บมจ.อินเทอร์เน็ตประเทศไทย หรือ INET เปิดตัวทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไอเน็ต (INETREIT) เข้าลงทุนในศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลดาต้า เซ็นเตอร์ โครงการ ‘INET–IDC3 เฟส 1’ มูลค่ารวม 4,300 ล้านบาท ชูจุดเด่นเป็นกองทรัสต์กองแรกที่ลงทุนในธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีในไทย เพื่อรองรับอนาคตและเทรนด์ความต้องการใช้งานระบบคลาวด์ที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในยุคดิจิทัล เตรียมเสนอขายหน่วยทรัสต์เร็วๆ นี้ และคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้นเดือนสิงหาคมนี้
มรกต กุลธรรมโยธิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือINET เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีแบบครบวงจร ปัจจุบันมีธุรกิจหลัก 3 กลุ่ม ได้แก่
1.ธุรกิจให้บริการคลาวด์ โซลูชันส์ (Cloud Solutions) แก่ลูกค้าภาครัฐและเอกชน เช่น สถาบันการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ ฯลฯ ที่ต้องการจัดเก็บข้อมูลในระบบคลาวด์ที่มีความปลอดภัยสูง โดยมีศูนย์อินเทอร์เน็ต ดาต้า เซ็นเตอร์ (INET Data Center) หรือโครงการ INET-IDC 3 แห่ง ประกอบด้วย INET-IDC1 ณ อาคารบางกอกไทยทาวเวอร์ ถนนรางน้ำ INET-IDC2 ณ อาคารไทยซัมมิททาวเวอร์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ และ INET–IDC3 จังหวัดสระบุรี
2.ธุรกิจบริการเชื่อมอินเทอร์เน็ต (Internet Access) เพื่อให้บริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแก่ลูกค้าธุรกิจด้วยความเร็วที่หลากหลายและครอบคลุมพื้นที่ทุกจังหวัด
3.บริการ Co – Location โดยศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลไอเน็ตจะเป็นศูนย์กลางการให้บริการแก่หน่วยงานหรือภาคธุรกิจต่างๆ ที่ต้องการนำเสนอข้อมูลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตและอินทราเน็ต
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ขยายการลงทุนในโครงการ INET Data Center อย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมศักยภาพแก่ลูกค้าในการเปลี่ยนผ่านองค์กรสู่ระบบดิจิทัลเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต และตอบสนองความต้องการการจัดเก็บข้อมูลในระบบคลาวด์ในยุคดิจิทัลที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงยังมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าการลงทุนในระบบคลาวด์เอง โดยโครงการ INET–IDC 3 จังหวัดสระบุรี เป็นศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลแห่งล่าสุดของบริษัทฯ ที่มีความทันสมัยระดับโลก มีเสถียรภาพและความปลอดภัยสูง ได้รับรางวัล Data Center Service Vendor of the Year 2013 จากบริษัท Frost & Sullivan ซึ่งเป็นองค์กรให้คำปรึกษาและวิจัยระดับโลก ซึ่งบริษัทฯ เริ่มเปิดให้บริการเฟส 1 ในเดือนมีนาคม 2560 และเฟส 2 (บางส่วน) รวมถึงมีแผนขยายการลงทุนในโครงการ INET–IDC 3 เฟส 2 3 และ 4 อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ จากผลสำรวจธุรกิจให้บริการคลาวด์ในประเทศไทยจาก IDC Semiannual Public Cloud Services Tracker ปี 2020 (ปี 2563) INET มีส่วนแบ่งตลาด 14.8% เป็นอันดับหนึ่งในจำนวนผู้ประกอบการท้องถิ่นที่ให้บริการคลาวด์ในไทย สะท้อนถึงศักยภาพในฐานะผู้ให้บริการระบบคลาวด์ชั้นนำในประเทศ
ด้าน วัลล์ชัย เวชชีวะดำรงค์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ INET กล่าวว่า บริษัทฯ ได้จัดตั้งทรัสต์ เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไอเน็ต หรือ INET Leasehold Real Estate Investment Trust (INETREIT) เพื่อเข้าลงทุนในโครงการ INET–IDC3 เฟส 1 จังหวัดสระบุรี ซึ่งมีลูกค้าใช้บริการจากอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ทั้งหน่วยงานภาครัฐและบริษัทเอกชนที่มีชื่อเสียง เช่น กลุ่มธนาคาร, เทคโนโลยีไอที, ธุรกิจพาณิชย์ เป็นต้น เนื่องจากศักยภาพของโครงการที่มีมาตรฐานสูง อยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่ำที่จะเกิดความเสียหายจากภัยพิบัติต่างๆ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจร 24 ชั่วโมง สามารถเชื่อมต่อกับโครงการ INET-IDC 1 และ INET-IDC 2 อย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อเป็นเส้นทางสำรองในการเข้าถึงข้อมูลและสามารถให้บริการอย่างต่อเนื่องแม้ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน
