เจาะเบื้องหลังการรวมตัวครั้งแรกของ “3 พี่น้องตระกูลชี่” เบิร์ด-ก้อง-ต่อ

509

ถือเป็นการโคจรมาพบกันสำหรับ 3 หนุ่ม 3 สไตล์ หลังจากเปิดตัวในฐานะ “3 พี่น้องตระกูลชี่” ครั้งแรกของการทำงานร่วมกันของ 3 ซูเปอร์สตาร์ชื่อดังขวัญใจทุกเจเนอเรชั่น นำโดย เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์, ก้อง-สหรัถ สังคปรีชา และ ต่อ-ธนภพ ลีรัตนขจร หนึ่งในโปรเจ็กต์ใหญ่ของการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสกัดจากถั่งเช่า โสม และหลินจือ ที่ทั้ง 3 ซุปตาร์ชื่อดังได้ลองจริงใช้จริงอย่างต่อเนื่องนานหลายเดือน จนเห็นถึงความเปลี่ยนแปลง ต่างเชื่อและมั่นใจในสิ่งเดียวกันว่า “ชี่ดี ชีวิตดี”

โอกาสพิเศษนี้ ทั้ง 3 ซุปตาร์จึงได้มาแชร์ความประทับใจที่ได้ร่วมงานกันครั้งแรก รวมถึงเผยเคล็ดลับดูแลสุขภาพ 3 สไตล์ 3 เจเนอเรชั่นเบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์ เปิดเผยว่า “การทำงานร่วมกัน 3 คนไม่ใช่เรื่องธรรมดา ก้องเขาเป็นนักดนตรีเป็นนักร้อง ต่อเป็นนักแสดง ต่างคนต่างต้องดูแลคนดู แล้วพลังขนาดนี้ ประสบการณ์ขนาดนี้ ความขยันหมั่นเพียร     ขนาดนี้ เมื่อมาเจอกันมันจะสนุกกันแค่ไหน พี่เบิร์ดก็ไม่ได้ต่างจากสองคนเลย ตื่นเต้นที่จะได้ร่วมงานกัน พี่เบิร์ดอยากจะรู้ว่าเจเนอเรชั่นของแต่ละคนมีวิธีคิดเป็นยังไง เมื่อมารวมกันเวลาแอ็กชั่นแล้ว เราคิดแอ็กชั่นอีกแบบหนึ่ง ก้องกับต่อก็คิดอีกแบบหนึ่ง พี่เบิร์ดเองก็ตื่นเต้นที่ได้เจอน้องๆ ครับ”

