NCAP ตั้ง “ปุณณมาศ วิจิตรกุลวงศา” นั่งเก้าอี้ CO-CEO พร้อมเปิดบริษัทย่อยลุยสินเชื่อส่วนบุคคล

407

NCAP เดินเกมธุรกิจไฟแนนซ์ ประกาศแต่งตั้ง “ปุณณมาศ วิจิตรกุลวงศา” ดํารงตําแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม (Co-CEO) พร้อมขับเคลื่อนบริษัทย่อยแห่งใหม่ “บริษัท เน็คซ์ มันนี่ จำกัด” คาดจดทะเบียนแล้วเสร็จ Q3/64 โดย NCAP ถือหุ้น 80% เพื่อเสริมแกร่งรายได้และกำไรในอนาคต พร้อมออก NCAP – ESOP W1 เตรียมจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติ 15 ก.ค.นี้

บริษัท เน็คซ์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (NCAP) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการแต่งตั้ง ปุณณมาศ วิจิตรกุลวงศา ให้ดํารงตําแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม (Co-CEO) มีผลตั้งแต่ วันที่ 7 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป นับเป็นการส่งเสริมนโยบายของบริษัทฯ ให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ เนื่องจากท่านเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ และเชี่ยวชาญในการบริหารธุรกิจด้านการเงินและเทคโนโลยี เข้ามาเสริมทัพแผนการขยายธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลของกลุ่มบริษัท ภายใต้ “บริษัท เน็คซ์ มันนี่ จำกัด” ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่จัดตั้งขึ้นใหม่ จากเดิมบริษัทฯ แข็งแกร่งในธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ภายใต้การนำทัพของ นายสมชัย ลิมป์พัฒนสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจัดตั้งบริษัทย่อย ภายใต้ชื่อ “บริษัท เน็คซ์ มันนี่ จำกัด” ด้วยทุนจดทะเบียน 50,000,000 บาท แบ่งออกเป็นจำนวน 500,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท เพื่อประกอบกิจการให้สินเชื่อส่วนบุคคล โดยมีผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ บริษัท เน็คซ์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) สัดส่วน 80% นายปุณณมาศ วิจิตรกุลวงศา 10% และ บุคคลธรรมดารายอื่น 10% และมีกรรมการประกอบด้วย นางสาวสุธิดา มงคลสุธี นางสาววาสนา พงศ์แสงลึก นายปุณณมาศ วิจิตรกุลวงศา สำหรับเงินทุนที่บริษัทใช้ในการลงทุนครั้งนี้ มาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินการซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องและการดำเนินการของบริษัท โดยคาดประโยชน์ที่ได้รับ เพื่อขยายธุรกิจ และเพิ่มช่องทางการรับรู้รายได้และกำไร โดยคาดว่าจะดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทให้แล้วเสร็จภายในไตรมาส 3/2564
นอกจากนี้ มีมติอนุมัติการออกใบสําคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทเพื่อเสนอจัดสรรให้แก่ผู้บริหาร (รวมถึงผู้บริหารที่ดํารงตําแหน่งกรรมการของบริษัทและ/หรือบริษัทย่อย) และ/หรือ พนักงานของบริษัทและ/หรือบริษัทย่อย ครั้งที่ 1 (“NCAP – ESOP W1”) จํานวนไม่เกิน 38,000,000 หน่วย อายุไม่ เกิน 5 ปี โดยไม่คิดมูลค่า รวมทั้ง การเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทอีกจํานวน 19,000,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 450,000,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียน 469,000,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่ม ทุนจํานวน 38,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิ NCAP – ESOP W1 และการแก้ไข หนังสือบริคณห์สนธิของบริษัท ข้อ 4 เรื่องทุนจดทะเบียน เพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทดังกล่าว