ฮันนี่เวลล์ พร้อมนำเทคโนโลยีดิจิทัล ขับเคลื่อนการคมนาคมของไทย

1411

ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของไทย ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) ที่รัฐบาลไทยโดยกระทรวงคมนาคมได้ดำเนินการเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมของประเทศ ด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมมาเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนให้บรรลุเป้าหมายนั้น

ธีระพงษ์ รอดประเสริฐ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมมีความมุ่งมั่นพัฒนาระบบการคมนาคมขนส่งที่ยั่งยืน โดยได้ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมในการวางพื้นฐานไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ ในการพัฒนาระบบคมนาคมดิจิทัลที่เชื่อมต่อกันทั่วไทยอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับการปรับตัวสู่นโยบายไทยแลนด์ 4.0 ที่เน้นการขับเคลื่อนไปสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ที่ทันสมัย แผนยุทธศาสตร์ของกระทรวง จะใช้ศักยภาพของเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นพลังขับเคลื่อน สร้างและปรับโฉมระบบและเครือข่ายการขนส่งเพื่อประโยชน์ของประชาชนชาวไทย มุ่งสู่ระบบการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางแห่งการเชื่อมต่อในอนาคต

ไบรอันด์ เกรียร์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ฮันนี่เวลล์ ประจำภูมิภาคอาเซียน กล่าวว่า ฮันนี่เวลล์ คือบริษัทซอฟต์แวร์อุตสาหกรรมระดับโลกที่มีโซลูชั่นส์หลากหลายประเภทที่มั่นใจว่าสามารถตอบโจทย์แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของไทยนี้ได้ ที่ผ่านมาบริษัทฯ มีประสบการณ์ในการทำงานให้กับองค์กรใหญ่ในเมืองไทย อาทิ ปตท., การบินไทย และไทยออยล์

“ผมขอชื่นชมรัฐบาลไทยที่ได้พยายามอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมของประเทศ และให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีที่เชื่อมต่อกันอย่างยิ่งยวด สำหรับฮันนี่เวลล์ เรามีความมุ่งมั่นที่จะเป็นพันธมิตรด้านเทคโนโลยีในระยะยาวกับประเทศไทย โดยจัดหาโซลูชั่นส์ต่าง ๆ ที่จะช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของประเทศ รวมถึงอุตสาหกรรม 4.0 ด้วย”

ฮันนี่เวลล์ มีธุรกิจหลัก ที่ให้บริการ 4 ส่วนสำคัญ ประกอบด้วย

การบินและอวกาศ(Aerospace) โดยมีการพัฒนาโซลูชั่นส์ที่ช่วยประหยัดน้ำมันในยานยนต์ และเครื่องบิน โซลูชั่นส์ที่ช่วยการเที่ยบินสามารถบินตรงเวลามากขึ้น ช่วยการจราจรบนรันเวย์ให้มีความปลอดภัย ควบคู่ไปกับการพัฒนาเครื่องยนต์ของเครื่องบิน  ระบบอิเล็ครอนิกส์ภายในห้องนักบิน  ระบบเชื่อมต่อไร้สาย นำไปสู่ระบบการขับเครื่องบินอัตโนมัติ ที่เครื่องบินสามารถขับสู่จุดหมายได้เอง และสามารถสื่อสารถึงเครื่องบินลำใกล้เคียงเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุได้  นอกจากนั้นฮันนี่เวลล์ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีเทอร์โบสำหรับรถยนต์ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเชื้อเพลิง ลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

วัตถุดิบและและเทคโนโลยีสำหรับงานอุตสาหกรรม (Performance Materials and Technologies) เป็นหน่วยที่คิดค้นพัฒนาเคมีภัณฑ์ วัสดุ และระบบที่ใช้ซอฟต์แวร์ขั้นสูง เพื่อพัฒนาการปฏิบัติงานในโรงงานอุตสาหกรรมที่มีความซับซ้อนมาก เป็นผู้บุกเบิกระบบควบคุมอัตโนมัติ โดยการใช้ซอฟต์แวร์ เครื่องมือ และการบริการ สำหรับอุตสาหกรรมน้ำมัน และก๊าซ การผลิตไฟฟ้าเพื่ออุตสาหกรรม

เทคโนโลยีด้านที่พักอาศัยและอาคาร (Home and Building Technologies) ซอฟต์แวร์ฮันนี่เวลล์ มีอยู่ในบ้านกว่า 150 ล้านหลังทั่วโลก ช่วยให้เจ้าของบ้านสามารถควบคุมระบบต่างๆ ภายในบ้านผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ เช่น สมาร์ทโฟน  รวมถึงระบบอัตโนมัติสำหรับอาคารมากกว่า 10 ล้านแห่งทั่วโลก  สำหรับในประเทศไทยมี ระบบจัดการอาคาร ระบบรักษาความปลอดภัย และสัญญาณป้องกันอัคคีภัย

โซลูชั่นส์ด้านความปลอดภัยและการเพิ่มผลผลิต(Safety and Productivity Solutions) ซอฟต์แวร์และโซลูชั่นส์ที่เชื่อมต่อกันเพื่อเพิ่มผลผลิต เพิ่มความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน และเพิ่มประสิทธิภาพของสินทรัพย์ให้กับลูกค้าทั่วโลก เทคโนโลยีตรวจจับก๊าซ และอุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล

ไบรอันด์ เกรียร์ กล่าวว่า ในฐานะผู้ให้บริการซอฟต์แวร์อุตสาหกรรมชั้นแนวหน้าที่สามารถรองรับความต้องการด้านโซลูชั่นส์ที่เฉพาะเจาะจงของอุตสาหกรรมต่างๆ ฮันนี่เวลล์จึงพร้อมที่จะให้บริการในประเทศไทย ด้วยโซลูชั่นส์เทคโนโลยีก้าวล้ำ เพื่อช่วยสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางการคมนาคมและโลจิสติกส์ ที่สามารถรองรับการค้า การบริการ และการลงทุนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ฮันนี่เวลล์ ประเทศไทย ทำรายได้เป็น 1 ใน 4 ของรายได้รวมฮันนี่เวลล์ อาเซียน  800 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยวิสัยทัศน์ของฮันนี่เวลล์ในภูมิภาคนี้ คือการเป็นผู้ช่วยในการพัฒนาเมืองใหญ่ของอาเซียนให้เป็นเมืองอัจฉริยะ ภายใต้โครงการ Smart Asian Network

โดยไบรอันด์ มองว่า โอกาสของฮันนี่เวลล์ยังมีอีกมาก เพราะวันนี้โลกมีการนำ IoT มาใช้เพียงระดับ 1  จาก 10 เท่านั้น ยังมีช่องว่างให้ก้าวเดินในการพัฒนาอีกไกล ขณะที่ในประเทศไทย เป้าหมายในการเติบโตปีนี้ มั่นใจว่าจะเติบโตจากปีที่ผ่านมากกว่าการขยายตัวของ GDP ประเทศ ถึง 2 เท่า หรือมากถึง 10%