Kept by กรุงศรี สร้างวินัยคนรุ่นใหม่ เก็บเงินด้วยนวัตกรรม

1492

เคยมีข้อแนะนำในอดีตที่บอกไว้ว่า  หากอยากให้บั้นปลายของชีวิตไม่เดือดร้อน ในวันที่เกษียณอายุการทำงาน 60 ปี คุณควรจะมีเงินเก็บไว้อย่างต่ำ 3 ล้านบาท เพื่อใช้ในการดำรงชีพในวันที่ไม่มีงานทำ ไม่มีรายได้

ข้อแนะนำเมื่อหลายปีก่อน ผ่านมาถึงปัจจุบัน  มูลค่าเงินเก็บที่ควรมีหลังเกษียณสูงขึ้น  แต่สภาพความเป็นจริงของคนไทยพบว่า มีเงินเก็บน้อยลง

ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศระบุว่า  50% ของคนไทยที่มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป มีหนี้ และ 1 ใน 5 เป็นหนี้เสีย โดยสิ้นไตรมาส 4 ปี 2562 หนี้ภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้นมาที่ 79.5% ของ GDP  ซึ่ง พงษ์อนันต์ ธณัติไตร ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจลูกค้ารายย่อยและเครือข่ายการขาย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มองว่า การมีหนี้ไม่ใช้เรื่องเสียหาย หากมีการวางแผนในการบริหารการเงิน และใช้หนี้ได้โดยไม่กระทบกับเงินดำรงชีวิต ยังเหลือเงินกิน เงินเก็บ

แต่ข้อมูลยังระบุต่อไปว่า ปัจจุบัน บัญชีเงินฝากในธนาคารทั้งระบบที่มีอยู่ราว 102 ล้านบัญชี  มูลค่ารวม 15 ล้านล้านบาท  86.6% ของบัญชีเงินฝากทั้งหมดนี้ มีเงินในบัญชีน้อยกว่า 5,000 บาท และคาดว่า 50% จากกลุ่มนี้ น่าจะมีเงินในบัญชีไม่ถึง 500 บาท เป็นกระจกสะท้อนให้เห็นถึงบั้นปลายของเจ้าของบัญชีส่วนใหญ่ว่า คงใช้ชีวิตลำบาก

แนวโน้มปัญหาทางการเงินนี้ กลายเป็นโจทย์ให้สถาบันการเงินอย่างธนาคารกรุงศรีอยุธยา มองหานวัตกรรมที่จะมาช่วยให้ประชาชนมีวินัยในการออมเงิน  จนได้พัฒนาแอปพลิเคชั่นการเงินรูปแบบใหม่ ในชื่อ “Kept”

Kept ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีเป้าหมายด้านการออมเงิน แต่พบว่าการออมเงินเป็นเรื่องยากและไม่สามารถทำตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ โดย Kept จะเข้ามาช่วยสร้างวินัยในการออม ทำให้ไปถึงเป้าหมายการออมเงินได้สำเร็จอย่างมีความสุขตามไลฟ์สไตล์ของตนเอง ภายใต้แนวคิด small change for BIG FUTURE #ปรับนิดชีวิตเปลี่ยน ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ เพื่อความฝันที่ยิ่งใหญ่ ด้วยมหัศจรรย์ของการออมเงินทุกวัน

“Kept คือ นวัตกรรมบริหารเงินแพลตฟอร์มใหม่ ซึ่งได้รับการพัฒนาเพื่อตอบโจทย์คนไทยที่มีปัญหาด้านการเก็บออมและการบริหารจัดการเงิน โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาเป็นเครื่องมือให้สามารถออมเงินได้จริงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ให้การออมเงินเป็นเรื่องง่ายและสนุกเพื่อสร้างความสุขให้กับชีวิตในระยะยาวได้ วินัยด้านการออมเงินถือเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างอนาคตที่มั่นคง จากสถานการณ์ในปัจจุบันที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้เกิดผลกระทบที่ไม่มีใครคาดคิด และเป็นตัวเร่งให้สังคมปรับตัวเข้าสู่วิถีชีวิตปกติรูปแบบใหม่ (New Normal) ซึ่งครอบคลุมถึงการสร้างความมั่นคงทางการเงินด้วย ถือเป็นตัวอย่างที่ช่วยแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการมีเงินออมไว้ใช้เป็นเกราะคุ้มกันยามฉุกเฉิน และสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดได้” พงษ์อนันต์ กล่าว

Kept มาพร้อมฟีเจอร์อัตโนมัติหลากหลายเพื่อให้การออมเงินเป็นเรื่องง่ายขึ้นและสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามรูปแบบการใช้ชีวิตของลูกค้าผ่าน 3 บัญชีหลัก ได้แก่ บัญชี Kept,  บัญชี Grow และบัญชี Fun ทำงานร่วมกันแบบอัตโนมัติเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในระบบ “1 กระเป๋า 2 กระปุก”

