HMD เสริมฐานโนเกีย กลับสู่ผู้นำ ส่ง Nokia 8 เจาะตลาดไฮ-เอนท์

1396

ชื่อของ โนเกีย คงไม่ต้องบอกว่า มีความผูกพันกับคนไทยขนาดไหน  ในวันที่คนไทยยังไม่รู้จักเครือข่าย 3G หรือ 4G  โทรศัพท์มือถือฟีเจอร์โฟน 2G ที่คนไทยส่วนใหญ่ใช้กัน มากกว่า 5 ใน 10 เครื่อง  คือแบรนด์มือถือจากฟินแลนด์ แบรนด์นี้

สมาร์ทโฟน และแอปเปิลโฟน รวมถึงซัมซุง คือสิ่งที่ทำให้แบรนด์โนเกียตกต่ำลงอย่างที่สุด ไม่ใช่เพียงในประเทศไทย แต่เป็นไปทั่วโลก

แม้จะตกต่ำไปจนแทบล้มละลาย แต่แบรนด์โทรศัพท์มือถือโนเกียก็ยังเป็นที่ต้องการของบริษัทไอทียักษ์ใหญ่อย่าง ไมโครซอฟท์ ปี 2557 ไมโครซอฟท์ ใช้งบลงทุน 7.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซื้อธุรกิจโทรศัพท์มือถือจากโนเกีย ฟินแลนด์ หวังจะใช้โนเกีย เป็นเรือธงวินโดวส์โฟน ต่อสู้กับ ไอโอเอส และแอนดรอยส์

แต่เพียง 2 ปี ไมโครซอฟท์ก็เปลี่ยนใจ ขายโนเกีย ให้กับ Foxconn ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของโลก ในราคาขาดทุน 350 ล้านเหรียญสหรัฐ โดย Foxconn ส่งต่อให้บริษัทลูก HMD Global เป็นผู้แจ้งเกิดโนเกียรอบใหม่

HMD Global ประเดิมเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยช่วงเดือนพฤษภาคม ปีนี้ ด้วยการเปิดตัวสมาร์ทโฟน 3 รุ่น Nokia 3, Nokia 5 และ Nokia 6 โดยทั้ง 3 รุ่น เจาะตลาดในระดับระดับกลาง ราคาระดับ 4,000 -9,000 บาท  ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากสาวกโนเกียได้พอสมควร

มาถึงปลายไตรมาส 3 นี้  HMD Global ก็ประกาศเปิดตัวสมาร์ทโฟนโนเกีย ลำดับที่ 4 แต่เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่เจาะตลาดไฮ-เอนท์ ในชื่อรุ่น Nokia 8

การกลับมาของโนเกียในรอบนี้ ชูจุดขายในการเป็น Pure Android ที่ผู้บริหารมั่นใจว่า สามารถใช้งานแบบไหลรื่นเหนือกว่า Android Phones ที่เคยมีมาเสียอีก  โดย Nokia 8 ใช้ระบบปฏิบัติการ Android Nougat 7.1.1 และพร้อมอัพเกรดสู่ Android 8.0 ได้ทันที  ใช้หน่วยประมวลผลและชิปเซ็ท  Qualcomm Snapdragon 835 ท้อปสุดของตลาดในเวลานี้

แต่คุณสมบัติเด่นของ Nokia 8 ที่จะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการถ่ายภาพ คือ เป็นครั้งแรกของโลกที่มีกล้องถ่ายทั้งภาพนิ่งและวีดีโอแบบคู่หรือ Dual-Sight ที่มาพร้อมโหมดโบธี (Bothie) ฉีกกฎของการ Live Steaming ช่วยเพิ่มมิติของการสื่อสารแบบเรียลไทม์ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังพร้อมกันผ่านทางโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook หรือทาง YouTube ได้ทันที

ซานดีฟ กุพทา ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาค บริษัท เอชเอ็มดี โกลบอล (HMD Global) กล่าวว่า วันนี้ผู้คนนิยมการ Upload มากกว่า Download  เห็นได้จากความนิยมของแอพพลิเคชั่นอัพโหลดอย่าง Youtube หรือ Snapchat ได้รับความนิยมมากขึ้น  Nokia 8 เหมาะสำหรับนักสร้างคอนเทนต์ (Content Creator) ในกลุ่มมิลเลนเนียลที่ชื่นชอบการเล่าเรื่องผ่านภาพนิ่งและวิดีโอ พร้อมแชร์ไปยังช่องทางต่างๆ ในโซเชียลมีเดีย

“Nokia 8  ไม่ได้เป็นเพียงนวัตกรรมที่คิดค้นเพื่อรองรับการถ่ายภาพและวิดีโอที่มีคุณภาพจากเลนส์คุณภาพ ZEISS เท่านั้น แต่ยังเป็นนวัตกรรมที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถรังสรรค์เรื่องราวแห่งความประทับใจผ่าน ภาพ แสง สี และเสียง ด้วยเทคโนโลยีล่าสุดจาก Nokia ไปสู่สังคมออนไลน์อย่างง่ายดายและรวดเร็วด้วยการกดพียงครั้งเดียว และจะเป็นผู้สร้างกระแสการถ่ายภาพแบบโบธี ขึ้นแทนการถ่ายภาพเซลฟี่ อีกด้วย ”

นอกจากนี้ Nokia 8 ยังเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นแรกที่รองรับเทคโนโลยีเสียงแบบ Nokia OZO Audio ที่ให้มิติเสียงแบบ 360 องศา เพื่อความสมบูรณ์ของคุณภาพเสียงเสมือนเอาเทคโนโลยีในหนังฮอลลีวูดมาใส่อยู่บนมือ  ทั้งเรื่องของคุณภาพของภาพและเสียงขนาด 4K รวมถึงยังช่วยบันทึกเสียงได้จากทุกทิศทางอีกด้วย

Nokia 8 วางตำแหน่งให้เป็นสมาร์ทโฟนเรือธง เจาะตลาดไฮ-เอนท์ วางราคาที่ 19,500 บาท  มี 3 สี ได้แก่ สีน้ำเงินเงา สีน้ำเงินเข้ม และสีเงิน เจาะกลุ่ม Millennials หรือผู้ที่มีอายุระหว่าง 14-32 ปี ที่ชื่นชอบในการสร้างคอนเทนต์  โดยกลยุทธ์การตลาดจะเน้นสื่อสารไปที่กลุ่มเป้าหมาย ผ่านผู้มีอิทธิพลทางความคิดในด้านต่างๆ อาทิ เหล่าศิลปิน ดารา เน็ตไอดอล หรือบล็อกเกอร์ ในการโปรโมทสินค้า และเพื่อสร้างการรับรู้ผ่านประสบการณ์  และความประทับใจจากการใช้งานจริง

ซานดีฟ กุพทา มั่นใจว่า การวางตลาด Nokia 8 นี้จะทำให้พอร์ตสินค้าของโนเกียครบสมบูรณ์มากขึ้น  โดยใน 2-3 ปีจากนี้ HMD Global จะมีสมาร์ทโฟนโนเกียรุ่นใหม่ๆ เข้ามาเสริมตลาดเพิ่มอีก

เป้าหมาย คือ การนำแบรนด์โนเกียกลับไปสู่การเป็นผู้นำในตลาดโทรศัพท์มือถือเมืองไทยอีกครั้ง