หน้าร้อนของเมืองไทย อาจจะทำสถิติร้อนมากขึ้นได้ทุกปี แต่ไม่ใช่ปีที่แล้ว !!
เพราะทุกๆ ฤดูร้อนของประเทศไทย จะเป็นช่วงเวลาหรรษาของตลาดเครื่องปรับอากาศที่ทำยอดขายสร้างสถิติเติบโตแซงหน้าเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดมาหลายๆปี แต่ก็ต้องมาพ่ายแพ้กับสถาพอากาศที่แปรปรวน ของปีก่อนที่ฟ้าฝนตกลงมาตั้งแต่ต้นปียาวไปถึงปลายปี ทำเอาตลาดเครื่องปรับอากาศในช่วงฤดูร้อนทำยอดขายลดลงไปถึง 20% จากปีก่อนหน้า
มาถึงปีนี้ แอลจี หนึ่งในผู้เล่นสำคัญของตลาดเครื่องปรับอากาศเมืองไทย คาดการณ์ว่า ฤดูร้อนปีนี้จะไม่ซ้ำรอยปีก่อน และตลาดจะกลับมาเติบโตได้อีกไม่ต่ำกว่า 10% ด้วยการขับเคลื่อนของเทรนด์อินเวอร์เตอร์
นิพนธ์ วงษ์แสงอรุณศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การประหยัดพลังงาน กลายเป็นความต้องการสูงสุดในการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศของคนไทย ซึ่งก็ไม่ต่างไปจากเทรนด์ของโลก ที่ในประเทศพัฒนาแล้วอย่างยุโรป หรืออเมริกา มีอัตราการใช้เครื่องปรับอากาศอินเวอร์เตอร์สูงถึง 99-100% โดยอัตราการใช้เครื่องปรับอากาศอินเวอร์เตอร์ทั่วโลกอยู่ในราว 70% ขณะที่ในประเทศไทยปีที่ผ่านมามีสัดส่วนอินเวอร์เตอร์อยู่เพียง 29%
อย่างไรก็ตาม นิพนธ์ กล่าวว่า สถิติการเติบโตของเครื่องปรับอากาศอินเวอร์เตอร์ทั่วโลก จะขยับช้าในช่วงก่อน 20% แรก แต่เมื่อผ่าน 20% ไปแล้ว การเติบโตจะเป็นไปอย่างก้าวกระโดด ซึ่งในประเทศไทยก็คาดว่าในปีนี้ สัดส่วนอินเวอร์เตอร์จะเพิ่มขึ้นถึง 43% และขึ้นเป็น 90% ในอีก 4 ปีข้างหน้า
ในปีนี้ แอลจี จึงประกาศเปิดตัวเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่ พร้อมระบบดูอัล อินเวอร์เตอร์ ถึง 18 รุ่น 5 ซีรีส์ ตั้งแต่ระดับ Entry ไปจนถึงระดับ Hi-end เข้าสู่ตลาด โดยมีเป้าหมายที่จะครองความเป็นผู้นำในตลาดเครื่องปรับอากาศอินเวอร์เตอร์ให้ได้
เครื่องปรับอากาศแอลจีซีรีส์ใหม่ มาครบทั้งรุ่น IL, IDC, IK, IQ และ IV ในปี 2561 โดดเด่นด้วยระบบ ดูอัล อินเวอร์เตอร์ ที่ประหยัดพลังงานได้มากขึ้นถึง 70% และให้ความเย็นเร็วขึ้นถึง 40% พร้อมเทคโนโลยี SmartThinQTM (ในรุ่น IL, IDC และ IK) ฟีเจอร์เฉพาะของแอลจีที่ช่วยให้ควบคุมการทำงาน นอกเหนือจากแค่การเปิด-ปิด ได้ทุกที่ ทุกเวลา แม้จะอยู่นอกบ้าน และยังสามารถช่วยวิเคราะห์ปัญหาในการใช้งานเบื้องต้น ประหยัดเวลาซ่อมได้เร็วขึ้น ผ่านโปรแกรม Smart Diagnosis และยังเป็นแบรนด์เดียวที่มีระบบป้องกันไฟกระชากสูงสุดถึง 450 โวลต์ และรับประกันแผงคอยล์ร้อน-เย็นนานถึง 3 ปี รวมถึงรับประกันคอมเพรสเซอร์ยาวนานถึง 10 ปี
คอนเดนเซอร์แบบ Gold Fin ที่เคลือบวัสดุชั้นดีที่ช่วยป้องกันการสึกกร่อนและสนิม และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการใช้สารทำความเย็น R32 ในทุกรุ่น ทำงานที่เงียบเป็นพิเศษด้วยเสียงรบกวนที่เบาเพียง 18 เดซิเบล รวมถึงช่วยดูแลสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยฟีเจอร์ Plasmaster Ionizer+ ช่วยกำจัดเชื้อโรคที่อาจปะปนอยู่ในอากาศได้ถึง 99.9 % และยังอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ด้วยการแจ้งเตือนเมื่อสารทำความเย็นในเครื่องปรับอากาศเหลือน้อยอีกด้วย
