“อาร์เอส” โชว์วิชั่นปี 61 หันหัวรบสู่เฮลธ์แอนด์บิวตี้ ทรานส์ฟอร์มธุรกิจดันรายได้ปีหน้า 5,300 ล้าน!!

1398

ในสถานการณ์ที่ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลรวมไปถึงธุรกิจสื่อส่วนใหญ่กำลังกระอักกับตัวเลขรายได้รวมในปีนี้ แต่ “อาร์เอส” กลับยิ้มร่าเมื่อ “รายได้เพิ่ม-กำไรพุ่ง” หลังปลดล็อคตัวเองก้าวสู่ธุรกิจเฮลธ์แอนด์บิวตี้ พร้อมประกาศวิสัยทัศน์ปี 2561 จุดเปลี่ยนสู่ “อาร์เอสยุคใหม่” ภายใต้แนวคิด “ทำธุรกิจใหม่ไร้กรอบ” ตั้งเป้ารายได้ปีหน้า 5,300 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ลงสนามธุรกิจเพลงมานานกว่า 36 ปี!!

ย้อนไปก่อนหน้าที่จะมีระบบทีวีดิจิทัลในเมืองไทย มูลค่างบโฆษณาในตลาดกว่า 70,000 ล้านบาท คือเค้กก้อนใหญ่ที่ท้าทายให้ผู้เล่นหน้าใหม่กระโดดเข้ามาท้าชิงส่วนแบ่งจาก 4 ฟรีทีวีเจ้าเก่าอย่างคึกคัก แต่หลังจากจ่ายค่าใบอนุญาตทีวีดิจิทัลงวดแรกและเริ่มออกอากาศจริง นอกจากจะไม่ได้กินเค้กให้หนำใจแล้ว ยังฉุดตัวเลขแต่ละบริษัทให้ตกวูบลงมาอย่างน่าตกใจ หนึ่งในนั้นก็คือ “อาร์เอส” ที่กำไรลดฮวบลงมาเกือบ 70% ในปี 2558 และขาดทุนเป็นครั้งแรกถึง 102 ล้านบาทในปี 2559!!

น่าสนใจตรงที่หลังจบไตรมาสแรกในปี 2560 อาร์เอสสามารถหักล้างตัวเลขขาดทุนกลับมาทำกำไรอย่างต่อเนื่อง แต่ที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือรายได้ที่เพิ่มขึ้นนั้นมาจากธุรกิจสุขภาพและความงาม โดยหลังแถลงผลประกอบการไตรมาส 3 ที่แสดงให้เห็นตัวเลขจากธุรกิจเฮลธ์แอนด์บิวตี้ที่เติบโตเกือบ 800% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน หุ้น RS ก็พุ่งทะยานขึ้นอันดับ 1 ในตาราง Most Swing ในวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมาทันที

“เฮียฮ้อ” ชี้ปี 61 จุดเปลี่ยน “อาร์เอส”!!

ชูแนวคิด “ทำธุรกิจใหม่ไร้กรอบ”

ด้วยการทำงานในสไตล์ Learning by Doing ที่พร้อมปรับตัวและทำสิ่งที่ท้าทายเพื่อมุ่งสู่ความสำเร็จด้วยเงื่อนไขการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ กลายเป็นจุดเริ่มในการทรานส์ฟอร์มธุรกิจของอาร์เอสเพื่อรับสมรภูมิการแข่งขันที่เปลี่ยนไปในยุคดิจิทัล ผลประกอบการในปี 2560 ที่คาดว่าจะทะลุ 3,550 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจสุขภาพและความงามถึง 40% ยืนยันความสำเร็จในการทรานส์ฟอร์มธุรกิจ จนเป็นจุดเปลี่ยนที่น่าจับตามองเมื่อ “เฮียฮ้อ” สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ประกาศวิสัยทัศน์ปี 2561 พร้อมเดินหน้าสู่ยุคใหม่ทางธุรกิจ ภายใต้แนวคิดBeyond the Limit ทำธุรกิจใหม่ไร้กรอบ”

นั่นหมายถึงอาร์เอสได้ปลดล็อคตัวเองและพร้อมจะรุกไปยังธุรกิจใหม่ๆ ที่น่าสนใจ โดยนำธุรกิจเรือธงในเครือที่ติดเครื่องรออยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น ไลฟ์สตาร์, ช่อง 8, คลื่นคูลฟาเรนไฮต์, เพลง และแซทเทิลไลท์ทีวี มาผนึกกำลังกันภายใต้แผนธุรกิจใหม่ที่ไม่เหมือนใคร เพื่อส่งเสริมผลักดันให้ทุกธุรกิจในเครือมีศักยภาพยิ่งขึ้นและเติบโตไปด้วยกัน