บัญชี Kept  เปรียบเสมือนกระเป๋าสตางค์ที่แยกเงินไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน  สามารถโอนเงินเข้ากระเป๋า Kept และทำการตั้งยอดเงินที่อยากจะเก็บไว้ใช้จ่าย  เมื่อสิ้นวัน ระบบจะช่วยโอนเงินส่วนที่เหลือไปเก็บไว้ให้เป็นก้อนที่บัญชี Grow ที่ให้ดอกเบี้ยสูงกว่า  แต่หากต้องการใช้เงินมากกว่าเงินที่มีในกระเป๋า Kept  ระบบจะช่วยหยิบเงินส่วนที่ขาดมาจากกระปุก Grow มาให้ใช้ได้อัตโนมัติเช่นกัน ลูกค้าสามารถโอน เงินเข้า-ออกบัญชี Kept ได้บ่อยเท่าที่ต้องการ โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม

บัญชี Grow  เปรียบเสมือนกระปุกเงินเพื่อเก็บเงินก้อนที่ให้ดอกเบี้ยที่สูงในปีแรก และสูงกว่าในปีที่ 2 คิดดอกเบี้ยทุกวัน จ่ายดอกเบี้ยทุกวันที่ 28 ของเดือน ซึ่งในปัจจุบัน อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.6% และ 1.8% ตามลำดับ โดยเงินจะถูกนำมาใส่ในกระปุกนี้ให้อัตโนมัติทุกสิ้นวันเมื่อเงินในกระเป๋า Kept มีมากกว่ายอดเงินที่ตั้งไว้ว่าจะใช้จ่าย (โดยมีขั้นต่ำ 5,000 บาท ต่อรายการ)   ออมเงินได้สูงสุด 5 ล้านบาท

บัญชี Fun  เปรียบเสมือนกระปุกเงินสำหรับการเก็บเล็กผสมน้อยที่สามารถทำได้ทุกวัน มาพร้อม 2 ฟีเจอร์เด็ดที่ทำให้การออมเงินเป็นเรื่องสนุก  ฟีเจอร์แอบเก็บที่ช่วยเก็บเงินให้ทุกครั้งที่โอนออกหรือสแกนจ่ายด้วย QR code สามารถเลือกแอบเก็บได้หลายวิธี และฟีเจอร์สั่งเก็บให้เก็บเงินเมื่อไรและจำนวนเท่าใดก็ได้ ช่วยให้มีเงินออมสม่ำเสมอโดยไม่ต้อง          เปลี่ยนไลฟ์สไตล์ เมื่อต้องการใช้เงินในกระปุกนี้ก็สามารถโอนเข้ากระเป๋า Kept ได้

แอปพลิเคชั่น ‘Kept’ ดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ iOS และ Android โดยสามารถเปิดบัญชีผ่านระบบยืนยันตัวตนรูปแบบดิจิทัล (National Digital ID – NDID) ไม่ต้องมาที่สาขา หรือยืนยันตัวตนผ่านช่องทาง Krungsri i-CONFIRM  ซึ่งเป็นจุดบริการยืนยันตัวตน ณ ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขาทั่วประเทศ  นอกจากนี้ สำหรับลูกค้าที่สมัครสำเร็จพร้อมโอนเงินขั้นต่ำ 1,000 บาท 1 รายการภายใน 7 วัน นับจากวันสมัครสำเร็จ   จะได้รับบัตรกำนัล e-Coupon สตาร์บัค มูลค่า 100 บาท ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 กันยายน 2563

พงษ์อนันต์กล่าวว่า ปัจจุบันประชาชนส่วนใหญ่ไม่มีวินัยในการวางแผนการออม  ธนาคารกรุงศรีอยุธยาจึงทำหน้าที่เติมความรู้ ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์นวัตกรรม Kept   โดยมองกลุ่มเป้าหมาย กลุ่ม Gen Z คนรุ่นใหม่ อายุ 10-23 ปี ที่มีเงินเก็บน้อย และกลุ่ม Growing Money อายุ 24-40 ปี ที่ต้องการเก็บเงินให้มากขึ้น แต่ไม่ต้องการเสี่ยงลงทุน  โดยสามารถโอนบัญชีเงินเดือนจากทุกธนาคารเข้ามาที่แอป Kept  วางเป้าหมายในรอบ 12 เดือน คาดว่าจะมียอดดาวน์โหลดราว  2 แสนดาวน์โหลด เฉลี่ยบัญชีละ 20,000 บาท คิดเป็นมูลค่าราว 4-5   พันล้านบาท