“เอ็กซ์โปลิงค์” ยกไทยเป็นศูนย์กลางงานแสดงสินค้าระดับโลก มั่นใจปีหน้างาน MICE กลับมา 100%

183

“เอ็กซ์โปลิงค์ โกลบอล เน็ทเวอร์ค” ชี้ หลังจากภาครัฐผ่อนคลายมาตรการโควิด และเปิดประเทศ คาดว่าจะทำให้อุตสาหกรรมไมซ์ กลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง ด้วยมูลค่าตลาดกว่า 1 แสนล้านบาท แม้ปัจจุบันมีการประชุมผ่านออนไลน์ แต่เชื่อมั่นว่าการจัดงานลักษณะที่มีการเจรจาธุรกิจร่วมกันนั้นจะไม่มีวันตาย คาดปีนี้จะมีผู้ประกอบการเริ่มกลับมาร่วมในการแสดงสินค้าแล้วถึง 80% และกลับมาเต็ม 100% ได้ในปีหน้า พร้อมเตรียมจัดงานระดับนานาชาติ อาทิ งาน Kind + Jugend ASEAN และงาน insureNXT

ภูษิต ศศิธรานนท์

ภูษิต ศศิธรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กซ์โปลิงค์ โกลบอล เน็ทเวอร์ค จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเป็นผู้นำตลาดด้านจัดงานแสดงนิทรรศการ และการประชุมระดับนานาชาติของไทย อาทิ งาน THAIFEX – Anuga Asia, งาน LogiMAT | Intelligent Warehouse และงาน VICTAM Asia โดยบริษัทฯ ได้เปิดทำการมาตั้งแต่ปี 2545 ประมาณ 20 ปี และมีโคโลญเมสเซ่ รัฐวิสาหกิจจากเมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี เข้าถือหุ้น 49% 

ทั้งนี้ หลังจากภาครัฐเริ่มผ่อนคลายมาตรการโควิด และเปิดประเทศ คาดว่าจะทำให้อุตสาหกรรมไมซ์ที่มีมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท กลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง แม้ปัจจุบันมีการประชุม หรือจัดงานผ่านออนไลน์ แต่เชื่อมั่นว่าการจัดงานลักษณะที่มีการเจรจาธุรกิจร่วมกัน ได้พบปะกันแบบเห็นหน้านั้นจะต่อยอดได้มากกว่า และการจัดงานแบบออนไลน์ไม่สามารถทดแทนได้ ซึ่งปีนี้คาดว่ามีผู้ประกอบการเริ่มกลับมาร่วมในการแสดงสินค้าแล้วถึง 80% และกลับมาเต็ม 100% ได้ในปี 66

บริษัทฯ ได้วางแผนจะดึงงานระดับโลกจากทางโคโลญเมสเซ่ รัฐวิสาหกิจจากเมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี ซึ่งถือหุ้นใน บริษัท เอ็กซ์โปลิงค์ โกลบอล เน็ทเวอร์ค จำกัด สัดส่วน 49% เข้ามาจัดในประเทศไทยเพิ่มอีกอย่างน้อย 2 งานใหญ่ อาทิเช่น Kind + Jugend ASEAN ‘งานแสดงสินค้านานาชาติที่เกี่ยวเนื่องกับผลิตภัณฑ์และของใช้จำเป็นสำหรับเด็กแห่งภูมิภาคอาเซียนที่จะจับมือร่วมกับหอการค้าไทย’ และ insureNXT ‘งานนวัตกรรมทางด้านประกันภัย’โดยมีบริษัทฯ จะเน้นงานที่กำลังเป็นเทรนด์ในปัจจุบัน และอนาคตเป็นหลัก ทำให้ในปีหน้า บริษัทจะมีการจัดงานอย่างน้อย 6 งานเพื่อเร่งสร้างศักยภาพให้กับตลาดไมซ์ไทยและผลักดันให้เป็นศูนย์กลางการจัดงานของอินโดจีนและอาเซียน และตั้งเป้าหมายในปีนี้ว่าบริษัทจะมีรายได้จากการจัดงานที่ 200 ล้านบาท โดยสัดส่วน 60% มาจากการจัดงาน THAIFEX – Anuga Asia 2022 หรืองานแสดงสินค้านานาชาติที่เกี่ยวเนื่องกับอาหาร เครื่องดื่ม และเทคโนโลยีอาหารชั้นนำแห่งเอเชีย

ภูษิต กล่าวอีกว่า ปัจจุบันผู้บริโภคคลายกังวลเรื่องโควิด-19 ลงไปมากแล้ว แต่กังวลเรื่องสงครามรัสเซีย-ยูเครน และเรื่องพลังงาน หรือราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นแทน และอีกหลายๆ ประเทศเริ่มกังวลเรื่องอาหาร โดยมีหลายสิบประเทศที่ขณะนี้ถูกระงับการส่งออกอาหาร ซึ่งมองว่ามีทั้งผลดีและผลเสียกับประเทศไทย เช่น มาเลเซียยกเลิกส่งออกสินค้าอาหารบางอย่าง ทำให้สิงคโปร์ซึ่งเป็นลูกค้าหันมาสั่งซื้อในไทยแทน เป็นต้น ส่วนสถานการณ์ในไทยยังต้องมองอีกสักระยะว่ามีมาตรการเรื่องการส่งออกเกี่ยวกับอุตสาหกรรมอาหารอย่างไร 

ในแง่ของผู้ประกอบการไม่ได้กังวลในการดำเนินธุรกิจ เพราะบรรยากาศกลับมาฟื้นตัวแล้ว  แต่กังวลในเรื่องของต้นทุนด้านพลังงานมากกว่า จึงอยากให้ภาครัฐให้ความช่วยเหลือในเรื่องของการลดต้นทุนด้านพลังงาน หรือราคาน้ำมันเป็นหลัก มากกว่ามาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ เพราะผู้บริโภคต้องแบกรับค่าครองชีพที่สูงขึ้นจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน

“เห็นได้จากการงาน THAIFEX – Anuga Asia 2022 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ที่จัดงานตั้งแต่วันที่ 24-28 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมานั้น ได้รับการตอบรับมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยมีผู้เข้าร่วมแสดงสินค้ากว่า 1,200 ราย ผู้ซื้อถึง 2,500 ราย และผู้เข้าชมงานในวันเจรจาธุรกิจกว่า 53,000 คน กับการสร้างเครือข่ายแบบพบหน้ากันเพื่อเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของธุรกิจ หรือตลอดการจัดงานคาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดจากการเจรจาธุรกิจไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท และเจรจาในแบบออนไลน์อีก 400 ล้านบาท อีกด้วย” ภูษิต กล่าว