เผยยุทธศาสตร์ดันเป้า 5,300 ล้าน

นับเป็นการส่งสัญญาณสู่ยุคใหม่ที่ร้อนแรงตั้งแต่ก้าวแรก เมื่ออาร์เอสประกาศดันรายได้รวมปี 2561 ที่ 5,300 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่พุ่งทะยานสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยแบ่งสัดส่วนมาจากธุรกิจสุขภาพและความงาม 47% ตามด้วยธุรกิจสื่อ 46% ธุรกิจเพลง 5% และธุรกิจอีเวนต์ 2%

ธุรกิจสุขภาพและความงาม : “ไลฟ์สตาร์” ตั้งเป้ารายได้ 2,500 ล้านบาท ด้วยกลยุทธ์ Product Champion คัดสรรและพัฒนาสุดยอดสินค้ามาเสิร์ฟลูกค้า โดยปัจจุบันจับมือ 3 พันธมิตร ทำ 3 แบรนด์เจาะ 3 ตลาด ได้แก่ “มาจีค” ทำตลาดกลุ่มสกินแคร์, “รีไวฟ์” ทำตลาดกลุ่มแฮร์แคร์ และ “เอส.โอ.เอ็ม” ทำตลาดกลุ่มอาหารเสริม รวมมีสินค้า 37 รายการ ในปีหน้ามีแผนจะเพิ่มพันธมิตรอีก 3 ราย เพื่อเพิ่มสินค้าใหม่อีกกว่า 30 รายการ พร้อมเพิ่มหมวดสินค้าอื่นๆ เช่น ครัวเรือน ไลฟ์สไตล์ ฯลฯ โดยยังคงจำหน่ายผ่านช่องทาง www.shop1781.com และ @Shop1781 บน LINE SHOP ซึ่งล่าสุดมีฐานลูกค้ามากกว่า 7 แสนราย คาดว่าปีหน้าจะขยับขึ้นเป็น 1.5 ล้านราย

ธุรกิจสื่อ : ช่อง 8 ตั้งเป้ารายได้ 2,000 ล้านบาท ด้วยกลยุทธ์ Primetime Focus ในช่วงเวลา After 6 am/pm ดึงคอนเทนต์พรีเมียมทั้งในและต่างประเทศลงจอ โดย Primetime ช่วงเช้าเวลา 6.00-9.00 น. เน้นรายการข่าว ซึ่งปัจจุบันครองแชมป์อันดับ 1 รายการข่าวของกลุ่มผู้ประกอบการหน้าใหม่ และ Primetime ช่วงเย็น เวลา 18.00-22.00 น. เน้นอภิมหาซีรี่ส์บอลลีวู้ดระดับโลก 2 เรื่องใหม่ คือ “วัลลัภ มหาราชย์รักสุดแผ่นดิน” และ “พิฆเนศ มหาเทพไอยรา” ต่อด้วยละครใหม่ 10 เรื่อง และเกมโชว์วาไรตี้ “เกมเรียงเบอร์” เจาะกลุ่มครอบครัว คาดว่าสิ้นปีหน้าจะมียอดผู้ชม 7 แสนรายต่อนาที โดยตั้งแต่เดือนมกราคม 2561 จะปรับค่าโฆษณาเพิ่มขึ้น 45%

ธุรกิจเพลง : นอกจากจะยืนยันไม่มีนโยบายยุติหรือยกเลิกแล้ว อาร์เอสยังตั้งเป้ารายได้ 250 ล้านบาท ด้วยกลยุทธ์ Artist Centric ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ดนตรีไร้ขอบ” ตอบโจทย์คนฟังครบถ้วนทุกแนวเพลง โดยรีแบรนด์ “อาร์สยาม” โฉมใหม่ เริ่ม 1 ธันวาคมนี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดศิลปิน 30 รายที่มีศักยภาพและมีสไตล์ตามแนวทางที่วางไว้ โดยคาดว่าจะออกซิงเกิ้ลไม่ต่ำกว่า 40 เพลงต่อปี ส่วนศิลปินอีก 100 กว่าราย ทางบริษัทฯ จะคืนสัญญาทั้งหมด เพื่อเพิ่มขีดความสามารถบริหารจัดการสร้างรายได้ทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นงานโชว์ตัวตามคอนเสิร์ตและอีเวนท์ต่างๆ พรีเซนเตอร์สินค้า แสดงละครและภาพยนตร์ เป็นต้น ตลอดจนสตรีมมิ่งและดาวน์โหลดเพลง รวมถึงการจัดเก็บลิขสิทธิ์เพลง

