เมย์แบงก์(ประเทศไทย) ชูกลยุทธ์สร้างโอกาสลงทุนที่เท่าเทียม พร้อมจับมือ BMY Mellon ก้าวสู่การลงทุนระดับโลก

366

“การลงทุนมีความเสี่ยง” ประโยคทองย้ำเตือนสติของนักลงทุนที่มีมายาวนาน แต่เคยสงสัยกันไหมว่า เมื่อการลงทุนมีความเสี่ยง แต่เหตุใดสถาบันการเงินส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับการวางแผนการลงทุนให้กับคนที่มีเงินมาก หรือกลุ่ม Wealthy แต่กับคนที่มีเงินน้อยกลับไม่ค่อยได้รับความสนใจ ต้องเสี่ยงลงทุนกันเอง

ข้อสงสัยนี้ อารภัฏ สังขรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์(ประเทศไทย) หรือ MST ที่มีประสบการณ์การทำงานช่วงใหญ่ๆ อยู่ในสหรัฐอเมริกา ที่นั่น การวางแผนการลงทุนเป็นสิ่งที่คนทุกระดับเข้าถึง เมื่อมีโอกาสกลับมาทำงานในประเทศไทย และได้มาบริหาร เมย์แบงก์(ประเทศไทย) จึงนำแนวคิดของการให้ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงการวางแผนการลงทุน นำ บมจ. หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) เดินหน้าธุรกิจสู่การเป็นที่ปรึกษาการลงทุนที่หนึ่งในใจคนไทย ชูกลยุทธ์มุ่งสร้างโอกาสการลงทุนที่เท่าเทียม

 อารภัฏ สังขรัตน์

อารภัฏ สังขรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์(ประเทศไทย)หรือ MST กล่าวว่ วันนี้ ที่โลกได้เปลี่ยนแปลงไป ความต้องการด้านการลงทุนของลูกค้าก็เปลี่ยนไปด้วย เมื่อธุรกิจได้เปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ เมย์แบงก์(ประเทศไทย) จึงเดินหน้าปรับเปลี่ยนองค์กรเพื่อให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลง มองเห็นถึงโอกาสในการใช้เทคโนโลยีเพื่อส่งต่อข้อมูลและเพิ่มโอกาสการลงทุนให้กับทุกคนได้อย่างเท่าเทียม

“การลงทุนแบบ Customize มีให้เฉพาะคนที่มีเงินหลายสิบล้าน แต่ทำไมคนที่มีเงินน้อยทำ Customize ไม่ได้ เราต้องการให้การลงทุนสามารถสร้างโอกาสให้กับทุกคนไม่ว่าจะมีเงินมากหรือเงินน้อย ไม่ใช่แต่จะนำเงินมาลงทุนในหุ้นเพียงอย่างเดียว แต่ต้องนำการลงทุนทุก ๆ ด้านมาพิจารณา เราจึงเดินหน้าปรับองค์กรภายใต้แนวคิด “Opportunity of Change” มุ่งสร้างโอกาสทางธุรกิจจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น โดยมุ่งพัฒนาใน 3 ด้าน” 

  1. ภาพลักษณ์ (New Brand) การ Rebranding เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา และค่อยๆปรับภาพลักษณ์ให้ดูสดใส มีชีวิตชีวา เน้นสร้างแรงบันดาลใจเชิงบวก แต่ยังคงความเป็นมืออาชีพที่น่าเชื่อถือ 
  2. การบริหารงานในองค์กร (New Team and Culture) มีการเปิดรับคนรุ่นใหม่เข้าสู่องค์กรจำนวนมาก ด้วยโครงการสร้างการทำงานที่ยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ต่างๆ ได้มีประสิทธิภาพ และปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมในการทำงานสไตล์พื้นที่เปิดเพื่อเอื้ออำอวยให้พนักงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่ยังคงเน้นความเป็นมืออาชีพสูงสุด
  3. การนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ (New Investment Solutions) ที่ตอบโจทย์ตรงใจนักลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการการลงทุนแบบครบวงจร ครอบคลุมทั้งลูกค้ารายบุคคลและลูกค้าสถาบัน  ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างความมั่งคั่งและความยั่งยืนให้กับลูกค้าได้ 

