การซื้อบ้านใหม่ คอนโดมิเนียมใหม่ ทุกคนล้วนมองเห็นความสุขของหมู่บ้านที่ร่มรื่น คอนโดที่มีแต่ความสะดวกสบาย ตามที่เจ้าของโครงการโฆษณาไว้ แต่ภาพแห่งความสุข ความสะดวกสบายอาจอยู่ได้ไม่นาน เมื่อโครงการนั้นๆ ถูกจำหน่ายไปจนหมด และหน้าที่ของการดูแลโครงการ หรืออาคาร เปลี่ยนมือจากเจ้าของโครงการ ตกไปเป็นหน้าที่ของ “นิติบุคคล” ที่ถูกจัดตั้งขึ้นมา
นิติบุคคล แม้จะเป็นหน่วยงานมืออาชีพที่ถูกจ้างมาเพื่อดูแล ให้บริการหลังการขายโครงการ หรือบางบริษัทผู้ประกอบการ มีการจัดตั้งบริษัทนิติบุคคลขึ้นมาบริหารโครงการของตน แต่เมื่อเป็นหน่วยงานเล็กๆ มีเจ้าหน้าที่เพียง 2-3 คน ต้องรองรับความต้องการของลูกบ้านหลักร้อย หลักพันยูนิต ตั้งแต่การจัดการดูแลภาพรวมโครงการ ความปลอดภัย ความสะอาด ระบบทะเบียนลูกบ้าน การจัดเก็บค่าส่วนกลาง การประชุมประจำปี การจัดกิจกรรมตามเทศกาล มาจนถึงความต้องการของแต่ละบ้าน ตัดหญ้า ซ่อมบ้าน ขยะตกค้าง ปัญหาความขัดแย้งระหว่างบ้าน
ถือเป็นภาระอันหนักอึ้งของผู้จัดการนิติบุคคลทุกโครงการ
แต่ตอนนี้ภาระชวนเพลียของนิติบุคคลกำลังจะถูกยกออกไป ด้วยแอปพลิเคชั่น “BUTLER” แอปพลิเคชันและซอฟต์แวร์ด้าน Community Management ที่เข้ามาแก้ความยุ่งยากของนิติบุคคล
วรกร วีราพัชร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิจิตอล บัตเลอร์ จำกัด หรือ BUTLER เผยว่า บริษัทได้พัฒนาแอปพลิเคชันและซอฟต์แวร์ขึ้นภายใต้ชื่อ “BUTLER” เพื่อเป็นแพลทฟอร์มด้านการจัดการชุมชนและสังคม (Community Management Platform) ช่วยแก้ไขปัญหาและอำนวยความสะดวกให้แก่ทั้งนิติบุคคลโครงการที่อยู่อาศัยและผู้อยู่อาศัย
“เราพบว่านิติบุคคลโครงการที่อยู่อาศัยจำนวนมาก ต่างมี Pain Point ในการบริหารจัดการดูแลผู้อยู่อาศัย เพราะมีจำนวนปริมาณงานที่มากและหลากหลาย มีรายละเอียดที่ต้องคอยติดตาม ขณะเดียวกัน ฝั่งผู้อยู่อาศัยในโครงการเองก็มี Pain Point จากการได้รับการบริการล่าช้า ขาดการบริการที่ครบวงจร ขาดโอกาสในการปฏิสัมพันธ์กับชุมชนและนิติบุคคลโครงการของตัวเอง BUTLER จึงได้พัฒนา Community Management Platform ที่จะช่วยแก้ปัญหาและอำนวยความสะดวกให้กับคนทั้ง 2 กลุ่ม สร้างประสบการณ์การบริหารงานและการใช้ชีวิตง่าย ในแอปเดียว”
วรกรกล่าวว่า ดิจิตอล บัตเลอร์ ได้มองการแก้ปัญหาความยุ่งยากของนิติบุคคล ออกเป็น 3 ส่วนสำคัญ ประกอบด้วย
- การสื่อสารระหว่างลูกบ้านกับนิติบุคคล เช่น ระบบแจ้งซ่อม และติดตามงาน ระบบรับแจ้งปัญหา หรือข้อร้องเรียน ระบบแชท การจัดกลุ่ม นัดประชุมลูกบ้าน
