การเกิดขึ้นของทีวีดิจิทัล เคยถูกมองเป็นความสำเร็จของผู้ที่ได้ครอบครองช่องทีวี แต่ผ่านไปปีแล้วปีเล่า เจ้าของช่องสถานีดิจิทัลต่างประสบปัญหาขาดทุนกันระนาว กลายเป็นคนที่ไม่มีสถานีโทรทัศน์เป็นของตนเอง แต่มีคอนเทนต์มากมายอยู่ในมือที่ประสบความสำเร็จ และหนึ่งในผู้ประสบความสำเร็จสูงสุดคือ JKN ของเจ้าแม่คอนเทนต์ข้ามเพศพันล้าน แอน–จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์
แม่แอนของเหล่า FC หนังอินเดีย นำคอนเทนต์ภาพยนตร์อินเดียแจกจ่ายให้กับช่องทีวีดิจิทัลเกือบทุกช่องได้ออกอากาศ เพราะนอกจากภาพยนตร์อินเดียจะเป็นคอนเทนต์ที่ถูกอกถูกใจคนไทยแล้ว ในส่วนของสถานีเอง การซื้อคอนเทนต์มาออกอากาศเป็นการช่วยลดต้นทุนการผลิตละครเองได้มากพอสมควร จึงไม่น่าแปลกใจว่า ลูกค้ารายใหญ่ของ JKN ก็คือ ช่อง 3 ที่เป็นผู้ผลิตละครมากที่สุด
ความสำเร็จในปีที่ผ่านมาสะท้อนออกเป็นตัวเลขผลการดำเนินงานที่ทำรายได้สูงถึง 1,422 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% จากปีก่อนหน้า ขณะที่ตัวเลขกำไรก็เพิ่มสูงถึง 227.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 21.3%
ตัวเลขรายได้และกำไรที่เพิ่มขึ้นนี้ นอกเหนือจากการนำคอนเทนต์จากต่างประเทศเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว 25% ของรายได้นี้ เป็นการนำคอนเทนต์อินเดีย และละครไทยจากช่อง 3 ออกไปจำหน่ายยังกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน CLMV
และคุณแอนยังตั้งเป้าหมายสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศไว้ว่า JKN ต้องทำให้ได้ถึง 50% ของรายได้รวม พิสมัย ลิขิตอำนวย รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด(มหาชน) หรือ JKN กล่าวว่า ปีที่ผ่านมา JKN เน้นการในรุกตลาดประเทศไทย ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จ แต่ในปีนี้ JKN ได้เสริมทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์เฉพาะสายงานต่างๆ เพื่อรองรับและผลักดันให้ JKN เติบโตได้ไม่ต่ำกว่าในปีที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายสำคัญในการขยายตลาดต่างประเทศให้สามารถทำรายได้เป็นสัดส่วน 50% คือเป้าหมายสำคัญใน 3 ปีจากนี้
เป้าหมายในการสร้างรายได้จากต่างประเทศแบ่งครึ่งกับรายได้ในประเทศตามแนวคิดของคุณแอน ไม่ได้มองเพียงแค่การสร้างภูมิคุ้มกันธุรกิจ ที่จะไม่ให้รายได้พึ่งพาตลาดในประเทศมากเกินจนอาจเกิดผลกระทบหากเกิดปัญหาเศรษฐกิจ หรือปัญหาการเมือง แต่คุณแอนมองไปถึงการนำคอนเทนต์จากประเทศไทยเปิดประตูสู่ตลาดโลก ปักธงประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักในวงการผู้ผลิตคอนเทนต์ระดับโลก
“เรามองว่า นอกจากการเป็นผู้นำคอนเทนต์ทั่วโลกเข้ามาในประเทศไทยแล้ว JKN ยังเป็นผู้นำคอนเทนต์ไทยออกสู่ทั่วโลก นำวิถีการใช้ชีวิตของคนไทย ขนบธรรมเนียมประเพณี ความเป็นอยู่ของคนไทย ออกไปให้ชาวโลกได้รับรู้ เพื่อดึงให้คนทั่วโลกเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย นี่คือสิ่งที่จะตามมาในอนาคตที่ไม่สามารถประเมินมูลค่าได้” พิสมัย กล่าว
