อยากเห็นแท็กซี่ไทย 4.0 LINE MAN จัดให้

1617

ในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้าน มาเลเซียผ่านกฎหมายให้บริการเรียกรถแท็กซี่ผ่านแอพพลิเคชั่นของ 2 ผู้ให้บริการ แกร็บ และอูเบอร์ เป็นบริการที่ถูกกฎหมาย  แต่ในประเทศไทย ดูเหมือนคงยากที่จะไปถึงจุดนั้น

ประชาชนชาวไทย โดยเฉพาะคนกรุงเทพฯ ในทุกวันนี้ยังคงประสบปัญหาการใช้บริการแท็กซี่ไม่ต่างไปจาก 10 ปีที่ผ่านมา ไม่มีรถ เรียกแล้วไม่ไป คนขับรถมารยาทแย่ ไปจนถึงการโกงมิเตอร์ แล้วแต่ใครจะเจออะไร ทำให้บริการรถส่วนบุคคลที่นำมาใช้บริการสาธารณะโดยไม่มีการสอบใบอนุญาต  เป็นบริการที่ผิดกฎหมาย อย่างอูเบอร์ ได้รับความนิยม โดยยังไม่เห็นวี่แววว่า การพัฒนาการให้บริการที่ตรงกับพฤติกรรมผู้คนในยุคออนไลน์ และสร้างมาตรฐานความปลอดภัยทั้งคนขับและคนนั่ง จะเกิดขึ้นได้เมื่อไหร่

แล้วแอพพลิเคชั่นสนทนายอดฮิตของคนไทย  LINE ก็กำลังจะนำสิ่งที่ประชาชนคนกรุงเทพฯถามหา “รถแท็กซี่ 4.0” มาให้บริการ

อริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้จัดการ LINE ประเทศไทย กล่าวว่า  LINE และ เครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ เขตกรุงเทพมหานคร มีจุดมุ่งหมายที่จะร่วมพัฒนาแท็กซี่ไทยให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น โดยมองว่าเทคโนโลยี ไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยาก แต่กลับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนขับแท็กซี่ในประเทศไทยให้ดียิ่งขึ้น ที่ปัจจุบันผู้บริโภคชาวไทยต้องการชีวิตที่รวดเร็ว สะดวกสบาย และปลอดภัย เราจึงตั้งเป้าในการพัฒนาบริการใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนไทยได้อย่างครอบคลุมมากที่สุด ซึ่ง LINE TAXI ถือเป็นแท็กซี่ไทยภายใต้แนวคิด Taxi 4.0 ที่พัฒนาขึ้นให้สอดคล้องตามนโยบายของกรมการขนส่งทางบก และถูกต้องตามกฎหมายในประเทศไทย จึงนับเป็นกำลังสำคัญในการนำพาอุตสาหกรรมแท็กซี่ไทยเข้าสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 (Thailand 4.0)

อริยะ พนมยงค์

         กรรมการผู้จัดการ LINE ประเทศไทย

โดย LINE และเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่เขตกรุงเทพมหานคร ประกาศความร่วมมือในพิธีลงนามเซ็นสัญญาร่วมพัฒนาบริการ LINE TAXI นำความแข็งแกร่งของ LINE ด้านจำนวนผู้ใช้งาน และศักยภาพทางด้านเทคโนโลยี ผนวกกับเครือข่ายคนขับแท็กซี่ถูกกฎหมายกว่า 60,000 ราย ภายใต้เครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่เขตกรุงเทพมหานคร ในการยกระดับประสบการณ์การใช้บริการแท็กซี่ที่สะดวกและรวดเร็วให้กับผู้ใช้งานชาวไทย ด้วยการพัฒนารูปแบบการให้บริการที่ง่ายดายยิ่งขึ้นผ่าน LINE โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเหลือให้ทุกคนสามารถใช้บริการ LINE TAXI ผ่านเครือข่ายคนขับแท็กซี่ของสหกรณ์แท็กซี่เขตกรุงเทพมหานคร

LINE TAXI ถือเป็นบริการลำดับที่ 5 ภายใต้การดำเนินงานของ LINE MAN หลังจากบริการสั่งซื้ออาหาร (Food Delivery) แมสเซนเจอร์ (Messenger) สั่งของสะดวกซื้อ (Convenience Goods) และส่งพัสดุ (Postal) ที่ LINE เปิดให้บริการโดยดูจากความต้องการของผู้ใช้งาน LINE ในประเทศไทย  ซึ่งปัจจัยด้านการขนส่ง (Transportation)  ถือเป็นบริการที่ผู้บริโภคชาวไทยมีความต้องการเป็นอย่างสูง แม้จำนวนแท็กซี่ในกรุงเทพฯ ที่มีอยู่มากกว่า 90,000 คัน และแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่เข้ามาให้บริการในปัจจุบันนับ 10 แอพ ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาให้กับผู้ใช้งานได้อย่างตรงจุด ผู้ใช้งานยังคงต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นปัญหาการไม่สามารถเรียกแท็กซี่ได้ในช่วงเวลาเร่งด่วนหรือฝนตก การปฏิเสธผู้โดยสาร หรือแม้กระทั่งความรู้สึกไม่ปลอดภัยในการใช้บริการ

