‘บมจ.ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค’ หรือ PIN ประเมินกลุ่มธุรกิจ Recurring Income ปีนี้ขยายตัวต่อเนื่อง รับจังหวะเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวดีขึ้น เร่งขยายฐานลูกค้าในภาคอุตสาหกรรมโลจิสติกส์และอุตสาหกรรมบริการเช่า รับความต้องการเช่าพื้นที่เพิ่ม ดันรายได้จากการให้บริการพื้นที่ส่วนกลางเพิ่ม
พีระ ปัทมวรกุลชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ PIN เปิดเผยว่า ได้ประเมินทิศทางดำเนินงานกลุ่มธุรกิจให้เช่าที่ดินพร้อมอาคารโรงงานและคลังสินค้า และให้เช่าที่ดินเปล่า และกลุ่มธุรกิจให้บริการพื้นที่ส่วนกลางและระบบสาธารณูปโภคภายในโครงการ (กลุ่มธุรกิจ Recurring Income) มีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง รับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 3.5-4.5% แม้มีความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดโควิด19 และความขัดแย้งจากรัสเซีย-ยูเครนก็ตาม โดยมองว่ากลุ่มลูกค้าภาคอุตสาหกรรมโลจิสติกส์และอุตสาหกรรมภาคบริการจะมีความต้องการเช่าพื้นที่โรงงานและคลังสินค้าเพิ่มขึ้น ซึ่ง PIN พร้อมนำจุดเด่นด้านทำเลที่ตั้งโครงการนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทองโครงการ 3 (PIN3) และ นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทองโครงการ5 (PIN5) ที่ยังมีพื้นที่รอการเช่าเพื่อรองรับความต้องการลูกค้า ส่งผลดีต่ออัตราการเช่าพื้นที่โดยรวมของ PIN เพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่มีอัตราเช่าพื้นที่โดยรวมประมาณ 85% ด้วยอายุสัญญาเฉลี่ย 3 ปีขึ้นไป
ขณะเดียวกัน กลุ่มธุรกิจให้บริการพื้นที่ส่วนกลางและระบบสาธารณูปโภคภายในโครงการ เป็นอีกกลุ่มธุรกิจที่มีศักยภาพการเติบโตต่อเนื่อง จากปัจจัยฐานลูกค้าใหม่ของนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทองเพิ่มขึ้น โดยมาจากกลุ่มธุรกิจขายที่ดินที่ได้ตั้งเป้าการขายปีนี้ 350 ไร่ และจากโครงการโลจิสติกส์ปาร์คแห่งใหม่ที่คาดว่าจะเปิดรับลูกค้าเช่าพื้นที่ได้ภายในครึ่งปีหลังของปีนี้เป็นต้นไป รวมถึงฐานลูกค้าเดิมในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทองทั้ง 6 แห่ง มีกิจกรรมการผลิตเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯ จะจัดเก็บรายได้จากการให้บริการสาธารณูปโภคเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน
“เราประเมินว่ากลุ่มธุรกิจให้ Recurring Income จะปรับตัวดีขึ้นตามลำดับตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป ส่งผลให้ทั้งปีกลุ่มธุรกิจดังกล่าวจะมีอัตราเติบโตประมาณ 10%