SCB เดินหน้าสร้างองค์กรดิจิทัลไม่หยุด ตั้ง “เอสซีบี อบาคัส” ดึง AI ยกระดับธุรกิจ

1657

แทบไม่น่าเชื่อว่า หนึ่งในธุรกิจที่เกิดความเปลี่ยนแปลงมากที่สุดตลอด 10-20 ปีมานี้ คือ สถาบันการเงิน ที่เป็นหนึ่งในธุรกิจเสาหลักทางเศรษฐกิจของประเทศ

ย้อนกลับไปยุคต้มยำกุ้งสถาบันการเงินอย่างธนาคาร ถูกวิกฤติเศรษฐกิจต้องยุบรวม หายไปจากวงการหลายๆ บริษัท แต่เมื่อเศรษฐกิจของประเทศเดินหน้า กฎเกณฑ์การขยายสาขาธนาคารผ่านคลายลง ประกอบกับเมืองถูกขยายออกไป สาขาของธนาคารก็เกิดขึ้นมากมายเป็นดอกเห็ด

มาถึงวันนี้ เมื่อโลกดิจิทัลเคลื่อนเข้ามา ธุรกิจการเงินอย่างธนาคาร กลายเป็นแนวหน้าที่ได้รับผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคที่เกิดจากสังคมออนไลน์เข้าอย่างจัง ผู้คนไม่เดินไปใช้บริการสาขา แต่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินบนมือถือได้ สาขาที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก กับพนักงานอีกมหาศาล กลับกลายเป็นภาระของธนาคารไป

แต่ปัจจัยที่จะทำให้ธนาคารสามารถอยู่รอดปลอดภัยได้จากคลื่นสึนามิดิจิทัล ก็คือการสร้างองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยดิจิทัลนั่นเอง การปรับตัวโดยใช้ดิจิทัลเข้ามาตอบโจทย์การใช้บริการของลูกค้าให้ตรงตามความต้องการ ซึ่งหากพูดถึงธนาคารที่เดินหน้าสู่ดิจิทัลอย่างรวดเร็วที่สุด คงต้องยกให้กับแบงก์ใบโพธิ์ ธนาคารไทยพาณิชย์

ย้อนไปปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ธนาคารไทยพาณิชย์สร้างปรากฏการณ์ให้กับสังคมไทยตั้งแต่ระดับรากหญ้า ด้วยการเปิดตัวบริการชำระเงินผ่านคิวอาร์โค้ดจากบริการพร้อมเพย์ ในการซื้อสินค้า หรือใช้บริการในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นซื้ออาหาร ซื้อน้ำดื่ม ซื้อพวงมาลัย หรือนั่งมอเตอร์ไซค์วิน

มาถึงตอนนี้ ธนาคารไทยพาณิชย์หันมาปรับรูปแบบการทำงานภายใน ด้วยการ  จัดตั้ง เอสซีบี อบาคัส (SCB Abacus) บริษัทในเครือธนาคารไทยพาณิชย์ที่มุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีขั้นสูงอย่างปัญญาประดิษฐ์ หรือ Artificial Intelligence (AI) มาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อพัฒนาธุรกิจ และบริการ ซึ่งเป็นบริษัทแรกในกลุ่มธุรกิจทางการเงินและการธนาคารของไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

อาทิตย์ นันทวิทยา กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ เข้ามามีบทบาทในวงการการเงินและการธนาคารมากขึ้น ธนาคารไทยพาณิชย์เล็งเห็นความสำคัญและมีการพัฒนารูปแบบการให้บริการลูกค้าเพื่อสอดรับกับเทรนด์ดิจิทัลอยู่เสมอ และธนาคารยังคงเดินเกมรุกด้านนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ตั้งบริษัท เอสซีบี อบาคัส  ขึ้นเพื่อต่อยอดเทคโนโลยีด้าน AI ซึ่งเป็นแผนการปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานองค์กรให้ก้าวสู่การเป็นธนาคารที่น่าชื่นชมที่สุด (The Most Admired Bank) ทั้งนี้ บริษัทริเริ่มนำเอา AI มาใช้ในการประมวลผล วิเคราะห์ และเรียนรู้จากข้อมูลเหล่านั้น เพื่อพัฒนาการดำเนินธุรกิจและการให้บริการของธนาคาร นับว่าเป็นครั้งแรกในกลุ่มธุรกิจทางการเงินการธนาคารของไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีการจัดตั้งบริษัทที่มุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงนี้โดยเฉพาะ ซึ่งจะเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนานวัตกรรมและการบริการของไทยพาณิชย์ได้อย่างทวีคูณ สามารถตอบโจทย์ทางธุรกิจและการเงินของลูกค้าที่หลากหลายและครอบคลุมอย่างตรงจุดยิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับการพลิกโฉมวงการการเงินการธนาคารไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย

