บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี หรือ STA ทำกำไรสุทธิไตรมาส 2/2564 ดีต่อเนื่องที่ 5,043.7 ล้านบาท เติบโต 361.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รับอุตสาหกรรมยานยนต์ฟื้นตัวหนุนดีมานด์ยางล้อพุ่ง พร้อมปรับเป้าหมายปริมาณการขายยางธรรมชาติในปีนี้เพิ่มอีก 100,000 ตัน เป็น 1.3 ล้านตัน ด้านบอร์ดอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 1.25 บาทต่อหุ้น เตรียมขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 23 สิงหาคมนี้ ชูแอปพลิเคชัน SRI TRANG FRIENDS รับซื้อยางจากชาวสวน รับการปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัล
วีรสิทธิ์ สินเจริญกุล กรรมการบริหาร บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA ผู้ผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติครบวงจรอันดับ 1 ของโลก เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2564 สามารถทำได้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยมีกำไรสุทธิ 5,043.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 361.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้จากการขายและให้บริการ 29,803.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 95.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตอกย้ำความแข็งแกร่งด้านผลการดำเนินงานของบริษัทฯ
การเติบโตในไตรมาส 2 มีปัจจัยมาจากความต้องการใช้ยางธรรมชาติในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมส่งออกยานยนต์ที่เติบโตอย่างโดดเด่นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ยุโรปและจีน ส่งผลให้มีดีมานด์เพื่อใช้ในการผลิตยางล้อเป็นจำนวนมาก และผู้ผลิตยางล้อชั้นนำเกือบทุกรายล้วนเป็นลูกค้าของบริษัทฯ รวมถึงอุตสาหกรรมถุงมือยางที่มีความต้องการใช้สินค้าอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ในหลายประเทศยังไม่คลี่คลายจากไวรัสกลายพันธุ์ รวมถึงดีมานด์ถุงมือยางทางการแพทย์เพื่อใช้ฉีดวัคซีน
ล่าสุด ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2564 ในอัตราหุ้นละ 1.25 บาท เตรียมขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 23 สิงหาคมนี้ และจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 8 กันยายน 2564
ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2564 มีการเติบโตที่โดดเด่นเช่นเดียวกัน โดยมีกำไรสุทธิ 11,002.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9,054.4 ล้านบาท หรือคิดเป็น 464.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้จากการขายและบริการรวม 61,383.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 87.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากความต้องการใช้ยางธรรมชาติจากทั่วโลกที่แข็งแกร่ง ส่งผลดีต่อปริมาณการขายสินค้าที่เพิ่มขึ้นและราคายางแท่ง TSR ณ ตลาด SICOM ในช่วงครึ่งปีแรก โดยมีราคาเฉลี่ยในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 172.3 เซนต์ต่อกิโลกรัม
กรรมการบริหาร STA กล่าวว่า จากผลการดำเนินงานที่ดี บริษัทฯ ได้พิจารณาปรับเพิ่มเป้าหมายปริมาณการขายยางธรรมชาติในปี 2564 เพิ่มขึ้นอีก 100,000 ตัน เป็น 1.3 ล้านตัน จากเป้าเดิมที่ 1.2 ล้านตัน โดยมองว่าในปัจจุบันอุตสาหกรรมยางธรรมชาติกำลังเข้าสู่วัฏจักรขาขึ้นรอบใหม่จากเศรษฐกิจที่ค่อยๆ ฟื้นตัวและอุตสาหกรรมยานยนต์และถุงมือยางที่มีการเติบโตได้ดีในปัจจุบัน ส่งผลดีต่อดีมานด์และราคาขายเฉลี่ยที่ปรับเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ยกระดับการรับซื้อยางจากชาวสวนสู่ Digitalization โดยนำระบบแอปพลิเคชัน SRI TRANG FRIENDS (ศรีตรังเพื่อนชาวสวน) เข้ามาใช้ในการรับซื้อยาง เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายสอดรับกับยุคดิจิทัล โดยชาวสวนสามารถกรอกข้อมูลราคาและปริมาณยางที่เสนอขายเพื่อรอการอนุมัติจากบริษัทฯ และติดตามสถานการณ์ราคารวมถึงข้อมูลข่าวสารต่างๆ ปัจจุบันมีจำนวนผู้ลงทะเบียนแอปพลิเคชันแล้วมากกว่า 7,000 ราย