“ชานนท์ กล้าหาญ” แม่ทัพ LALAMOVE เสิร์ฟบริการ เจาะตรง ตอบโจทย์ความต้องการผู้ใช้

4444

จากแกนความคิด และวิธีปฏิบัติ แบบ Sharing Economy ของผู้ก่อตั้ง “ลาล่ามูฟ” ในฮ่องกง ธุรกิจที่บริการในลักษณะ On Demand Delivery บริการจัดส่งของตามความต้องการของผู้ใช้ เป็นทางเลือกที่ตรงใจถูกจริตของสตาร์ทอัพไทย “โน๊ต – ชานนท์ กล้าหาญ” เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ทำให้เกิด ลาล่ามูฟ ประเทศไทย ในวันนี้

ชานนท์” ในฐานะกรรมการผู้จัดการ ลาล่ามูฟ ประเทศไทย ที่กลายเป็นหนึ่งผู้ถือหุ้นลาล่ามูฟไปโดยปริยาย และเขาก็สามารถพิสูจน์ไอเดียเจ๋งๆ พร้อมผลักดันบริการ On Demand Deliver นี้ เติบโตได้กว่า 600% ในช่วงเวลาเพียงปีเดียว

On Demand Deliver ของ ลาล่ามูฟ เติบโตได้อย่างมหาศาล ทั้งๆ ที่มีผู้ให้บริการโลจิสติกส์ หรือขนส่งพัสดุรายใหญ่ๆ ในตลาดเมืองไทยอยู่แล้ว เป็นเพราะบริการที่แตกต่าง จากโจทย์ที่ตั้งว่า เป็น On Demand Delivery การให้บริการจึงเป็นไปตามความต้องการของลูกค้า เมื่อต้องการเมื่อไรก็เข้าแอปพลิเคชันเรียกใช้ได้ทันที และของจะส่งถึงมือผู้รับภายในไม่เกิน 1 ชม.

บวกเข้ากับมาตรฐานการให้บริการที่เน้นความรวดเร็ว สะดวก และมารยาทในการให้บริการ ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญมากๆ เพียงแค่นี้ ผู้ประกอบการหรือลูกค้าทั้งหลาย ก็ไม่ต้องเสีย Fixed Cost หรือ ต้นทุนคงที่ แถมยังมีผู้ระบบจากลาล่ามูฟ ช่วยคุมคุณภาพงานให้

นักบริหารหนุ่มคนนี้ บอกว่า โจทย์ในการพัฒนาธุรกิจของเขาคือ การสร้างลาล่ามูฟให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น เมื่อคนนึกถึงการส่งด่วน ส่งเร็ว ต้องนึกถึงลาล่ามูฟ…และการที่จะเดินไปถึงจุดนั้นได้ เขาจึงพยายามพัฒนาบริการอย่างเต็มที่

ชานนท์” ได้นำประสบการณ์จากก่อนหน้านี้ ที่เคยเป็นสตาร์ทอัพพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับการขนส่งมาก่อน มาปรับใช้กับการพัฒนาลาล่ามูฟ เขามองเห็นภาพของรูปแบบบริการที่คาดว่าเป็นที่ต้องการของตลาดได้ดี รู้ว่า Pain Point ของบริการขนส่งพัสดุคืออะไร และพยายามแก้ไขให้ตรงจุด

โดยประโยขน์ของบริการ On Demand Deliver ไม่เพียงแต่ผู้ประกอบการ หรือเอสเอ็มอี ทั่วไปเท่านั้น แต่คนลืมของ คนขี้เกียจออกมาเจอรถติดเพียงเพราะต้องการจับจ่ายของจำเป็นในซูเปอร์มาร์เก็ต ก็สามารถเรียกใช้บริการลาล่ามูฟได้

การแก้จุด Pain Point ต่างๆ มีทั้งการเตรียมความพร้อมเรื่องรถบริการ ที่มีทั้งรถมอเตอร์ไซค์ รถยนต์ 5 ประตู และรถกระบะ และจำนวนพนักงานขับรถอีกกว่า 80,000 คน ซึ่งถือเป็นการสร้างงานสร้างรายได้ให้กับคนในระดับรากหญ้า และบุคคลทั่วไป ที่อยากมีรายได้เสริม หรือจะพัฒนาเป็นรายได้หลัก

และในปีนี้ “ชานนท์” ยังเติมบริการเพื่อสร้างมาตรฐานการขนส่งพัสดุ ด้วยการนำเทคโนโลยีเชื่อมต่อ API เข้ามาป็นตัวช่วยในการให้บริการสำหรับร้านค้า และคู่ค้าในการทำธุรกิจที่สร้างผลกำไรมากยิ่งขึ้น โดยสามารถสร้างแพลตฟอร์มการสั่งและส่งสินค้าให้แก่ร้านค้าออนไลน์ได้เอง และยังมีแผนขยายพื้นที่ให้บริการไปยังจังหวัดอื่นๆ ซึ่งจะเน้นที่หัวเมืองใหญ่ก่อน

รวมไปถึงการเพิ่มรถขนาดใหญ่ (Large Vehicle) สำหรับขนส่งสินค้า รวมไปถึงการบริการส่งสินค้าแบบ LTL และบริการส่งสินค้าภายในวันเดียวกัน (Same Day Delivery)

การขยายงาน เราดูเรื่องการให้บริการ ในฟีเจอร์ที่เข้าถึงกลุ่มธุรกิจใหม่ๆ ปัจจุบัน นอกจากบริการรถ เราก็มีบริการเสริม เรามีโอกาสที่จะขยายได้อีก เช่น ในพาร์ทของรถใหญ่ เพราะมีการเรียกร้องจากลูกค้าว่า อยากได้บริการลักษณะไหน เราก็ต้องเพิ่มจากระบบเพื่อให้ซัพพอร์ต หรือเพิ่มรถใหม่ๆ เข้าไป กลุ่มผู้ใช้บริการ และการขยายจังหวัดในการให้บริการ คือโจทย์ในการขยายงาน”

ชานนท์” ทิ้งท้ายว่า การพัฒนาธุรกิจของเขา เน้นที่ความยั่งยืนตั้งแต่วันแรกที่เริ่มทำ สิ่งที่ต้องทำคือ เน้นคุณภาพ และดูแลพนักงาน ที่นอกจากจะมีการอบรม เทรนด์พนักงานก่อนเริ่มงานแล้ว ยังมีการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม และมอบสวัสดิการที่ดีให้กับพนักงาน โดยเปิดโอกาสการเข้าถึงความคุ้มครองครอบคลุมทั้งสุขภาพ ชีวิต รถยนต์และรถจักรยานยนต์ รวมถึงอุบัติเหตุ ให้แก่พนักงานขับรถกว่า 80,000 คนในปีที่ผ่านมา

ด้วยแนวคิดและการบริหารที่มีรูปแบบชัดเจน ทำให้ ลาล่ามูฟ ยังขยายตัวได้สูงถึง 123% มีมูลค่าการขนส่งกว่า 1,200 ล้านบาท โดยผู้บริหารคนนี้มั่นใจว่า ปีนี้ และปีต่อไป “ลาล่ามูฟ” จะยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกแน่นอน