3 สมาคมฯ ขานรับมาตรการเปิดร้านอาหารในห้างฯ ขายผ่านฟู้ดเดลิเวอรี่

587

สมาคมผู้ค้าปลีกไทยหารือร่วมสมาคมศูนย์การค้าไทย-สมาคมภัตตาคารไทยขานรับมาตรการเปิดร้านอาหารในห้างฯ ขายผ่านฟู้ดเดลิเวอรี่ ยันพร้อมที่จะปฏิบัติตามมาตรการผ่อนปรนอย่างเคร่งครัดและสูงสุด เผยเป็นการต่อลมหายใจให้กับผู้ประกอบการกว่า 4 หมื่นราย ครอบคลุมแรงงานกว่า 4 แสนราย  

จากคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ลงวันที่ 1 สิงหาคม 2564 เรื่องการยกระดับมาตรการการควบคุมโรคไวรัสโควิด 19 และการปรับมาตรการควบคุมแบบบูรณาการเร่งด่วนสำหรับสถานที่ กิจการหรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยง โดยผ่อนปรนให้ร้านอาหารในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และคอมมูนิตี้มอลล์ ให้ดำเนินการได้เฉพาะการสั่งอาหารหรือเครื่องดื่มผ่านบริการขนส่งอาหาร (Food Delivery Service) ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด โดยมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า สมาคมผู้ค้าปลีกไทย ได้ประสานหารือกับสมาคมศูนย์การค้าไทยและสมาคมภัตตาคารไทย ทั้ง 3 สมาคมฯ ขอขอบคุณ ศบค.ที่รับฟังข้อคิดเห็นของผู้ประกอบการและพิจารณาอนุมัติการผ่อนผันในครั้งนี้ การผ่อนปรนมาตรการดังกล่าวถือเป็นการต่อลมหายใจให้กับผู้ประกอบการกว่า 40,000 ราย และครอบคลุมจำนวนแรงงานกว่า 400,000 ราย ทำให้มีรายได้เพื่อพยุงธุรกิจต่อไป

โดยทั้ง 3 สมาคมฯ พร้อมที่จะปฏิบัติตามมาตรการผ่อนปรนอย่างเคร่งครัดและสูงสุด ในส่วนของผู้ประกอบการ มีการยกระดับมาตรการในการคัดกรองและการป้องกันการแพร่ระบาดโดย DMHTemp D : Distancing เว้นระยะห่างภายในร้านอย่างเคร่งครัด M : Mask wearing สวมหน้ากากตลอดเวลา H : Hand washing ล้างมือบ่อยๆ ครั้งละอย่างน้อย 20 วินาที และ Temp : Temperature มีการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าปฎิบัติงานสำหรับพนักงานทุกคน

ในส่วนของห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ได้มีการกำหนดระบบการคัดกรอง และจุดพักคอยที่เป็นไปตามมาตรการของศบค. ตั้งอยู่บริเวณที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก พร้อมยกระดับการควบคุมสูงสุดในเรื่องของมาตรการสุขอนามัยของผู้รับ-ส่งอาหาร เดลิเวอรี่ เป็นต้น”

ทั้งนี้ 3 สมาคมฯ พร้อมที่จะปฏิบัติตามมาตรการผ่อนปรนให้ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และคอมมูนิตี้มอลล์ เปิดดำเนินการได้จนถึงเวลา 20.00 น. ในรูปแบบการสั่งอาหารหรือเครื่องดื่มผ่านการบริการขนส่งอาหาร (Food Delivery Service) และไม่เปิดบริการให้ประชาชนทั่วไปซื้ออาหารหรือเครื่องดื่มแบบรับกลับด้วยตัวเอง (Take Away) ได้ ในพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด ดังนี้

ในส่วนของผู้ประกอบการ ต้องจัดทำมาตรการ DMHTemp สำหรับพนักงานทุกคน สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ห้ามรวมกลุ่ม หรือรับประทานอาหารร่วมกัน ห้ามเปิดหน้าร้าน กรณีมีอาการทางเดินหายใจ/ไข้ หรือเป็นผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อ ต้องหยุดทำงานทันที

ส่วนห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และคอมมูนิตี้มอลล์ ต้องจัดให้มีระบบคัดกรอง และลงทะเบียนผู้ขนส่งอาหารก่อนเข้าภายในอาคารหรือพื้นที่ จัดระบบคิว และกำหนดพื้นที่เป็นการเฉพาะสำหรับรอคิว มีบริเวณพักคอยซึ่งมีการเว้นระยะห่างระหว่างที่นั่งหรือยืนที่เหมาะสมและต้องมีการกำกับดูแลให้มีการดำเนินตามมาตรการอย่างเคร่งครัด

สำหรับพนักงานรับ-ส่งอาหารแบบออนไลน์ ต้องเน้นย้ำมาตรการ DMH สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เว้นระยะห่างผู้อื่น พกเจลแอลกอฮอล์ รอรับอาหาร ณ จุดรับ-ส่ง เท่านั้น กรณีมีอาการทางเดินหายใจ/ไข้ หรือเป็นผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อ ต้องหยุดทำงานทันที

นายญนน์กล่าวด้วยว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทั้ง 3 สมาคมฯ ได้ให้ความร่วมมือกับ ศบค. อย่างเคร่งครัด ในการดำเนินมาตรการควบคุมและป้องการการแพร่ระบาด และยินดีที่จะสนับสนุนรัฐบาลในการผลักดันมาตรการต่างๆ พร้อมยกระดับขั้นสูงสุด เพื่อพลิกฟื้นสถานการณ์ให้กลับมาดีขึ้น โดย ทั้ง 3 สมาคมฯ เชื่อว่าความช่วยเหลือและร่วมมือกันในครั้งนี้ จะทำให้ทุกคนก้าวผ่านวิกฤติโควิดครั้งนี้ไปได้ด้วยกัน