกล้ท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง จะเริ่มพัฒนาโครงการเฟสแรกในปีนี้และเปิดให้ผู้ประกอบการเช่าอาคารโรงงานและคลังสินค้าได้ภายในต้นปี 2566 เพื่อรองรับกับจังหวะการขยายตัวทางเศรษฐกิจ  

“ตั้งแต่ต้นปี 2566 เป็นต้นไป จะเห็นการเร่งตัวเพิ่มขึ้นของรายได้จากกลุ่มธุรกิจ Recurring Income ของ PIN อย่างมีนัยสำคัญ จากการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานสาธารณูปโภคด้านพลังงานไฟฟ้าที่มีลูกค้าตอบรับซื้อไฟฟ้าแล้ว รวมถึงการเปิดให้บริการโลจิสติกส์ ปาร์ค แห่งใหม่ที่จะเริ่มเปิดให้ลูกค้าเข้ามาเช่าพื้นที่เฟสแรก เรามั่นใจว่าเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ จะเป็นไปตามแผนที่วางไว้”  พีระ กล่าว