“แม่ตุ๊ก-แม่นิหน่า-แม่แตน” แตกไลน์สินค้า ‘ออมุก’ สไตล์เกาหลี “Happy Munchy” เสิร์ฟความสุขที่เซเว่น  

301

สินค้า SME มักมีจุดเริ่มต้นจากความต้องการแก้ปัญหาใกล้ตัวบางอย่างของเจ้าของ เช่นเดียวกับ Happy Munchy” (แฮปปี้มันช์ชี่) แบรนด์สินค้าอาหารของ 3 คุณแม่คนดัง ตุ๊ก-นิรัตน์ชญา การุณวงศ์วัฒน์ แห่งเพจเลี้ยงลูก Little Monster, นิหน่า-สุฐิตา ปัญญายงค์ นักแสดง พิธีกร ผู้ประกาศข่าวและแตน-ธันยวดี วะสีนนท์นักธุรกิจหญิงผู้คร่ำหวอดในธุรกิจอาหาร ที่มีจุดเริ่มต้นง่ายๆ อย่างการแก้ปัญหา “ลูกทานยาก” จนเกิดเป็นสินค้าอาหารสำหรับเด็กที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง เป็นที่รู้จักในเวลาไม่นาน ล่าสุด เดินหน้าแตกไลน์สินค้าและขยายตลาดสู่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น กับสินค้า “ออมุก” สไตล์เกาหลี อาหารง่ายๆ ที่เพียบด้วยคุณประโยชน์ เหมาะกับคนทุกวัย

6 ปี Made by Mom

เส้นทาง 6 ปีของ Happy Munchy เริ่มต้นจาก ตุ๊ก-นิรัตน์ชญา ที่พบปัญหาลูกสาวไม่ยอมทานอะไรเลยนอกจากหมูฝอย ซึ่งเสี่ยงต่อการขาดสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อพัฒนาการตามช่วงวัย เมื่อได้คุยกับ แตน-ธันยวดี และนิหน่า-สุฐิตา ก็พบว่าเผชิญปัญหาเดียวกัน ทั้ง 3 คนจึงร่วมกันก่อตั้ง บริษัท ลิตเติ้ลมันช์ชี่ จำกัด ขึ้นมา เพื่อปลุกปั้นสินค้าอาหารสำหรับเด็กที่ทำให้เด็กทานง่ายและได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์    

“หลายคนอาจจะคิดว่ามันง่ายเพราะแตนมีโรงงาน แค่บอกให้ทำก็สามารถทำได้ แต่มันไม่ใช่ เราเริ่มจากการคิดค้นสูตรร่วมกันผ่านกระทะเล็กๆ ในครัวหลังบ้าน เพื่อหาความลงตัวตรงตามที่เราต้องการ มันคือ Made by Mom จริงๆ เริ่มทำจาก 3 แม่ ในสเต็ปแรก ถึงจะสู่ขั้นตอนการผลิตโดยโรงงานที่ได้มาตรฐาน” นิหน่าเล่า  

DNA แกร่ง เปลี่ยนผ่านสู่ Happy Munchy

หลังจากสินค้าหมูฝอยภายใต้แบรนด์ Little Munchy (ลิตเติลมันช์ชี่) ที่ชูคอนเซ็ปต์ ไม่ใส่ผงชูรส ไม่มีสารกันบูด มีประโยชน์ และมี อย. เริ่มบุกตลาดอาหารเด็กในปี 2559 ก็ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี ในปี 2563 ทั้ง 3 คนตัดสินใจรีแบรนด์ Little Munchy สู่ Happy Munchy เพื่อให้ขยายฐานลูกค้าไปได้ไกลกว่าแค่กลุ่มอาหารเด็ก    

“เราใช้คำว่า Happy สื่อถึงความสุขของผู้ทานอาหารที่มีประโยชน์ หลังจากเรารีแบรนด์และเพิ่มช่องทางขายผ่านโมเดิร์นเทรดและร้านสะดวกซื้ออย่างเซเว่น อีเลฟเว่น เพิ่มไลน์สินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง ทำให้ยอดขายของเราเติบโตมากกว่า 100% เรียกว่าเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดด จากที่เลี้ยงลูกอยู่บ้านและลูกไม่กินข้าว จากงานอดิเรกสู่ธุรกิจแบบจริงจังอย่างปัจจุบัน” แตนเล่า  

สู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ ‘ออมุก’ สไตล์เกาหลี

การจะขยายฐานจากตลาดแม่และเด็กสู่ตลาดใหม่ๆ จำเป็นต้องอาศัยการเรียนรู้ ทั้ง 3 คนซึ่งมีบุคลิกเป็นทั้งนักคิด นักพัฒนา นักสู้ นักแก้ปัญหา อยู่ใน DNA จึงเดินหน้าลุยและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องระบบบัญชี การบริหารสต๊อก แพ็กเกจจิ้ง ตลอดจนเรื่องรสชาติ จากพันธมิตรช่องทางขายอย่างเซเว่น อีเลฟเว่น เช่น การปรับเปลี่ยนรสชาติไม่ให้ยึดติดกับรสชาติเพื่อแม่และเด็กจนเกินไป เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าของเซเว่น อีเลฟเว่น ได้ง่ายขึ้น    

“เรากลับมาคิดเพิ่มว่าจะผลิตสินค้าอะไรดีที่เหมาะกับลูกค้ากลุ่มนี้ และก็มาจบลงที่ ‘ออมุก’ สไตล์เกาหลี สินค้าที่ยังคงฮอตฮิตมาตลอด แต่เราต้องสร้างความแตกต่าง ด้วยการคงคอนเซ็ปต์หลักของเราไว้คือไม่ใส่ผงชูรส ไม่มีสารกันบูด และมีประโยชน์ ทานง่าย รสชาติอร่อย ทำให้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี” ตุ๊กเล่า  

ปัจจุบัน บริษัทมี “ออมุก” วางจำหน่ายในเซเว่น อีเลฟเว่น ทั้งสิ้น 2 SKU ประกอบด้วย ออมุกปลาแผ่นเกาหลี และออมุกผสมผัก โดยในอนาคตเตรียมที่จะออกออมุกตัวใหม่เรื่อยๆ เพื่อให้ออมุกเป็นหนึ่งในซีรีส์ที่ช่วยส่งมอบความสุขให้กับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง โดยทั้ง 3 แม่ทิ้งท้ายว่า สิ่งสำคัญที่สุดของการทำธุรกิจก็คือความรู้ ยิ่งเป็นผู้ประกอบการ SME ยิ่งต้องแสวงหาความรู้เพิ่มเติมและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง จะมีแต่ Passion เพียงอย่างเดียวไม่ได้ ต้องทำสินค้าบนความต้องการของตลาด พันธมิตรที่ดีมีส่วนช่วยให้เราเดินไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ได้ง่ายขึ้น ซึ่งสินค้า “ออมุก” ก็เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการ SME ที่เซเว่น อีเลฟเว่น ให้การสนับสนุนและส่งเสริมอย่างต่อเนื่องในทุกด้าน