หมดยุคสร้างแบรนด์ !! งานดีต้องขายได้ “เดนท์สุ โก” เอเยนซี่พันธุ์ใหม่ ลุยจากราก ถึง Last Mile

1582

เสน่ห์ของงานโฆษณา หรือการจัดอีเวนท์ในวันนี้ ครีเอทีฟอาจไม่ได้โชว์ฝีมือเหมือนในอดีต  หนังโฆษณาความยาว 2 นาที ของไอ้ฤทธิ์กินแบล็ก หรือแคทวอล์คยาว 1 กิโลเมตร ของสบู่ลักส์  หน้าศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ ในปี 2541 คงไม่มีให้เห็นในปัจจุบัน  แต่งานของครีเอทีฟก็ไม่ได้ลดความยากลงเลย กลับดูเหมือนจะยากขึ้น เพราะโจทย์ของลูกค้าในวันนี้ คือการขาย ต้องขายให้ได้ และขายดี

เดนท์สุ โก แบงค็อก (Dentsu Go Bangkok) คือเอเยนซี่แนวคิดใหม่ ภายใต้กลุ่มบริษัท เดนท์สุ อีจิส เน็ตเวิร์ค (ประเทศไทย) (Dentsu Aegis Network) หรือ (DAN) ที่ปรับแนวการทำงานของบริษัทโฆษณาทั่วไปที่มีการแยกแผนกการทำงาน AE ออกไปพบลูกค้า กลับมาบรีฟครีเอทีฟ ก่อนทีมครีเอทีฟมานั่งประชุมกับทีม และก็อปปี้ไรเตอร์ คิดงานออกมากลับไปนำเสนอลูกค้า  มาเป็นการรวมทีมทั้งหมดออกไปพบลูกค้า ล้วงลึกถึงวิธีคิดของลูกค้า ร่วมกันหาแนวทางการทำการตลาดที่ดีที่สุด และเสนอกลยุทธ์การสื่อสารการตลาดที่ตอบโจทย์ และรวดเร็วที่สุด

ริวทาโร่ เซกิ Chief of Business Solution – เดนท์สุ โก แบงค็อก ในกลุ่มบริษัท เดนท์สุ อีจิส เน็ตเวิร์ค (ประเทศไทย) (Dentsu Aegis Network) หรือ (DAN) เผยว่า จากการที่โลกพลิกโฉมจากยุคอนาล็อกเข้าสู่ยุคดิจิทัลเต็มตัว ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในบริบทต่างๆ มากมาย ทั้งภาคธุรกิจ การทำตลาด ตลอดจนพฤติกรรมผู้บริโภค สถานการณ์ดังกล่าวทำให้บริษัทหยุดนิ่งไม่ได้ ต้องมีการปรับตัวรองรับการเปลี่ยนแปลง และมีบริการใหม่ ๆ ในด้านการทำตลาดเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากขึ้น

เดนท์สุ โก แบงค็อก ให้บริการด้านการทำตลาดที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ารูปแบบใหม่ที่ต้องการความรวดเร็วมากขึ้น โดยมีการวางกลยุทธ์การสื่อสารและทำตลาดแบบครบวงจรแบบ 360 องศา (Integrated Marketing Communication 360 degree) ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค ณ จุดขาย หรือ The Last Mile ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อในขั้นสุดท้ายได้ทันท่วงทียิ่งขึ้น

จุดแข็งของเดนท์สุ โก แบงค็อก คือมีบริการครบวงจรทุกอย่างให้แก่ลูกค้า ตั้งแต่การวิจัยตลาด พฤติกรรมผู้บริโภค คิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ ต่อยอดพัฒนาแบรนด์ ไปถึงการสร้างแบรนด์และสื่อสารการตลาด เพื่อแจ้งเกิดสินค้า ทำให้ลูกค้าได้รับบริการที่จบครบครันได้อย่างดี

“เราให้ความสำคัญในการทำงาน ระดมสมองกับลูกค้าภายใต้การเป็นพันธมิตรหรือ Partner กัน ทำงานตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ เพื่อร่วมหารือเกี่ยวกับโจทย์ของธุรกิจ มองหาโอกาสและความท้าทายร่วมกัน ซึ่งทั้งหมดจะมีการหารือกันแบบ One Table Solution เพื่อให้เกิดนวัตกรรมหรือทางเลือกใหม่ ๆ ในการช่วยแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้ตรงจุด”

โดย วิจักษณ์พงศ์ เจริญขวัญ General Manager, Business – เดนท์สุ โก แบงค็อก กล่าวว่า เดนท์สุ โก แบงค็อก เปลี่ยนแนวคิดจากอดีตที่ลูกค้าโยนงบประมาณมาเพื่อทำหนังโฆษณาเป็นหลัก  มาเป็นการยกทีมลงไปทำงานร่วมกับลูกค้า ย้อนกลับไปที่การวาง Brand Positioning หรือ Product Positioning  ให้ถูกต้องก่อน จึงวางกลยุทธ์การสื่อสารด้วย Multi-Platform ที่ไม่ได้มุ่งออนไลน์ หรือออฟไลน์อย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ต้องบูรณาการช่องทางทั้งหมด โดยจะเป็น โซลูชั่น ไดเร็คเตอร์ (Solution Director) ให้กับลูกค้า เพื่อแก้ปัญหาและรองรับความต้องการของลูกค้า