ธุรกิจวิทยุ : “คูลฟาเรนไฮต์” ด้วยกลยุทธ์ Digital Transformation เร่งขยายฐานออนไลน์ต่อเนื่อง เจาะกลุ่ม GEN C อายุระหว่าง 20-44 ปี ที่มีความคิดและพฤติกรรมเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ตลอดเวลา ตอกย้ำความสำเร็จหลังผันตัวเองจาก Radio วิทยุมาเป็น Audio เสียง ซึ่งมีฐานผู้ฟังออนไลน์เติบโตคู่กับฐานผู้ฟังออนแอร์ที่แข็งแกร่ง โดยเตรียมอัดอีเวนต์ตลอดทั้งปีหวังเพิ่มมูลค่าคุ้มค่าผู้ซื้อเวลาโฆษณา ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมซิกเนเจอร์อย่าง COOL Outing ที่จัดทุกไตรมาสต่อเนื่องเป็นปีที่ 13, อิ๊งค์ Eat All Around และกิจกรรมใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ อาทิ Sport Event และ COOL Degree Beyond Rewards ระบบสะสมเวลาการฟังบนแอพพลิเคชั่นเพื่อนำมาแลกรับของรางวัลสุดคูล เป็นต้น

เตรียมยื่นย้ายหมวดจากสื่อเป็น “พาณิชย์”

ไม่หวั่นชนคู่แข่งในตลาดเฮลธ์แอนด์บิวตี้

เมื่อรายได้กำไรจากธุรกิจใหม่สูงกว่าธุรกิจเดิม การย้ายหมวดจึงเป็นไปตามกฎของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แต่ “เฮียฮ้อ” ก็ยอมรับว่าการย้ายหมวดจาก “สื่อ” เป็น “พาณิชย์” ในครั้งนี้มีผลเชิงจิตวิทยาเล็กน้อย แต่เมื่อไปอยู่ในหมวดใหม่ อาร์เอสก็ถือได้ว่ามีจุดแข็งที่แตกต่างเพราะมีธุรกิจมีเดียอยู่ในเครือ และเมื่อโฟกัสไปที่ธุรกิจเฮลธ์แอนด์บิวตี้ ก็พบว่าเป็นตลาดที่ใหญ่มากจนไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่ามีมูลค่ากี่แสนล้านบาท แต่ “ไลฟ์สตาร์” ก็ยังสามารถเติบโตก้าวกระโดดอย่างมีนัยสำคัญภายในเวลาเพียง 3 ปี

โดยปีแรกมียอดขาย 280 ล้านบาท ปีต่อมาถึงยอดขายจะลดลงเหลือ 220 ล้านบาท แต่หลังจากวางกลยุทธ์แก้เกมสำเร็จ จากเดิมที่ประกาศเพิ่มตัวเลขถึง 100% หรือเท่ากับ 440 ล้านบาทในปี 2560 แต่จากตัวเลขล่าสุดคาดการณ์ว่ายอดขายปีนี้น่าจะทะลุถึง 1,400 ล้านบาท หรือเท่ากับเติบโตเกือบ 640% จากปีก่อน!!

ขณะที่เจ้าตลาดในธุรกิจเฮลธ์แอนด์บิวตี้อย่าง บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ BEAUTY จากรายงานของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่า ในปี 2558 มีรายได้รวม 1,792.03 บาท กำไรสุทธิ 402.49 บาท ปี 2559 รายได้รวม 2,558.84 บาท กำไรสุทธิ 656.01 บาท และในปี 2560 รายได้รวม 3 ไตรมาสแรก 2,639.46 บาท กำไรสุทธิ 821.03 บาท    

การประกาศตั้งเป้ารายได้ “ไลฟ์สตาร์” ปีหน้า 2,500 ล้านบาท หรือมากกว่า 78% จากประมาณการณ์ยอดขายปีนี้ แสดงให้เห็นชัดว่า นอกจากจะไม่หวั่นชนคู่แข่งในตลาดเฮลธ์แอนด์บิวตี้แล้ว อาร์เอสยังมั่นใจในกลยุทธ์ Product Champion ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาสินค้าเก่า เพิ่มสินค้าใหม่ รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในช่องทางการจำหน่าย ทั้งนี้ ช่องทางหลักมาจากเทเลเซล 90% ออนไลน์ 9% และโมเดิร์นเทรด 1% ปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่เทเลเซลประมาณ 300 กว่าคน คาดว่าปีหน้าจะเพิ่มเป็น 500 คน

“ตลาดที่มีการแข่งขันคือตลาดที่ดี คุณต้องไปที่ๆ มีปลาเยอะ ถึงจะจับปลาได้…” เฮียฮ้อ กล่าวในที่สุด