แซดพี เทอราพิวติกส์ (ZP Therapeutics) หน่วยธุรกิจภายใต้ บริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จำกัด ผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพชั้นนำในเอเชีย เปิดเผยว่าสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้อนุมัติขยายข้อบ่งใช้การใช้วัคซีนโควิด-19 โมเดอร์นา (Covid-19 Vaccine Moderna) เพิ่มเติมสำหรับกลุ่มเด็กอายุ 6 – 11 ปี โดยมีรูปแบบการฉีดวัคซีนคือ ฉีดจำนวน 2 เข็ม ในขนาดเข็มละ 50 ไมโครกรัม โดยฉีดเข็มที่ 2 ห่างจากการฉีดเข็มแรก28 วัน
เภสัชกรหญิงสุนัยนา กิจเกษตรไพศาล ผู้จัดการทั่วไป แซดพี เทอราพิวติกส์ ซิลลิค ฟาร์มา ประเทศไทย กล่าวว่า “การอนุมัติการใช้วัคซีนโควิด-19 โมเดอร์นาสำหรับกลุ่มเด็กอายุ 6-11 ปี ถือเป็นการเพิ่มศักยภาพให้แก่วัคซีนโควิด-19 ที่ประเทศไทยสามารถนำไปใช้เพื่อต่อสู้กับสถานการณ์โรคระบาด บริษัทฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้อนุมัติขยายข้อบ่งใช้การใช้วัคซีนโควิด-19 โมเดอร์นาสำหรับกลุ่มเด็กอายุ 6-11 ปี เพื่อจะได้มีเกราะป้องกันต่อเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะในปัจจุบันที่สายพันธุ์โอไมครอนยังคงแพร่ระบาดอย่างหนัก”
ข้อมูลล่าสุดจากศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ในประเทศไทยเป็นสายพันธุ์โอไมครอนทั้งหมด ทั้งนี้ 3 สายพันธุ์ย่อยที่องค์การอนามัยโลกประกาศให้เฝ้าระวัง ได้แก่ BA.4 , BA.5 และBA.2.12.1 สำหรับสายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 มีการกลายพันธุ์ที่ตำแหน่งโปรตีนหนามL452R เหมือนกับสายพันธุ์เดลต้า แต่ยังไม่มีการยืนยันว่ารุนแรงเท่ากัน ส่วนสายพันธุ์ย่อยBA.1 จะทำให้ภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติไม่สามารถกัน BA.2 ได้ จึงไม่สามารถกัน BA.4 และ BA.5 ได้ด้วยเช่นกัน ฉะนั้น การฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสไว้แต่ต้น ย่อมดีกว่าการปล่อยให้เกิดภูมิคุ้มกันด้วยตนเองตามธรรมชาติ เพราะสามารถป้องกันการติดได้ทุกสายพันธุ์
โดยวัคซีนโควิด-19 โมเดอร์นานั้น มีความสามารถในการใช้รหัสพันธุกรรมบนสายmRNA เป็นตัวออกคำสั่งให้เซลล์ร่างกายของมนุษย์ผลิตโปรตีนแบบเดียวกับที่อยู่บนส่วนหนามของไวรัสออกมา ซึ่งโปรตีนนี้จะไปกระตุ้นให้ร่างกายสร้างสารภูมิคุ้มกันเอาไว้ เพื่อต้านทานการติดเชื้อโควิด–19 ในภายหลัง สามารถต้านทานโอไมครอนที่มีลักษณะเป็นไวรัสกลายพันธุ์มากถึง 50 ตำแหน่ง
ทั้งนี้ การฉีดวัคซีนโควิด-19 โมเดอร์นา สำหรับการป้องกันโรคโควิด-19 ในกลุ่มเด็กอายุ 6-11 ปี ได้มีการอนุมัติใช้มาก่อนหน้าแล้วในประเทศออสเตรเลีย แคนาดา และสหภาพยุโรป โดยข้อมูลที่ทางบริษัทโมเดอร์นาได้นำส่งให้กับทางสาธารณสุขแคนาดาและรัฐบาลออสเตรเลียนั้นแสดงให้เห็นว่า การให้วัคซีนโมเดอร์นา ขนาด 50 ไมโครกรัม เป็นวัคซีนชุดหลักจำนวน 2 เข็ม ในกลุ่มเด็กอายุ 6-11 ปี มีการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันในการยับยั้งเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ไม่ด้อยไปกว่ากลุ่มอายุ 18-25 ปี และโดยทั่วไปมีความทนต่อยาได้ดีเช่นกัน
“การได้รับอนุมัติให้ขยายข้อบ่งใช้วัคซีนโควิด-19 โมเดอร์นา สำหรับกลุ่มเด็กอายุ 6 – 11 ปีในประเทศไทยในครั้งนี้นับว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าวัคซีนโควิด-19 โมเดอร์นา มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมทั้งมีความปลอดภัย สามารถใช้ได้ในทั้งผู้ใหญ่ วัยรุ่น มาจนถึงกลุ่มเด็กอายุ 6 – 11 ปี พวกเขาจะสามารถกลับไปโรงเรียน และทำกิจกรรมต่างๆ ได้ในอนาคตอันใกล้นี้” ซึ่งมีความสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของรัฐบาลไทย ที่เล็งเห็นว่าโควิด-19 กำลังจะกลายเป็นโรคประจำถิ่นในอีกไม่ช้า อีกทั้งยังมีความตั้งใจเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยว และผ่อนคลายบรรยากาศการเฝ้าระวังของคนในสังคมให้เบาลง เพื่อขับเคลื่อนความเป็นอยู่และระบบเศรษฐกิจให้ก้าวไปข้างหน้า