นอกจากนั้น ในส่วนของการบริการเพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการลงทุนอย่างแท้จริง เมย์แบงก์(ประเทศไทย๗ จึงได้มีการพัฒนาแอปพลิเคชั่น “Maybank Invest (MBI)” เครื่องมือใหม่ที่จะเป็นตัวช่วยให้ลูกค้าสามารถลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆได้ครบจบใน Application เดียว ครอบคลุมทั้ง หุ้น, กองทุน, ตราสารหนี้  และอื่นๆมากมาย ทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ยังจะมีการนำข้อมูลของลูกค้าในส่วนต่างๆ ผ่านระบบประมวลผลอัจฉริยะ (AI) เพื่อทำให้นักลงทุนสามารถจัดพอร์ตการลงทุนได้อย่างเหมาะสม และเลือกผลิตภัณฑ์การลงทุนได้ตรงตามความต้องการอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด หลากหลายฟังก์ชันด้านการลงทุน เพื่อตอบสนองทุกความต้องการ และอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าทุกกลุ่ม ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดใช้บริการได้อย่างเป็นทางการภายในช่วงไตรมาสสามของปีนี้ 

อารภัฏ กล่าวต่อว่า  เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ให้ความสำคัญกับการดำเนินนโยบายทางธุรกิจที่มุ่งสู่ความยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการพัฒนาใน 3 มิติ ได้แก่ การลงทุนที่มั่งคั่งอย่างยั่งยืน ผ่านการให้ความรู้ด้านการลงทุนที่ถูกต้องและปลอดภัยทั้งแก่นักลงทุนและประชาชนทั่วไป การดำเนินธุรกิจที่ยึดหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด การสร้างสังคมที่น่าอยู่และยั่งยืน โดยสนับสนุนเรื่องสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนผ่านการลงทุนในธุรกิจที่ไม่สร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม และการสร้างการตระหนักรู้ในเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมในองค์กร ทั้งนี้ ได้มีการวัดผลด้านความยั่งยืนในระดับโลกภายใต้ธุรกิจในเครือเมย์แบงก์ทั้งหมด

ล่าสุด เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ประกาศความร่วมมือกับ บีเอ็นวาย เมลลอน ไอเอ็ม (BNY Mellon IM) พันธมิตรด้านการลงทุนระดับโลก ภายใต้ความร่วมมือนี้ BNY Mellon IM จะช่วยมอบความเชี่ยวชาญระดับโลกให้แก่ลูกค้า ผ่านการพัฒนาบริการด้านโมเดลพอร์ตการลงทุน โดยจะนำเสนอพอร์ตการลงทุน 5 พอร์ตฯ ที่มีระดับความเสี่ยงที่แตกต่างกัน และอีก 5 พอร์ตที่มีระดับความผันผวนที่แตกต่างกันBNY Mellon IM จะให้การสนับสนุนเมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ในการสร้างและดูแลโมเดลพอร์ตการลงทุน ซึ่งรวมถึงการกระจายทรัพย์สิน การบริหารความเสี่ยง และการคัดเลือกผู้จัดการ ซึ่ง เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จะใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญดังกล่าวในการคัดเลือกและปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนที่เหมาะสมกับลูกค้าในตลาดประเทศไทย 

ด้าน โดนี่ ชามซูดิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก BMY Mellon Investment Management กล่าวว่า ด้วยความแข็งแกร่งของเครือข่ายธุรกิจระดับโลกของ BNY Mellon Investment Management มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะมอบโซลูชั่นด้านการลงทุนที่ออกแบบตามความต้องการของลูกค้า เพื่อให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนโมเดลพอร์ตการลงทุนสำหรับลูกค้าในประเทศไทย” 

อารภัฏ กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า เป็นก้าวสำคัญช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจบริการให้คำปรึกษาการลงทุนและการบริหารความมั่งคั่ง เสริมให้ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) มีความพร้อมในการนำเสนอข้อมูลทางเลือก เพิ่มคุณค่าการนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้กับกลุ่มลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ ซึ่งช่วยให้บริษัทได้พัฒนาธุรกิจการจัดการความมั่งคั่งและการลงทุน เดินหน้าตามวิสัยทัศน์สู่การเป็นที่ปรึกษาการลงทุนที่หนึ่งในใจคนไทย

“ความร่วมมือครั้งนี้จะสร้างผลบวกให้กับทั้ง 2 องค์กร เมย์แบงก์คือผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนในเอเชีย ขณะที่ BMY เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับโลก ที่จะช่วยให้ลูกค้าของเรามีทางเลือกในการลงทุนมากขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่ในประเทศไทย หรือในภูมิภาคนี้เท่านั้น” อารภัฏ กล่าว