ด้าน ดร. สุทธาภา อมรวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี อบาคัส จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบัน  เทคโนโลยี AI อยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด เห็นได้จากระบบการคัดแยกอีเมล์ที่ใช้ Machine Learning ระบบแนะนำสินค้าที่ตรงใจให้แก่ผู้ซื้อแต่ละคนในเว็บไซต์อีคอมเมอร์ซ หรือระบบการจดจำใบหน้าบุคคลที่ใช้บนโซเชียลมีเดีย ซึ่งได้พัฒนามาจากเทคโนโลยี AI  ทั้งสิ้น ในแวดวงธนาคาร เทคโนโลยี  AI ได้ถูกนำมาใช้ในการแยกธุรกรรมบัตรเครดิตที่น่าสงสัยว่าจะมีการทุจริต ใช้สำหรับการแนะนำผลิตภัณฑ์ทางการเงินการลงทุน ที่เรียกว่า Robo-advisor และการชำระเงินด้วยระบบการจดจำใบหน้า ดังนั้น AI ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการสร้างความได้เปรียบด้านการแข่งขันของธุรกิจต่าง ๆ อย่างเห็นได้ชัด จึงเป็นที่มาของการจัดตั้งเอสซีบี อบาคัส

ดร. สุทธาภา อมรวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี อบาคัส จำกัด

 “ด้วยพันธกิจหลักในการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงที่นำเอานวัตกรรมสุดล้ำอย่าง AI มาเป็นกุญแจสำคัญในการวิเคราะห์และเรียนรู้ข้อมูล เพื่อต่อยอดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการที่ตอบโจทย์ทั้งสำหรับธนาคารไทยพาณิชย์ และองค์กรธุรกิจต่าง ๆ  นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายที่จะร่วมมือกับภาคธุรกิจและภาครัฐ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างวัฒนธรรมแห่งนวัตกรรมให้เกิดขึ้นในประเทศไทย รองรับกับการแข่งขันในทุกมิติของการก้าวเข้าสู่ยุคการเงิน 4.0 และเติบโตอย่างยั่งยืน”

จุดแข็งของ เอสซีบี อบาคัส ที่เสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันได้เป็นอย่างดี ประกอบด้วย ทรัพยากรบุคคล  ทีมบุคลากรที่มีประสบการณ์การทำงานในบริษัทที่มีชื่อเสียงระดับโลก ร่วมขับเคลื่อนนวัตกรรมใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นและใช้งานได้จริง การสนับสนุนจากธนาคารไทยพาณิชย์  ให้ความไว้วางใจในการเลือกโครงการภายในธนาคาร ที่มีผลกระทบเชิงบวกสูงต่อการปรับปรุงพัฒนาบริการของธนาคาร ทำให้สามารถนำมาศึกษา พัฒนา และต่อยอดเป็นโซลูชั่นต่าง ๆ ได้ พันธมิตรระดับโลก  มีข้อตกลงความร่วมมือกับสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ หรือ MIT ในสหรัฐฯ เพื่อนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ ทั้งยังมีการจัดตั้งคณะที่ปรึกษา ซึ่งประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายภาคธุรกิจ ได้แก่ ดร.ทวีศักดิ์ กออนันตกูล ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร คุณวิลาสินี พุทธิการันต์ และ ศาสตราจารย์ ดร. เบ็นจามิน แวนรอย มาร่วมแบ่งปันความรู้และประสบการณ์เพื่อร่วมขับเคลื่อนนวัตกรรมใหม่ๆ

ดร.สุทธาภา  กล่าวว่า โครงการที่ เอสซีบี อบาคัส จะเข้ามาช่วยธนาคารมีหลากหลาย ทั้งแอปพลิเคชัน SCB Easy ที่บริษัทจะเข้ามาช่วยพัฒนาระบบการแนะนำการใช้บริการธนาคารหรือที่เรียกว่า Recommendation Engine ซึ่งทำให้สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ลูกค้าต้องการได้รวดเร็ว ตรงใจต่อลูกค้ามากยิ่งขึ้น รวมไปถึง ระบบบริการด้านสุขภาพที่จะนำเทคโนโลยี Internet of Things หรือ IoT  เข้ามาช่วยส่งเสริมไลฟ์สไตล์ด้านสุขภาพ โดยใช้ AI ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ประกันที่เหมาะสมเฉพาะแต่ละบุคคล เพื่อช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าใส่ใจดูแลสุขภาพและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่ เอสซีบี อบาคัส จะเข้าไปเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการระบบ Call Center ด้วยการนำ AI มาคาดการณ์ปัญหาของลูกค้าที่โทรเข้ามา เพื่อโอนสายไปยังผู้เชี่ยวชาญที่ตอบปัญหาได้ตรงจุด อีกทั้งเป็นการยกระดับคุณภาพบริการและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า

“ในวันนี้ เอสซีบี อบาคัส  จะเข้ามาช่วยเพิ่มขีดความสามารถแก่ธนาคารไทยพาณิชย์ในการตอบโจทย์ทางธุรกิจและบริการสำหรับลูกค้าได้ตรงใจ ปลอดภัย และรวดเร็วยิ่งขึ้น ทั้งยังเพิ่มศักยภาพในการบริหารธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยตั้งเป้าเป็นผู้นำในการพัฒนาเทคโนโลยีด้าน AI เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมการเงินและการธนาคารของไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนวงการเทคโนโลยี AI ของไทยให้ก้าวไกลทัดเทียมระดับสากล”