จากผู้ผลิตชุดฟุตบอลมาตรฐานโลก “วอริกซ์” ขยายตลาดสู่ “Non Football Fan”

146

วอริกซ์ สปอร์ต ผู้นำผลิตภัณฑ์ Sport – Health & Lifestyle ของไทย ชี้นวัตกรรมสำหรับใช้ผลิตเสื้อผ้าแข่งกีฬามีความสำคัญกับประสิทธิภาพการแข่งขันของนักกีฬา จึงมุ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมในการผลิตที่ได้มาตรฐานระดับโลก ประเดิมชุดแข่งทีมชาติไทยฤดูกาล 2022/23 เผยเทรนด์ตลาดเสื้อผ้ากีฬาเริ่มมาแรง เตรียมเจาะตลาดกลุ่ม NON FOOTBALL FAN ด้วยเทคนิคการผลิตและดีไซน์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายในปัจจุบัน 

วิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล

วิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “บริษัทฯ เป็นผู้จำหน่ายเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาชั้นนำในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ ‘วอริกซ์’(WARRIX) ได้ให้ความสำคัญกับการผลิตชุดกีฬา นอกเหนือจากการออกแบบดีไซน์ที่สวยงามทันสมัยแล้ว ยังเน้นให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมการผลิตเสื้อผ้ากีฬาให้ตรงกับลักษณะการใช้งานมากที่สุด เพื่อทำให้เสื้อผ้ากีฬานั้นมีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูด สวยงาม ให้ความสบายเมื่อสวมใส่ อีกทั้งยังต้องส่งเสริมสุขภาพของผู้สวมใส่ และมีฟังก์ชันที่จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการแข่งขันของนักกีฬาอีกด้วย โดยเสื้อผ้ากีฬาของวอริกซ์ สามารถตอบโจทย์การใช้งานและไลฟ์สไตล์ ดังนี้ 

  • รูปลักษณ์ที่ดึงดูด คือเรื่องของการออกแบบดีไซน์ที่สวยงาม ทั้งการกำหนดสีตัวเสื้อ ปก การออกแบบลวดลายต่างๆ ตลอดจนรูปทรงการตัดเย็บที่ให้ความปราดเปรียว คล่องตัว และการประดับโลโก้แบบสามมิติที่ให้ความโดดเด่นอย่างกลมกลืน เป็นต้น 
  • ให้ความสบายเมื่อสวมใส่ ด้วยเทคนิคการทอผ้าที่ทำให้เนื้อผ้ามีน้ำหนักเบา นุ่มสบาย ทนทาน ซับเหงื่อได้ดี แห้งเร็ว ถ่ายเทความร้อนได้ดีเยี่ยม เพื่อช่วยรักษาสมดุลของอุณหภูมิร่างกายระหว่างการสวมใส่ ป้องกันรังสียูวี รวมถึงความสามารถในการยับยั้งกลิ่นไม่พึงประสงค์ 
  • เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น ชุดกีฬาที่ทนทานต่อรังสียูวี เหมาะสำหรับกีฬากลางแจ้ง ชุดกีฬาที่เน้นความทนทาน ป้องกันการฉีกขาด เนื้อผ้ามีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับกีฬาที่มีการเคลื่อนไหวของอวัยวะแต่ละส่วนมาก เช่น ยกน้ำหนัก ยิมนาสติก หรือชุดที่มีความทนทานต่อการกัดกร่อน สามารถยืดหดตามสรีระร่างกายเมื่อโดนน้ำ เช่น ชุดว่ายน้ำ หรือชุดที่ใช้สำหรับสวมใส่ไปเชียร์กีฬา ที่ไม่ต้องใช้เทคนิคขั้นสูงในการผลิตแต่ได้ชุดที่มีคุณสมบัติเทียบเท่ากับชุดแข่ง และยังคงให้ความสบายเมื่อสวมใส่ ระบายอากาศได้ดี เหมาะกับสภาพอากาศร้อน เป็นต้น 
  • ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการแข่งขันของนักกีฬา ด้วยการนำวัสดุและเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการผลิต เช่น ใช้ผ้าที่ระบายความร้อนได้ดี ทำให้ร่างกายของนักกีฬาปรับอุณหภูมิได้ หรือการใช้เส้นใยที่มีความยืดหยุ่นสูง เพื่อช่วยให้มีความคล่องตัวในการเคลื่อนไหว การใช้โพลีเมอร์มาทอเป็นผ้าระดับนาโน เพื่อให้เสื้อกีฬาดูดซับเหงื่อได้ดี แห้งเร็ว รวมถึงพัฒนาโครงสร้างการทอเสื้อกีฬาให้ระบายอากาศได้ดี ฯลฯ 

