26 ปี “ณุศาศิริ” จากยักษ์อสังหาฯ แตกไลน์รุกตลาดปั้นโมเดลธุรกิจสุขภาพ

516

ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) ฉลองเข้าสู่ปีที่ 26  สุดยิ่งใหญ่ แตกไลน์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ สู่เฮลท์แคร์ โชว์วิสัยทัศน์ผู้บริหารที่เล็งเห็นวิกฤติโลก ทุ่มเฉียดพันล้าน ถือหุ้นใหญ่ รพ.พานาซี  รุกตลาดปั้นโมเดลธุรกิจสุขภาพเต็มสตรีม  ถือเป็นโอกาสเติบโตธุรกิจด้านสุขภาพ  สวนกระแสทิศทางธุรกิจในยุคโควิด-19 สอดรับนโยบายรัฐให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพ

วิษณุ เทพเจริญ

วิษณุ เทพเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัท ณุศาศิริฯ ก้าวผ่านปีที่ 25 เข้าสู่ปีที่ 26 ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯได้ผ่านวิกฤตมาแล้วทุกสถานการณ์ ตั้งแต่วิกฤตต้มยำกุ้ง จนถึงในยุคที่โควิด-19 ที่มาสร้างความสั่นสะเทือนให้กับธุรกิจทุกภาคส่วน ณุศาศิริฯมองเห็นวิกฤตนี้ และเล็งเห็นว่าสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ รวมทั้งยังเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มว่าสามารถเติบโตอีกไม่จำกัด จึงปรับรูปแบบการทำธุรกิจอสังหาฯ ให้มีความสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยให้โรงพยาบาลพานาซีเป็นหลักนำเพื่อทำให้ธุรกิจอสังหาและเรื่องสุขภาพเป็นเรื่องที่สอดคล้องกันได้

ล่าสุดโครงการ มาย โอโซน เขาใหญ่ของณุศาศิริฯ ได้จับมือกับพันธมิตร แบรนด์ชั้นนำ อย่าง Kimpton/Absolute ด้วยการสร้างให้ทุกที่เป็นพื้นที่แห่งการพักผ่อน และ การดูแลสุขภาพ  โดยโมเดลแรกที่ทำให้เห็นว่าธุรกิจอสังหาฯ สามารถร่วมกับธุรกิจสุขภาพได้อย่างดีเยี่ยม ที่ My ozone เขาใหญ่  มีโรงแรมที่พัก บ้านพัก คอนโด และ คลีนิคพานาซี ไว้ดูแลเรื่องสุขภาพ อยู่ในที่เดียวกัน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ

มาย โอโซน เขาใหญ่

“ในขณะที่เกิดวิกฤตโควิด ทำให้สถานะการณ์โรงแรม และการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างหนักจนแทบประคับประคองต่อไปไม่ไหว แต่ที่ MY OZONE กลับได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยม มียอดจองที่พักเต็มมาตลอด ทั้งนี้เกิดจากการนำทุกสิ่งมาประสานกัน ทั้งเรื่องท่องเที่ยวและสุขภาพ ผนวกกับเราเล็งเห็นว่า การรักษาแบบ green medicine เป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพและ Lifestyle ที่คนรุ่นใหม่กำลังสนใจ เราจึงมุ่งเน้นการรักษา และสร้างผลิตภัณฑ์ ที่เป็น green medicine  โดยเฉพาะเราทำ My Ozone เป็นโมเดลแรกที่ทำให้ ณุศาศิริฯ หันมารุกธุรกิจด้านสุขภาพอย่างเต็มสตรีม”

วิษณุ กล่าวต่อว่า ณุศาศิริ ฯ มุ่งรุกตลาดสุขภาพอย่างจริงจัง ด้วยผลิตภัณฑ์ ATK เพราะเห็นว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทุกบ้านต้องมี  จึงลงมาทำธุรกิจผลิตภัณฑ์ ATK เพื่อคนไทย มีแบรนด์ ATK เป็นของตนเอง เพื่อให้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ ATK  ในราคาที่เป็นมิตรเข้าถึงได้ง่าย และธุรกิจ ATK ยังสร้างผลประกอบการที่ดีให้กับธุรกิจของณุศาสิริฯ เป็นอย่างมาก รวมถึงยังมีแผนการขยายธุรกิจทางด้านพลังงานทางเลือกอีกด้วยในอนาคต