อริยะกล่าวว่า จุดเด่นของ LINE TAXI คือ การนำเอาความแข็งแกร่งของแบรนด์ LINE ซึ่งมีจำนวนผู้ใช้งานครอบคลุมมากกว่า 90% ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือในประเทศไทย หรือราว 33 ล้านคน  รวมถึงรูปแบบการใช้งานที่ง่าย ทั้งสำหรับฝั่งผู้โดยสาร และฝั่งคนขับแท็กซี่ มาผนึกกำลังกับเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่เขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีสมาชิกคนขับแท็กซี่ ถูกกฎหมายร่วมให้บริการมากกว่า 60,000 ราย หรือคิดเป็น 60% ของจำนวนแท็กซี่ที่ให้บริการทั้งหมดในกรุงเทพฯ ซึ่งล้วนมีความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายและข้อปฏิบัติต่างๆ เป็นอย่างดี ให้การประกันได้ว่าผู้ใช้งานจะสามารถรับบริการแท็กซี่ได้แม้ในช่วงเวลาฝนตกหรือชั่วโมงเร่งด่วน โดยไม่ต้องเสียเวลารอนาน และยังเป็นการยกระดับมาตรฐานและความเป็นอยู่ของคนขับแท็กซี่ในประเทศไทย ด้วยจำนวนลูกค้าเรียกใช้บริการ และรายได้ที่มากขึ้น รวมถึงความปลอดภัยของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย โดยLINE TAXI จะเริ่มให้บริการภายในสิ้นปี 2017

ด้าน วิฑูรย์ แนวพานิช ประธานเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่เขตกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ปัจจุบันรายได้ของคนขับแท็กซี่ต่อวันถือว่าน้อยมาก ไม่คุ้มทุน  ต้องใช้เวลาในการขับรถมากถึง 12 ชั่วโมงต่อวัน จึงจะได้รายได้เข้ากระเป๋า 400 บาท เมื่อ LINE แสดงถึงความมุ่งมั่นที่จะเข้ามาร่วมงานกับเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ฯ ภายใต้การดำเนินงานที่ถูกต้องตามกฎหมายจึงเป็นเรื่องที่ดี เชื่อว่า LINE TAXI จะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับคนขับแท็กซี่ได้แน่นอน

“วันนี้แท็กซี่ราว 30% มีความรู้เรื่องการใช้แอพพลิเคชั่นเรียกใช้บริการ แต่เชื่อว่าต่อจากนี้ไปแท็กซี่ที่เหลือจะมีความเข้าใจและสามารถใช้แอพพลิเคชั่นมากขึ้น ซึ่งเมื่อแท็กซี่ที่ใช้แอพพลิเคชั่นมีรายได้มากขึ้น คนขับที่ไม่ได้ใช้แอพฯ ก็ต้องหันมาใช้ คาดว่าช่วงแรกในการเปิดให้บริการแอพพลิเคชั่น LINE TAXI จะมีรถแท็กซี่รองรับการให้บริการราว 2-3 หมื่นคัน และจะเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ” ประธานเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่เขตกรุงเทพมหานคร กล่าว

อริยะกล่าวว่า พื้นฐานของฟีเจอร์ LINE TAXI คงไม่ได้แตกต่างไปจากแอพพลิเคชั่นเรียกรถแท็กซี่ทั่วไป แต่ความแตกต่างคือ นี่คือแอพพลิเคชั่นของ LINE  ที่พัฒนาขึ้นโดยคนไทย เพื่อคนไทยโดยเฉพาะ เน้นเรื่องการใช้งานง่ายทั้งคนขับรถ และคนใช้บริการ  ค่าบริการอาจไม่ต่างกัน แต่ปริมาณรถแท็กซี่ที่ให้บริการ และคนใช้บริการมีจำนวนมากกว่ามาก  ทำให้สามารถแก้ปัญหารถขาดช่วง การปฏิเสธผู้โดยสาร ขณะที่ปัญหาจริยธรรมคนขับรถ  ทั้งเรื่องมารยาท หรือการโกงค่าโดยสาร ก็มั่นใจว่ากรมการขนส่งทางบก และทางเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ฯ จะดูแลไม่ให้เกิดปัญหาเหล่านี้ได้

และปลายปีนี้ แท็กซี่ 4.0 ที่คนกรุงเทพฯ ถามหา ก็พร้อมให้บริการ