    “วอริกซ์ ได้ใช้นวัตกรรมอันทันสมัย COMBA ผสานกับนวัตกรรมอื่นๆ ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของวอริกซ์ที่ได้คิดค้นขึ้นมา และเป็นเทคโนโลยีเดียวกันกับที่สโมสรชื่อดังระดับโลกใช้ในการผลิตเสื้อชุดแข่ง โดยประเดิมที่ชุดแข่ง UNITE ของนักฟุตบอลทีมชาติไทย ฤดูกาล 2022/23 นี้ ซึ่งชุดแข่งสำหรับนักเตะ จะใช้นวัตกรรม COMBA + TECH ส่วนชุดแข่งสำหรับแฟนบอล จะใช้นวัตกรรม COMBA + COOLทำให้ได้ชุดที่มีคุณภาพใกล้เคียงกับชุดแข่งของนักเตะ แต่มีราคาย่อมเยากว่า และเสื้อเชียร์ทีมชาติไทย จะใช้นวัตกรรม COMBA + LITE ที่ผลิตให้มีลวดลายเดียวกันกับชุดแข่งของนักเตะ และราคาเหมาะสมกับการสวมใส่ในชีวิตประจำวัน” วิศัลย์ กล่าว 

    วิศัลย์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของภาพรวมตลาดชุดกีฬานั้น หลังจากที่ภาครัฐเริ่มผ่อนคลายมาตรการเฝ้าระวังภายหลังจากที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ในระดับหนึ่งแล้วนั้น ส่งผลให้กระแสการจัดกิจกรรมการแข่งขันกีฬาเริ่มจะกลับมาอีกครั้ง ทั้งการแข่งขันกีฬาแมทช์ระดับประเทศ ระดับนานาชาติ ระดับโลก รวมถึงยังกระตุ้นกิจกรรมการแข่งขันกีฬาในระดับองค์กรต่างๆ ทั้งการแข่งขันกีฬาสีของโรงเรียน สถาบันการศึกษา การแข่งขันกีฬากระชับมิตร รวมไปถึงการแข่งขันกีฬาประจำปีของสถานประกอบการต่างๆ ทั้งหมดนี้จะช่วยกระตุ้นให้ตลาดเสื้อผ้ากีฬากลับมาคึกคักอีกครั้ง 

    ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมแข่งขันกีฬาของสถานประกอบการต่างๆ หรือของสถาบันการศึกษา มักจะนิยมสั่งผลิตชุดกีฬากับแบรนด์ผู้ผลิตชุดกีฬาที่มีชื่อเสียง เพราะนอกจากรูปลักษณ์การดีไซน์ที่สวยงามแล้ว ยังได้เสื้อกีฬาที่มีคุณภาพมาตรฐาน ซึ่งตลาดกลุ่มนี้สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับผู้ประกอบการได้เป็นอย่างดี ทางวอริกซ์จึงเตรียมเจาะตลาดกลุ่ม NON FOOTBALL FAN เพิ่มเติม เพราะปัจจุบันสโมสรหรือกลุ่มกีฬาที่ได้รับความนิยมและเป็นขวัญใจของคนไทย ไม่ได้มีแต่เพียงนักกีฬาฟุตบอลเท่านั้น แต่ยังมีกีฬาประเภทอื่นๆ อีกด้วย ซึ่งหากสามารถจับกลุ่มกีฬาอื่นเพิ่มได้ ก็จะช่วยสร้างชื่อเสียงและการยอมรับในแบรนด์วอริกซ์เพิ่มมากขึ้น โดยวอริกซ์จะนำเสนอจุดเด่นในเรื่องดีไซน์ เทคโนโลยี และคุณภาพของเสื้อผ้า เพื่อให้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายมากขึ้น 

     สำหรับการเปิดตัวเสื้อฟุตบอลทีมชาติไทย UNITE นั้น เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ “บอลไทย ใครๆ ก็เชียร์ได้” ซึ่งทุกแรงใจที่ร่วมกันเชียร์ฟุตบอลไทย จะรวมกันเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ รวมหัวใจกันเป็นหนึ่งเดียว ทั้งการเชียร์ในทัวร์นาเมนท์ที่จัดแข่งขัน หรือการเลือกสวมใส่เสื้อฟุตบอลทีมชาติไทยในกิจกรรมใดๆ ในชีวิตประจำวัน ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางของการส่งกำลังใจไปยังนักกีฬา โดยเสื้อแข่งฟุตบอลทีมชาติไทย รุ่น UNITE นี้ มีให้เลือก 3 แบบ คือ Player Version ชุดแข่งขันสำหรับนักเตะ (ราคา 2,490 บาท) Replica Version ชุดแข่งขันสำหรับแฟนบอล (ราคา 1,290 บาท) และ Cheer Version เสื้อเชียร์ทีมชาติไทย (ราคา 399 บาท) แต่ละแบบมีให้เลือก 4 สี คือ น้ำเงิน แดง เขียว และม่วงอ่อน ทุกแบบผลิตด้วยวัสดุและเทคนิคเดียวกันกับชุดของนักฟุตบอล เปิดจำหน่ายแล้ววันนี้เป็นต้นไปผ่านทุกช่องทางการจัดจำหน่ายของวอริกซ์ ได้แก่ ฟอร์ตวอริกซ์ สเตเดียมวัน / Outlet Square เมืองทองธานี / โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย / ทุกช่องทางออนไลน์ของวอริกซ์ / ช้อปปี้ / ลาซาด้า / ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางโมเดิร์นเทรดที่เป็นพันธมิตร อาทิ ซูเปอร์สปอร์ต สปอร์ตมอลล์ เอฟบีที บิ๊กซี และช่องทาง 24 Shopping ของเซเว่นอีเลฟเว่น 

    สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Warrix Call Center โทร. 0 2117 1300 FB: Warrix Thailand และ LINE ID: @warrix.co.th