‘บมจ.ชริ้งเฟล็กซ์ (ประเทศไทย) หรือ SFT’ หนึ่งในผู้นำการให้บริการ Labeling Solutions แบบครบวงจร ด้วยผลิตภัณฑ์ฉลากฟิล์มหดรัดรูปในภูมิภาคอาเซียน เผยผลงานไตรมาส1/2565 ทำรายได้รวม 201.62 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 16.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.89% และ 28.58% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2564 แม้เจอปัจจัยลบจากต้นทุนการผลิตปรับตัวสูงขึ้น เดินหน้าขยายฐานลูกค้ารับจังหวะเศรษฐกิจฟื้นตัว มั่นใจปีนี้เติบโตตามแผน
ซุง ชง ทอย ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชริ้งเฟล็กซ์ (ประเทศไทย)จำกัด (มหาชน) หรือ SFT หนึ่งในผู้นำการให้บริการ Labeling Solutions แบบครบวงจร ด้วยผลิตภัณฑ์ฉลากฟิล์มหดรัดรูปในภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยถึงภาพรวมการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาส 1/2565 (มกราคม-มีนาคม) ว่าแม้ต้องเผชิญกับความท้าทายในการบริหารจัดการจากปัจจัยต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้น ทั้งในส่วนของราคาวัตถุดิบและพลังงานที่เร่งปรับตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน และการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นและกำลังซื้อของผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงผลักดันการเติบโตของผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2565 ได้เพิ่มขึ้น โดยมีรายได้รวม 201.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.89% และมีกำไรสุทธิ 16.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.58% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2564
ทั้งนี้ ปัจจัยความสำเร็จมาจากการบริหารจัดการด้านต้นทุนการผลิตให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งการบริหารอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อจัดซื้อเพื่อลดผลกระทบจากราคาวัตถุดิบ ลดการสูญเสียจากไลน์การผลิตให้อยู่ในเกณฑ์ต่ำ ควบคู่กับการบริหารกำลังการผลิตเพื่อให้เกิดEconomy of Scale เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบจากราคาต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วให้กับลูกค้าซึ่งถือเป็น Strategic Partner ที่สำคัญของบริษัทฯ จึงส่งผลให้กำไรสุทธิในไตรมาสนี้ปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
“ภาพรวมในไตรมาสแรกเป็นเรื่องที่มีความท้าทายการบริหารจัดการด้านต้นทุนเพื่อลดผลกระทบ ซึ่งเราทำได้ดีในระดับหนึ่ง สะท้อนจากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเชื่อมั่นว่าด้วยประสบการณ์ในการทำธุรกิจและการวางแผนงานที่มีความยืดหยุ่น ทำให้เราสามารถเรียนรู้ ปรับตัวและพัฒนาการทำงานเพื่อให้เกิดการเติบโตของบริษัทตามเป้าหมายที่วางไว้” ซุง ชง ทอย กล่าว
ส่วนแนวโน้มการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีนี้ SFT จะมุ่งบริหารจัดการด้านการผลิตให้มีประสิทธิภาพรองรับคำสั่งซื้อสินค้าจากลูกค้าที่เพิ่มขึ้นในช่วงฤดูการขายสินค้าในช่วงหน้าร้อน และช่วงที่เหลือของปีนี้เพื่อตอบสนองความต้องการฉลากฟิล์มหดรัดรูปของลูกค้าในอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่มและสินค้าอุปโภคบริโภคที่เพิ่มขึ้น หลังเห็นสัญญาณการบริโภคภายในประเทศฟื้นตัวดีขึ้นตามลำดับจากนโยบายการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยว รวมถึงมีแผนงานการขยายตลาดผ่านการออกงานแสดงสินค้า ได้แก่ INTERMACH and MTA Asia 2022 หรืองานแสดงเทคโนโลยีเครื่องจักรอุตสาหกรรมและโซลูชั่นการผลิตที่ทันสมัย ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 18-21 พฤษภาคม และงาน THAIFEX-ANUGA ASIA 2022 หรืองานแสดงสินค้าอาหาร เครื่องดื่มและเทคโนโลยีอาหารระดับนานาชาติ ที่จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 24-29 พฤษภาคม เป็นต้น เพื่อนำเสนอสินค้าใหม่อย่างผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์อ่อน นวัตกรรมการพิมพ์ พร้อมขยายฐานลูกค้า เร่งเพิ่มยอดคำสั่งซื้อให้มีมากขึ้น ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยต่ำ ควบคู่กับการบริหารจัดการด้านต้นทุนการผลิตอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้ภาพรวมทั้งปีเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้