โดยนอกเหนือจากคอนเทนต์ละครอินเดีย และฟิลิปปินส์ ที่ JKN ได้รับสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายไปทั่วโลก นอกจากประเทศเจ้าของคอนเทนต์ แล้ว JKN ยังได้รับสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายละครของช่อง 3 ทั้งหมด ซึ่งเริ่มจำหน่ายในช่วงครึ่งปีหลังของปีที่ผ่านมา และในปีนี้ก็มีแผนรุกตลาดให้มากขึ้น ด้วยการใช้กลยุทธ์การตลาด Superstar Marketing Superstar Marketing คือการนำดารา ผู้แสดงในคอนเทนต์ที่นำไปขาย ร่วมออกตลาดพบปะกับผู้ซื้อ หรือแฟนคลับด้วย โดยปีที่ผ่านมา Superstar Marketing ได้สร้างความสำเร็จในประเทศไทย JKN มีการนำดาราอินเดียระดับแถวหน้ามาพบปะกับผู้ชม และร่วมกิจกรรมกับสถานีโทรทัศน์ที่ซื้อคอนเทนต์นั้น สร้างความประทับใจ ทำให้คอนเทนต์ละครอินเดียได้รับความนิยมมากขึ้น
ขณะที่คอนเทนต์ละครจากช่อง 3 ดาราผู้แสดง อย่าง, เคน ภูภูมิ พงศ์ภาณุ และ แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์ ก็ไปร่วมขบวนโรดโชว์ทั้งการออกบูธ ในเทศกาลคอนเทนต์ และการพบปะกับแฟนคลับในต่างประเทศ โดยพิสมัย กล่าวว่า ปัจจุบัน ณเดชน์ คูกิมิยะ,ญาญ่า-อุรัสยา หรือมาริโอ้ เมาเร่อ ถือเป็นดาราขวัญใจของคนฟิลิปปินส์ไปแล้ว
แต่ไม่เพียงการนำคอนเทนต์ช่อง 3 ออกไปจำหน่ายในต่างประเทศ เพื่อเผยแพร่ความเป็นไทย JKN และคุณแอน กำลังเดินหน้าโปรเจคยักษ์ “สยามรามเกียรติ์” โดยมีเป้าหมายที่จะเผยแพร่ออกสู่สายตาชาวโลกเช่นกัน สยามรามเกียรติ์ เป็นบทประพันธ์ของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ใช้งบประมาณในการสร้างระดับหลายร้อยล้านบาท โดยเป็นการร่วมสร้างระหว่างไทยและอินเดีย คาดว่าจะสร้างเสร็จพร้อมฉายในปี 2020
คุณแอนตั้งเป้าหมายว่า สยามรามเกียรติ์ จะเป็นผลงานระดับมาสเตอร์พีช ที่มองข้ามเรื่องรายได้ที่จะเข้าสู่ JKNแต่เหนือกว่านั้นคือ การชื่อเสียงของประเทศไทยที่จะเป็นที่รู้จักด้านงานศิลปะ และรายได้จากการท่องเที่ยวที่จะตามมา ประเมินมูลค่าไม่ได้ ตามที่ พิสมัย กล่าวไว้
นอกจากการผลิตคอนเทนต์ระดับโลก “สยามรามเกียรติ์” อีกหนึ่งการสร้างคอนเทนต์มาตรฐานระดับโลก คือการเปิดช่องข่าวเศรษฐกิจ JKN CNBC ที่ได้รับลิขสิทธิ์จาก NBC ประเทศสหรัฐอเมริกา
งานนี้ คุณแอน ลงทุนเปิดสตูดิโอใหม่ ที่ศาลายา เพื่อผลิตช่องข่าว JKN CNBC พร้อมดึง สโรชา พรอุดมศักดิ์ มือเก๋าในวงการข่าวต่างประเทศที่ผ่านงานจากสื่อยักษ์ใหญ่ของเมืองไทยมาหลายแห่ง มาดูแลการผลิตรายการตามมาตรฐาน CNBC ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นช่องข่าวเศรษฐกิจระดับโลก ที่จะแสดงให้โลกเห็นถึงศักยภาพการผลิตรายการของคนไทยว่าเข้าขั้นระดับโลกเช่นกัน
“วันนี้ JKN ไม่ใช่องค์กรที่ทำธุรกิจเพียงแค่ซื้อมา ขายไป แต่เราคือองค์กรที่มีวิชั่นในการช่วยพัฒนาประเทศ นำรายได้เข้าสู่ประเทศไทย ควบคู่ไปกับการทำธุรกิจ นี่คือวิสัยทัศน์ของคุณแอน” พิสมัย กล่าว