โดยผลการดำเนินงานปี 2561 – 2563 ของโครงการ INET–IDC3 เฟส 1 นี้ เป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยปี 2561 มีรายได้รวม 462.12 ล้านบาท (เดือนละ 38.51 ล้านบาท) ปี 2562 มีรายได้รวม 865.44 ล้านบาท (เดือนละ 72.12 ล้านบาท) และ 1,123.20 ล้านบาท (เดือนละ 93.60 ล้านบาท)
พรวิสาข์ มังกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอเน็ต รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ กล่าวว่า INETREIT จะเข้าลงทุนครั้งแรกในอาคารและอุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่องกับการดำเนินงานของโครงการ INET-IDC3 เฟส 1 และที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งของอาคารควบคุมสถานีไฟฟ้าย่อย ประกอบด้วย การลงทุนในกรรมสิทธิ์อาคารศูนย์ปฏิบัติการข้อมูล (Data Center) พื้นที่ประมาณ 1,900 ตารางเมตรและอาคารห้องเครื่องพื้นที่ 2,000 ตารางเมตร อาคารรับรอง (Customer Center) พื้นที่ประมาณ 1,600 ตารางเมตร ทรัพย์สินส่วนกลางของโครงการ อาคารและส่วนควบของสถานีไฟฟ้าย่อย (Substation) ตู้ Rack อุปกรณ์การเชื่อมต่ออื่นๆ ที่ใช้ในโครงการรวมถึงอุปกรณ์เทคโนโลยีขั้นสูง (Core Network) จำนวน 492 Rack ตลอดจนอุปกรณ์ที่ใช้ในโครงการ INET-IDC3 เฟส 1 และลงทุนในสิทธิการเช่าที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งของอาคารควบคุมสถานีไฟฟ้าย่อย ระยะเวลาการเช่าประมาณ 24 ปี 5 เดือน (สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2588)
หลังจากกองทรัสต์เข้าลงทุนในโครงการ INET-IDC3 เฟส 1 จะปล่อยเช่าทรัพย์สินดังกล่าวแก่ INET เพียงรายเดียวตลอดระยะเวลาการเช่า โดยค่าเช่าเป็นค่าเช่าคงที่ และมีข้อตกลงปรับขึ้นค่าเช่าปีละ 1 ครั้ง ในอัตราร้อยละ 2 ต่อปี ซึ่งจะทำให้กองทรัสต์มีรายได้มั่นคงและเติบโตอย่างสม่ำเสมอ โดยค่าเช่าเริ่มต้นในปี 2564 เท่ากับ 30.928 ล้านบาทต่อเดือน นอกจากนี้กองทรัสต์ได้รับสิทธิในการปฏิเสธก่อน (Right of First Refusal) ในโครงการ INET-IDC3 เฟส 2 เฟส 3 และ เฟส 4 และศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลอื่นๆของ INET เพื่อรองรับแผนงานขยายการลงทุนเพิ่มเติมในอนาคต
จิรยง อนุมานราชธน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจย์ แคปปิตอล แอดไวเซอรี จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า กองทรัสต์จะเข้าลงทุนในทรัพย์สินครั้งแรกในราคาลงทุนไม่เกิน 4,300 ล้านบาท โดยมีมูลค่าใกล้เคียงกับราคาประเมินทรัพย์สินของผู้ประเมินทรัพย์สินอิสระที่ราคา 4,298-4,496 ล้านบาท ซึ่งที่ปรึกษาทางการเงินเห็นว่าราคาลงทุนดังกล่าวเป็นราคาที่เหมาะสม
พรวิภา ตั้งตรงจิตร ผู้บริหารกลุ่มธุรกิจวาณิชธนกิจ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ผู้จัดการการจัดจำหน่าย กล่าวว่า สำหรับจุดเด่นของ INETREIT เป็นกองทรัสต์กองแรกในไทยที่เข้าลงทุนในธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีในไทยเพื่อรองรับโลกอนาคต ซึ่งกองทรัสต์จะมีรายได้ค่าเช่าที่มั่นคงและสม่ำเสมอและจะได้รับประโยชน์จากนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) โดยมีฐานลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชนในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย และบริหารจัดการโดยบริษัท ไอเน็ต รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ซึ่งมีผู้บริหารที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจอินเทอร์เน็ต ดาต้า เซ็นเตอร์ และตัวผู้เช่า INET เองก็มีความแข็งแกร่งจากการที่มีภาครัฐถือหุ้นอยู่ 49%
การเข้าลงทุนครั้งแรกของกองทรัสต์ INETREIT มีมูลค่ารวม 4,300 ล้านบาท โดยมาจากการเสนอขายหน่วยทรัสต์จำนวนไม่เกิน 330 ล้านหน่วย ที่ราคาเสนอขายหน่วยละ 10 บาท และเงินกู้ยืมระยะยาวไม่เกิน 1,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหน่วยทรัสต์และร่างหนังสือชี้ชวน ได้รับการอนุมัติจากสำนักงาน ก.ล.ต. และมีผลใช้บังคับแล้ว
อภิชาติ เนตรจรัสแสง ผู้บริหารงานวาณิชธนกิจ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ผู้จัดการการจัดจำหน่าย
กล่าวว่า จะเปิดการขายเร็วๆ นี้ ผ่าน ทาง ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) และ บล.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน) โดยจองซื้อขั้นต่ำ 1,000 หน่วย หรือ 10,000 บาท และเพิ่มขึ้นครั้งละ 100 หน่วย หรือ 1,000บาท
ผู้ลงทุนสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.inetreit.com หรือ www.sec.or.th เงื่อนไขการจัดจำหน่ายเป็นเป็นตามที่เปิดเผยไว้ในหนังสือชี้ชวน