- การบริหารจัดการ การจัดเก็บข้อมูลลูกบ้านอย่างเป็นระบบ การดูแลช่าง คนสวน หรือแม่บ้านที่เข้ามาทำงาน
- การเงิน สรุปข้อมูลทางการเงิน ระบบการเบิกจ่าย การวางบิล การออกใบแจ้งหนี้ ระบบแจ้งค่าส่วนกลาง ค่าน้ำ ค่าไฟ
ความยุ่งยากเหล่านี้ ถูกนำมาสู่การพัฒนาแพลทฟอร์ม BUTLER เพื่อตอบโจทย์ปัญหาเหล่านี้ โดยจะแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่
ระยะที่ 1 การบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ (Property Management) สำหรับนิติบุคคลโครงการที่อยู่อาศัย ภายใต้ชื่อ “BUTLER PROPERTY MANAGEMENT PLATFORM” เป็นซอฟต์แวร์เชื่อมโยงนิติบุคคลกับผู้อยู่อาศัยในโครงการ พนักงาน ตลอดจนบริการของพันธมิตร มีฟังก์ชันตั้งแต่การดูและจัดการตารางกิจกรรมภายในของนิติบุคคล การใช้พื้นที่ส่วนกลาง ภาพรวมแผนงบประมาณ แจ้งค่าน้ำค่าไฟ รับแจ้งซ่อม รับแจ้งปัญหา บริหารจัดการ แชทคุยกับผู้อยู่อาศัย บริหารจัดการพนักงาน ตลอดจนดูตารางงานของพันธมิตรที่เข้ามาทำงานในพื้นที่โครงการ เริ่มเปิดให้บริการอย่างไม่เป็นทางการ (Soft Launch) แล้ว ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
ระยะที่ 2 บริการการจัดการชุมชนและสังคมสำหรับผู้อยู่อาศัย ผ่านช่องทางแอปพลิเคชัน ผู้ใช้สามารถเชื่อมโยงกับนิติบุคคลและชุมชนโดยรอบได้ง่ายผ่านบริการหลากหลายฟังก์ชัน ทั้งบริการแม่บ้าน บริการซักอบรีด บริการดูแลรักษาบ้าน บริการดูแลรักษารถ บริการเช่ารถ ช้อปปิ้ง สั่งอาหารและเครื่องดื่มทั้งในชุมชนตัวเองและร้านอาหารชื่อดังในพื้นที่อื่น คาดว่าจะเปิดตัวบริการเหล่านี้ได้ทั้งหมดภายในเดือนตุลาคมนี้
ระยะที่ 3 การสร้างระบบนิเวศชุมชนและบริการจัดการชุมชนเต็มรูปแบบ บริษัทจะจับมือทั้งพันธมิตรสตาร์ทอัพ พันธมิตรร้านค้าในชุมชนต่างๆ รวมถึงพันธมิตรสถาบันการเงินอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถเชื่อมโยงกับสินค้าและบริการต่างๆ ในชุมชนได้ง่ายๆ และสะดวกสบาย ตลอดจนสามารถชำระค่าบริการต่างๆ ได้ภายในแอปเดียว นอกจากนี้ จะสร้าง Community Media ที่บุคคลภายในโครงการสามารถติดต่อสื่อสาร รวมถึงซื้อขายแลกเปลี่ยนกันได้