โดยไฮไลต์ของเครื่องปรับอากาศแอลจีซีรีส์ใหม่ ในรุ่น IL คือ แอลจี ดูอัล คูล พร้อมเครื่องฟอกอากาศ ที่เพิ่มประสิทธิภาพในการมอบอากาศสะอาดที่สูงยิ่งขึ้น สามารถฟอกอากาศจากสารมลพิษที่มองไม่เห็น และยังได้รับการออกแบบให้สามารถฟอกอากาศได้แบบรอบทิศทาง ช่วยสร้างอากาศบริสุทธิ์ เสริมสร้างสุขภาพที่ดีให้กับคนในบ้าน
เครื่องปรับอากาศระบบดูอัล อินเวอร์เตอร์ใหม่จากแอลจี ทั้ง 5 รุ่น IL, IDC, IK IQ และ IV มีจำหน่ายในขนาดตั้งแต่ 9,000 – 24,000 บีทียู ราคาเริ่มต้นที่ 18,490 – 49,900 บาท
สำหรับแผนการตลาดเพื่อสร้างความตื่นตัวของผู้ใช้งานในไทยที่หันมาให้ความสำคัญกับเครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์มากยิ่งขึ้น แอลจีได้ใช้ งบการตลาดกว่า 300 ล้านบาท วางกลยุทธ์ในการรุกธุรกิจเครื่องปรับอากาศภายในบ้านสำหรับปี 2561 นี้ ครอบคลุมกิจกรรมการตลาดทุกช่องทางทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ รวมถึงผ่านแบรนด์ แอมบาสเดอร์ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ เพื่อช่วยสร้างความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับเทคโนโลยีดูอัล อินเวอร์เตอร์ของแอลจี
“ตลาดเครื่องปรับอากาศอินเวอร์เตอร์ในประเทศไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มที่ผู้ใช้งานในไทยเปลี่ยนมาใช้เครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์มากยิ่งขึ้น เพราะรับรู้ถึงความคุ้มค่าในระยะยาว โดยเฉพาะกลุ่ม Entry ระดับราคา 1.5 -2.5 หมื่นบาท ที่มีส่วนแบ่งสูงสุดในกลุ่มอินเวอร์เตอร์ มากกว่า 80% ซึ่งด้วยดูอัล อินเวอร์เตอร์ นวัตกรรมของเครื่องปรับอากาศแอลจีที่เหนือกว่านี้ จะยิ่งช่วยเพิ่มความคุ้มค่า ทั้งประสิทธิภาพที่เต็มเปี่ยม การประหยัดพลังงานที่สูงขึ้น ระยะเวลาการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของแอลจีในการพัฒนานวัตกรรมในเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อผู้ใช้งานอย่างแท้จริง และยังแสดงถึงความเชี่ยวชาญและความเป็นเลิศทางเทคโนโลยี ตอกย้ำฐานะผู้นำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับโลกของแอลจี”
นิพนธ์กล่าวต่อว่า เป้าหมายในการเป็นผู้นำในตลาดเครื่องปรับอากาศอินเวอร์เตอร์ คือการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดจาก 17% ในปีที่ผ่านมา ขึ้นเป็น 25% ในปีนี้ ก็จะทำให้แอลจีเป็นผู้นำในตลาดนี้ได้ ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดเครื่องปรับอากาศโดยรวม จากปีที่ผ่านมา 9% ก็มีเป้าหมายที่ 12% ทำให้แอลจีขยับขึ้นสู่ท้อป 3 ในตลาดได้ ส่วนยอดขายของแอลจีในปีนี้ คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตที่ 30% หรือประมาณ 200,000 ยูนิต คิดเป็นยอดขาย 3,500 ล้านบาท