‘บมจ. เซ็ปเป้’ หรือ SAPPE เปิดแผนยุทธศาสตร์ครั้งสำคัญย้ำภาพ Global Brand ตั้งเป้ารายได้ Triple Growth แตะ 10,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปีข้างหน้า จากธุรกิจ 4 ส่วน ได้แก่ ตลาดต่างประเทศ ตลาดในประเทศ ออลโคโค่ และการทำ M&A พร้อมเดินหน้าออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในช่วงที่เหลือของปี มุ่งเน้นสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งทั้งในตลาดเดิมและตลาดใหม่ รองรับความต้องการของผู้บริโภค
ปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้วางแผนยุทธศาสตร์ โดยตั้งเป้าหมายรายได้จากการดำเนินธุรกิจเติบโต 3 เท่า (Triple Growth) หรือแตะ 10,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปีข้างหน้า (2565-2569) จากปี 2564 ที่มีรายได้จากการดำเนินธุรกิจ 3,444.16 ล้านบาท ภายใต้การเติบโตจากธุรกิจ 4 ส่วน ได้แก่
1) สร้างการเติบโตจากตลาดต่างประเทศ (International Business) นับเป็นส่วนที่มีความสำคัญ และสร้างอิมแพคมากที่สุดของแผนยุทธศาสตร์ครั้งนี้ โดยเซ็ปเป้ตั้งเป้าการเติบโตเฉลี่ย 15-20% ผ่านการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมมากขึ้น ปูพรมเต็มพื้นที่ยิ่งกว่าเดิม ซึ่งปัจจุบันได้ส่งออกจำหน่ายใน 98 ประเทศทั่วโลก มีสัดส่วนรายได้จากการส่งออกในปี 2021 คิดเป็น 65% ของรายได้ ส่งผลให้ทุกภูมิภาคเติบโตอย่างก้าวกระโดด และมีคำสั่งซื้อซ้ำเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นทวีปยุโรป ทวีปเอเซีย ตะวันออกกลาง และทวีปอเมริกา โดยเฉพาะประเทศที่เซ็ปเป้ทำผลงานได้ดีเลิศ ได้แก่ เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และในทุกภูมิภาคยังสามารถขยายการกระจายสินค้าไปได้อีกเป็นจำนวนมาก เห็นได้จากไตรมาสแรก เซ็ปเป้เริ่มขยายฐานลูกค้าในทวีปยุโรป เข้าสู่ช่องทางหลักอย่างห้างค้าปลีก(Modern Trade) ได้เพิ่มมากขึ้น ด้วยการทำตลาดแบบ O2O (Online to Offline Marketing) ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ของเซ็ปเป้ ได้รับการตอบรับสูง และเข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้าง
2) สร้างการเติบโตจากตลาดในประเทศ (Domestic Market) ตั้งเป้าการเติบโตเฉลี่ย 10% โดยแบ่งเป็น 2 แบบ คือ ‘Current World’ เซ็ปเป้ยังคงเดินหน้าวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ รวมถึงขยายช่องทางจัดจำหน่ายให้มีศักยภาพร่วมกับพันธมิตร ทั้งร้านค้าแบบดั้งเดิม (Traditional Trade) ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) พร้อมพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่เดิมให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น และ ‘New World’ เร่งสร้างช่องทางการเติบโตใหม่ๆ โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ ให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคในหลาย Segment มากขึ้น ด้วยทีมงานมืออาชีพ
3.) สร้างการเติบโตจากออลโคโค่ (All Coco) ตั้งเป้าหมายมีรายได้จาก All Coco จาก 316 ล้านบาทเป็น 800 ล้านบาทใน 5 ปีข้างหน้า ด้วยการขยายจุดขายสินค้าทั่วโลก All Coco จากปัจจุบัน 4,500 POS ให้ได้มากกว่า 20,000 POS นอกจากนี้ ยังมีแผนเพิ่มผลผลิตจาก Owners’ Farms และเครือข่ายฟาร์มให้เพียงพอต่อความต้องการในอนาคต
4.) สร้างการเติบโตจากการ M&A เซ็ปเป้ให้ความสำคัญกับการเพิ่ม New Category New Channel และ Innovation เพื่อสร้างการเติบโตในทุกมิติร่วมกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญ ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการศึกษาขยายกำลังการผลิต โดยอาจเป็นการลงทุนสร้างโรงงานแห่งใหม่ ทั้งนี้ ปัจจุบันเซ็ปเป้มีกำลังการผลิตอยู่ที่ราว 140,000 ตันต่อปี และคาดว่าจะมีความชัดเจนในเร็วๆ นี้ โดยจะใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SAPPE กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแนวโน้มในช่วงที่เหลือของปี 2565 คาดว่ายอดขายจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 2-3 เนื่องจากเป็นฤดูการขาย (Seasonal) อีกทั้ง ในช่วงที่ผ่านมาเซ็ปเป้ ได้วางกลยุทธ์รุกสร้างการเติบโตในต่างประเทศจะมุ่งเน้นที่การสร้างแบรนด์ให้สอดคล้องกับการแข่งขันในตลาด และความต้องการของผู้บริโภค ส่งผลให้ยอดขายจากตลาดต่างประเทศเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าจะไม่ต่ำกว่าไตรมาส 1/65 ที่มีอัตราเติบโตกว่า 60-70% ขณะที่ตลาดในประเทศ มีสัญญานฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ เตรียมทยอยออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีความหลากหลายตั้งแต่ไตรมาส 2/65 เป็นต้นไป รวมทั้งเพิ่มการกระจายช่องทางการขาย และสร้างความได้เปรียบในการบริหารจัดการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เพื่อทำผลการดำเนินงานในปีนี้เติบโต 15-20% ตามเป้าหมายที่จะนำแบรนด์ของคนไทยไปสู่ Global Brand อย่างแข็งแรงและยั่งยืนในทุกๆ ทวีปทั่วโลก