“เรามีทีมงานที่เป็นคนรุ่นใหม่ประมาณ 20 คน ที่มีความสามารถในการขบคิดกลยุทธ์ทางการตลาดแบบ 360 องศา หรือ Integrated Marketing Communication ที่รวมทั้งหมด ซึ่งได้แก่ Above the line หรือ การโฆษณาทางโทรทัศน์ ป้ายบิลบอร์ด และการทำตลาดเจาะกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ Below the line ผ่านอีเว้นท์ โปรโมชั่นแคมเปญ ประชาสัมพันธ์ อินฟลูเอ็นเซอร์ มาร์เก็ตติ้ง รวมถึงกิจกรรมการตลาดต่าง ๆ ณ จุดขาย และเราพร้อมทำงานร่วมกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด และรวดเร็ว ท้าทายความคิดของลูกค้า เพื่อหาโซลูชั่นที่ดีที่สุด ช่วยเหลือลูกค้าให้สามารถทำตลาดชนะใจผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายได้”

                 ด้าน นภเกตน์ ถวัลย์อรรณพ General Manager, Creative – เดนท์สุ โก แบงค็อก เผยว่า เดนท์สุ โก แบงค็อก ต้องการสร้างความแตกต่างจากเอเยนซี่อื่น ๆ ในการให้บริการกลยุทธ์ การสื่อสารและทำตลาดให้แก่ลูกค้า เพราะปัจจุบันโลกในยุคดิจิทัลมีเปลี่ยนแปลงไปมาก การเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้น แบรนด์และสินค้าจึงจำเป็นต้องเคลื่อนตัวเร็วกว่าคนอื่นด้วย

“ในยุคการสื่อสารบนโลกดิจิทัล เอเยนซี่ต้องมีการตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างรวดเร็วทันท่วงที (Real-time) และการที่เดนท์สุ โก แบงค็อก เป็นทีมงานที่มีขนาดกระชับ ทำให้สามารถทำงานได้ยืดหยุ่น รวดเร็ว ทำงานแบบโฟกัส จึงเป็นเรื่องง่ายในการทำงานตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและผู้บริโภคในยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกัน การที่เรามีทีมงานครีเอทีฟและผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีรวมอยู่ในทีมเดียวกันยิ่งเพิ่มศักยภาพในการเจาะอินไซด์ผู้บริโภค คิดโซลูชั่นร่วมกันแบบ One Table Solution งานที่ออกมาจึงจะเป็นบูรณาการแบบองค์รวมตอบโจทย์ลูกค้าและตรงใจผู้บริโภคยุคนี้ยิ่งขึ้น”

ปัจจุบัน เดนท์สุ โก แบงค็อก ดูแลกลุ่มลูกค้ากลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ได้แก่ บริษัท เอฟแอนด์เอ็น แดรี่ส์ (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าของแบรนด์ ทีพอท, แมกโนเลีย, แมกโนเลียพลัสกิงโกะ, นมข้นคาร์เนชัน, นมสเตอริไลส์ ตราหมี, นมตราหมีโกลด์ บริษัท ยาคอบส์ ดาวเออร์ เอ็กเบิร์กส์ ทีเอช จำกัด  ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกาแฟ มอคโคน่า และ บริษัท ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด  ดูแลในกลุ่มของ ซิซซ์เล่อร์ และ สเวนเซ่นส์

นอกจากลูกค้าในประเทศไทย ในปีหน้า เดนท์สุ โก แบงค็อก  ยังมีแผนขยายบริการแก่ลูกค้าในตลาดอินโดจีน (Indo-China) ซึ่งได้แก่ กัมพูชา ลาว และเวียดนาม เนื่องจากพบว่าลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทมีความต้องการเพิ่มกำลังการผลิตสินค้า ขยายตลาดและปักหมุดสร้างแบรนด์ในตลาดระดับภูมิภาค (Regional) มากขึ้น  โดยจะเน้นการทำงานด้วยการประยุกต์กลยุทธ์ให้สอดคล้องกับความต้องการเชิงลึกหรือ Insight ของผู้บริโภค กลุ่มเป้าหมายในท้องถิ่นของแต่ละประเทศ เพื่อให้สามารถครองใจตลาดได้

ริวทาโร วางเป้าหมายว่า  การเปิดตัวเดนท์สุ โก แบงค็อก ในปีแรก จะทำรายได้ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท  และจะเติบโตอีกเท่าตัวเป็น 400 ล้านบาท ในปี 2562