โรงงานน้ำตาล เดินหน้าเปิดรับอ้อยเข้าหีบประจำฤดูการผลิตปี 2564/65 ในวันที่ 7 ธ.ค. นี้ คาดมีปริมาณผลผลิตประมาณ 90 ล้านตัน โดยกำหนดราคาอ้อยขั้นต้นที่ 1,070 บาทต่อตันอ้อย ณ ค่าความหวาน 10 ซี.ซี.เอส. ตามมติคณะกรรมการบริหาร (กบ.) รับราคาน้ำตาลในตลาดยังอยู่ในเกณฑ์สูง ส่งผลให้ชาวไร่อ้อยมีรายได้จากการเพาะปลูกที่ดี พร้อมจับมือทุกฝ่ายร่วมลดอ้อยไฟไหม้ ตอบสนองนโยบายภาครัฐ
สิริวุทธิ์ เสียมภักดี รองประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ไทยชูการ์ มิลเลอร์ จำกัด (TSMC) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) ครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2564 มีวาระพิจารณาที่สำคัญ 4 เรื่อง ได้แก่ (1) การกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายของปี2563/64 (2) การกำหนดค่าอ้อยเบื้องต้นปี 2564/65 (3) กำหนดวันเปิดหีบอ้อยฤดูการผลิตปี2564/65 และ (4) กำหนดอัตราการเก็บเงินค่าบำรุงให้แก่สถาบันชาวไร่อ้อย ซึ่งถือเป็นวาระที่เกี่ยวข้องกับชาวไร่อ้อยโดยตรง แต่เนื่องจากกรรมการจากฝ่ายชาวไร่อ้อยไม่เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ ประธาน กอน. ขอถอนวาระดังกล่าวออกไปก่อน ส่งผลให้ กอน. ยังไม่มีมติในเรื่องดังกล่าว โดยเฉพาะกำหนดวันเปิดหีบอ้อยประจำฤดูการผลิตปี 2564/65 ตามที่ กบ. เสนอ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า กอน. ยังไม่ได้กำหนดวันเปิดหีบอ้อย ประจำปี2564/65 ตามที่ กบ. เสนอผู้ประกอบการโรงงานน้ำตาลทั้ง 57 โรง ก็พร้อมจะเปิดรับผลผลิตอ้อยเข้าหีบตามกำหนดเวลาที่ กบ. เห็นชอบให้เริ่มเปิดหีบอ้อยเริ่มตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2564 เป็นต้นไป เนื่องจากโรงงานได้เตรียมเครื่องมือเครื่องจักรหีบอ้อยไว้พร้อมแล้ว ขณะเดียวกัน ชาวไร่ก็พร้อม และสภาพกับอายุของอ้อยก็เหมาะสมที่จะตัดส่งเข้าหีบ โดยโรงงานจะทดรองจ่ายเงินค่าอ้อยขั้นต้นให้ชาวไร่อ้อยไปก่อนที่ 1,070บาทต่อตันอ้อย ณ ค่าความหวาน 10 ซี.ซี.เอส. โดยมีค่าความหวานอ้อยเพิ่มเติมอีก 64.20 บาท ต่อ1 หน่วย ซี.ซี.เอส. เพื่อช่วยเหลือชาวไร่อ้อยให้มีรายได้นำไปใช้จ่ายในการดำรงชีพและประกอบอาชีพปลูกอ้อยต่อไป ทั้งนี้ สำหรับฤดูการผลิตปี 2564/65 ฝ่ายโรงงานจะไม่ดำเนินการหักเงินค่าบำรุงสถาบันชาวไร่อ้อย เนื่องจากมีความสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมายและอาจถูกชาวไร่ฟ้องร้องได้
ส่วนปริมาณอ้อยเข้าหีบในฤดูการผลิตปี 2564/65 ฝ่ายโรงงานน้ำตาลคาดว่า จะมีผลผลิตประมาณ 90 ล้านตันอ้อย สูงขึ้นกว่าปีก่อนที่มีผลผลิตอยู่ที่ 66 ล้านตัน จากปัจจัยสภาพอากาศที่เอื้อต่อการเติบโตของอ้อย นอกจากนี้ ผู้ประกอบการจะไปช่วยวางแผนบริหารจัดการด้านการจัดเก็บผลผลิตอ้อยให้มีคุณภาพที่ดีที่สุดสำหรับนำมาสกัดเป็นน้ำตาลให้ได้ปริมาณน้ำตาลต่อตันอ้อย (ยิลด์) สูงสุด เพื่อช่วยบริหารจัดการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตน้ำตาลของฝ่ายโรงงานอีกทางหนึ่ง และจะร่วมมือกันลดปัญหาอ้อยไฟไหม้เพื่อตอบสนองนโยบายของภาครัฐอย่างเต็มที่
“ฝ่ายโรงงานเห็นพ้องที่จะเดินหน้าเปิดรับผลผลิตอ้อยเข้าหีบประจำฤดูการผลิตปีนี้ โดยกำหนดวันเปิดหีบอ้อยประจำฤดูการผลิต และกำหนดจ่ายเงินค่าอ้อยขั้นต้น ตามมติของ กบ. ที่ให้ความเห็นชอบแล้ว เพื่อไม่ให้กระทบต่อชาวไร่อ้อยที่ต้องการนำอ้อยส่งมอบให้แก่โรงงาน ซึ่งจะทำให้ชาวไร่มีรายได้เพิ่มจากการเพาะปลูกและส่งมอบอ้อยสดที่มีคุณภาพ ที่จะช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายเติบโตอย่างยั่งยืน” สิริวุทธิ์ กล่าว