‘VRANDA’ กางแผนลงทุน 5 ปี เสริมแกร่งลุยธุรกิจโรงแรม-อสังหาริมทรัพย์-ร้านอาหาร  

173
วีรวัฒน์ องค์วาสิฏฐ์

VRANDA เผยแผนลงทุนในระยะ 5 ปี (2566-2570) รับธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมฟื้นตัวโดดเด่น เดินหน้าลงทุนธุรกิจโรงแรมมูลค่า 4,200 ล้านบาท ทำให้ VRANDA มีห้องพักรวม 1,360 ห้อง เติบโตเกือบเท่าตัว ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กางแผน 4 โปรเจกต์หรู มูลค่าโครงการรวม 3,800 ล้านบาท พร้อมดีลแบรนด์อาหารเพิ่มเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจ ขณะที่สถานการณ์ธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมไตรมาส 1/2566 สดใสรายได้กิจการโรงแรมเติบโตกว่า 100 % จากไตรมาส 1/2565  หนุนธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทภายใต้แบรนด์ วีรันดา ทั้ง 6 แห่ง คาดทั้งปีตลาดท่องเที่ยวจะปรับตัวดีขึ้นจากประมาณการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 28 ล้านคน เดินหน้านำเทคโนโลยีวางกลยุทธ์การตลาดยุคใหม่ ดึง Blockchain-Chatbot ช่วยผลักดันยอดขาย ตั้งเป้ารายได้ส่วนของธุรกิจโรงแรมในปี 2566 เติบโต 20% 

วีรวัฒน์ องค์วาสิฏฐ์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีรันดา รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ VRANDA ผู้นำธุรกิจโรงแรม รีสอร์ทและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ไลฟ์สไตล์การพักผ่อนแบบ Exclusiveเปิดเผยถึงแผนการลงทุนในระยะ 5 ปี (2566-2570) ว่า วีรันดา รีสอร์ทฯ มีแผนลงทุนในส่วนของธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท 6 แห่งด้วยกัน เริ่มจากปี 2566-2567 ประกอบด้วย “โครงการวีรันดา พูลวิลล่า หัวหิน ชะอำ” (Veranda Pool Villas hua hin – cha am) บ้านพักแบบพูลวิลล่าหรู  และ “โครงการวีรันดา รีสอร์ท ภูเก็ต, ออโตกราฟ คอลเลคชั่น” ( Veranda Resort Phuket Autograph Collection) บนทำเลศักยภาพใกล้แหลมพันวา มีจำนวน 161 ห้อง บนเนื้อที่กว่า 10 ไร่ ซึ่งได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้วเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา และคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4 ของปี 2567 นอกจากนั้น “โครงการวีรันดา คอลเลคชั่น สมุย – ร็อคกี้ รีสอร์ท” (Veranda Collection Samui – Rocky’s Resort) มีแผนการก่อสร้างห้องพักเพิ่มเติมจำนวน 20 ห้อง จาก 50 ห้องในปัจจุบัน ซึ่งจะส่งผลให้ในปี 2567 วีรันดา รีสอร์ทฯ  มีจำนวนห้องพักเพิ่มขึ้นมาอีก 27% จาก 679 ห้อง เป็น 860 ห้อง  

และในปี 2568-2570 จะลงทุนธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทเพิ่มอีก 4 แห่ง ในพื้นที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ เขาใหญ่ เชียงใหม่ กระบี่ และกรุงเทพฯ ซึ่งจะมีจำนวนห้องพักเพิ่มขึ้นอีก 500 ห้อง รวมเป็น 1,360 ห้อง หรือเพิ่มขึ้น 100% จากห้องพักปัจจุบัน รวมมูลค่าการลงทุนในส่วนของธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทประมาณ 4,200 ล้านบาท 

“วีรันดา คอลเลคชั่น สมุย – ร็อคกี้ รีสอร์ท ถือเป็นโครงการที่ได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างสูงมาก โดยในช่วง 2 เดือนแรกของปี (มกราคม-กุมภาพันธ์) มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 90% เราจึงเตรียมขยายห้องพักเพิ่มขึ้นบนที่ดินเดิม เพื่อรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยว คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2567” วีรวัฒน์ กล่าว 

ส่วนแผนลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ประกอบด้วย “โครงการวีรันดา พูล วิลล่า หัวหิน ชะอำ” (Veranda Pool Villas hua hin – cha am) บ้านตากอากาศหรูแบบพูล วิลล่า ซึ่งได้เปิด Presale ไปแล้วเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่าน โดยจะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงครึ่งปีหลังนี้  “โครงการวีรันดา เรสซิเดนซ์ ภูเก็ต” ประกอบด้วย  ลักชัวรี่ พูล วิลล่า และ ลักชัวรี่ พูล สวีท เรสซิเดนซ์ ซึ่งจะเปิด Presale ครึ่งปีหลัง 2566 อีกทั้งการพัฒนาโครงการที่เขาใหญ่ และชะอำ-หัวหิน รวมมูลค่าโครงการ 3,800 ล้าน จึงมั่นใจว่านับจากนี้ไปวีรันดา รีสอร์ทฯ จะเติบโตก้าวกระโดดอย่างแน่นอน 

วีรวัฒน์ กล่าวถึงสถานการณ์ภาพรวมธุรกิจท่องเที่ยวไทยและธุรกิจโรงแรมในไตรมาสแรกของปี 2566 ว่ายังคงคึกคักต่อเนื่องจากช่วงไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติ ในขณะที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ ส่งผลให้ในไตรมาส 1/2566 ธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทภายใต้แบรนด์วีรันดาที่เปิดบริการทั้ง 6  แห่ง สามารถทำรายได้ช่วงไฮซีซั่นได้อย่างต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ไตรมาสแรกของปี 2566 จะมีรายได้กิจการโรงแรมเติบโต 100 % เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ คาดการณ์ธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศไทยตลอดทั้งปีจะปรับตัวดีขึ้นเป็นลำดับ โดยมีปัจจัยบวกมาจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่คาดว่าจะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย 28 ล้านคนในปีนี้เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากปี 2565  

อย่างไรก็ดี เพื่อรองรับธุรกิจท่องเที่ยวที่กำลังฟื้นตัวอย่างโดดเด่น วีรันดา รีสอร์ทฯ ได้ทำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยส่งเสริมการขาย อาทิ เทคโนโลยี Blockchain ที่จะเข้ามาซัพพอร์ตการใช้ Voucher ของลูกค้าของธุรกิจโรงแรมในเครือวีรันดา (Blockchain Voucher / affiliate marketing) ให้มีความสะดวกยิ่งขึ้น โดยจะเริ่มทดลองใช้ ได้ในช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์นี้ การปรับโฉมหน้าเว็บไซต์ใหม่ การพัฒนาระบบการจองห้องพัก รวมถึงการพัฒนา Chatbot เข้ามาช่วยตอบคำถามลูกค้าและทำการจองห้องพักได้เสมือนมีพนักงานของรีสอร์ทให้บริการ โดยได้ตั้งเป้ารายได้ส่วนของธุรกิจโรงแรมในปี 2566 เติบโต 20% จากปีก่อน