“เมื่อพัฒนาครบทั้ง 3 ระยะ BUTLER จะสามารถสร้าง 3 C ให้แก่ผู้ใช้งาน ได้แก่ Connect เชื่อมโยงภาคธุรกิจกับชุมชนเข้าด้วยกัน Convenience สร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้ทั้งฝั่งโครงการและฝั่งผู้อยู่อาศัย โดยต้องการให้แอปพลิเคชั่น BUTLER ใช้งานง่ายเหมือนใช้งานเฟสบุ๊ก และ Create สร้างระบบนิเวศน์ให้เกิดขึ้น เป็นชุมชน และสังคมใหม่ๆ เพื่อสร้างโอกาสให้เกิดขึ้น จากการนำบริการ หรือสินค้าเข้ามาให้บริการกับลูกบ้าน โดยเราไม่ได้ทำงานคนเดียว และไม่ได้พัฒนาแพลทฟอร์มนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นคู่แข่งใคร แต่เราจะจับมือพันธมิตรต่างๆ เช่น ด้านโลจิสติกส์ ด้านการบริการช่างซ่อมบำรุง ด้านค้าปลีก และทำงานร่วมกัน เพื่อประโยชน์ของผู้ใช้งาน”
ปัจจุบัน ดิจิตอล บัตเลอร์ มีการจับมือพันธมิตรในการให้บริการหลายราย อาทิ Seekster แอปพลิเคชั่นดูแลบ้านและคอนโดฯ , Fixzy บริการซ่อมแซม ดูแลบ้าน , Helpdee ศูนย์รวมช่างมืออาชีพ และเจ้าของแบรนด์สินค้าและบริการ อาทิ Betagro, JP Insurance น้ำดื่มสปริงเคิล ฯลฯ และยังคงเปิดรับโอกาสในการร่วมมือกับพันธมิตรใหม่ๆ ในหลากหลายธุรกิจและบริการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรายได้ของ BUTLER วรกรมองที่การรับค่าคอมมิชชั่นจากสินค้าหรือบริการเหล่านี้ โดยอยู่ระหว่าง 1-5% นอกจากนั้นจะมาจากการโฆษณาหรือการจัดกิจกรรมบนแอปพลิเคชั่น BUTLER
วรกร กล่าวว่า เป้าหมายของ BUTLER คือการเป็นผู้นำด้าน Urban Tech อันดับ 1 ของเอเชีย โดยจุดเริ่มต้นจะเริ่มจากโครงการคอนโดมิเนียม ที่ปัจจุบันมีนิติบุคคลใช้บริการแล้ว 100 โครงการ อาทิ บ้านกลางเมือง, Notting Hill ลัดดารมย์ สราญสิริ นุสาสิริ Plum Condo เป็นต้น และวางเป้าหมายในปีนี้จะมีนิติบุคคลมาใช้บริการถึง 500 โครงการ และมียอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชันไม่น้อยกว่า 1 แสนดาวน์โหลด จากปัจจุบัน 5 หมื่นดาวน์โหลด โดยผู้ที่ไม่ได้อยู่ในโครงการที่นิติบุคคลที่ใช้บริการ BUTLER ก็สามารถดาวน์โหลดแอปมาเพื่อใช้บริการต่างๆ ของ BUTLER ได้ ซึ่งต่อไป BUTLER จะขยายไปสู่ โรงแรม อพาร์ทเมนท์ หรือแม้แต่ชุมชนที่สามารถรวมตัวกันได้ ก็สามารถมาสร้างคอมมูนิตี้เพื่อรับบริการจาก BUTLER ได้ โดยไม่เสียค่าแรกเข้า หรือค่าบริการรายปี
และภายใน 2 ปี BUTLER จะมีการขยายพื้นที่การให้บริการไปสู่ระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านการร่วมมือกับผู้ประกอบการในประเทศเหล่านั้น เช่น Property Management, Property Developer, Service Provider ภายหลังจากปี 2563 บริษัทจะขยายบริการไปสู่ระดับเอเชีย พร้อมทั้งมุ่งมั่นพัฒนาบริการของ BUTLER ให้กลายเป็นเทคโนโลยีด้านการอยู่อาศัยและใช้ชีวิตในเมือง (Urban Tech) อันดับ 1 ของเอเชีย
ผู้สนใจบริการของ BUTLER สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้