ส่วนเรื่องการดูแลสุขภาพ พี่เบิร์ดบอกว่าเวลาเล่นคอนเสิร์ต จะมีมาร์กต่างๆ เต็มไปหมด มีสีเยอะแยะที่ต้องจำ  และอีกมากมาย ซึ่งนอกจากต้องใช้พลังแล้ว ยังต้องใช้ทั้งสายตา สมอง และทุกอย่าง เพื่อดึงคนดูให้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา “พี่เบิร์ดต้องหาตัวช่วยในการดูแลสุขภาพที่นอกจากการออกกำลังกายและเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ที่ร่างกายต้องการแล้ว ก็ต้องมีตัวเลือกเสริมที่จะมาเติมร่างกายในส่วนที่พร่อง ซึ่งพลังงานเหล่านี้มีอยู่ในสมุนไพร 3 ชนิด เราเรียกพลังงานจากสมุนไพรนี้ว่า “พลังงานชี่” ที่ทำให้มีพลังได้ยาวนานขึ้น ปกติเบิร์ดจะออกกำลังกายทุกวัน มันจะทำให้ร่างกายเบิร์นได้เร็วมาก ยืดเวลาในการใช้พลังได้ยาวนาน เพราะคอนเสิร์ตพี่เบิร์ดแต่ละครั้ง 3-4 ชั่วโมง พี่เบิร์ดจะอยู่ลู่วิ่งได้นานมาก อยู่ไปด้วยทั้งวิ่ง ร้อง เต้น ไปด้วย”  ขณะที่ ก้อง-สหรัถ สังคปรีชา ก็บอกว่าเป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมงานกับพี่เบิร์ดและต่อ ตื่นเต้นมากเพราะมีพี่เบิร์ดเป็นไอดอล และก็เป็นแฟนคลับของต่อ ได้เห็นพัฒนาการด้านการแสดงของต่อที่ดีขึ้นเรื่อยๆ สำหรับเทคนิคการดูแลสุขภาพนั้น ก้องเปิดเผยว่า “การทำงานหนักๆ มีผลต่อสุขภาพครับ มีบางช่วงที่ผมทำงานหลายอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นทัวร์คอนเสิร์ตทั้งในประเทศหรือต่างประเทศ ถ่ายละคร ถ่ายรายการ พอเป็นงานหลายๆ อย่างเข้ามาพร้อมๆ กัน พักผ่อนไม่พอก็จะอ่อนเพลีย นอนไม่พอก็มึนงงเหมือนกัน ดังนั้นต้องหาเวลาพักผ่อนให้ได้ แล้วก็เติมอะไรดีๆ ให้กับร่างกายเพื่อเสริมให้เราแข็งแรง สู้กับงานหนักได้ ตัวช่วยสำหรับสุขภาพ ผมเลือกที่ได้มาตรฐาน ผมอาจจะเป็นคนง่ายๆ แต่ผมว่าเรื่องพวกนี้ต้องพิถีพิถันเลือก เพราะมันคือสุขภาพร่างกายของเรา จะเลือกอะไรใส่เข้าไปที่ทำให้เราเฟรชและแข็งแรงเราต้องดูดีๆ ครับ”ด้าน ต่อ-ธนภพ  ลีรัตนขจร ก็เปิดเผยว่าดีใจและประทับใจที่ได้ร่วมงานเป็นครั้งแรกกับศิลปินที่เป็นไอดอลของหลายๆ คน “รู้สึกเหมือนได้ทำงานกับคนที่เป็นตำนานและเป็นแบบอย่างของใครหลายๆ คน อย่างเช่นพี่เบิร์ด เรื่องเล่าของครูสอนเต้นสอนร้องเพลงถึงหูผมตลอดว่า สไตล์การทำงานของพี่เบิร์ดเป็นคนที่น่ายกย่องและน่าเอาเป็นตัวอย่าง มันเลยรู้สึกว่าการเจอ Professional แบบนี้มันไม่ได้หาได้ง่าย รวมถึงพี่ก้องที่ผมชอบส่วนตัว ติดตามพี่ก้องอยู่หลายครั้ง”

แม้จะเป็นน้องเล็กสุด แต่ต่อก็บอกว่ามีเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องหันกลับมาดูแลสุขภาพเช่นกัน “ผมเป็นคนที่ติดการทำงานที่หนักมากๆ หนักเกินอายุเลยครับ ก็ต้องเริ่มเรียนรู้แล้วว่าคนเราต้องนอน หาเวลาพักผ่อนให้เพียงพอ หรือถ้าเราอยากมีแรงในการทำงานให้ได้มากขึ้น เราควรต้องออกกำลังกาย แค่ใจเราอย่างเดียวมันไม่พอ ร่างกายเราต้องพร้อมด้วย หาตัวช่วยเสริมในส่วนที่ขาดเพื่อเติมเต็มให้ร่างกายสมดุล ถ้าวันนี้คุณทำงานหนัก คุณก็ควรทำ Activity อื่นให้มัน Balance กัน ถ้าคุณทำงานเหนื่อยเกินจนคุณไม่มีเวลาทำอะไรเลย สุดท้ายก็ไม่มีความสุข ผมว่ามันเป็นเรื่องความพอดี ถ้าถามว่าการดูแลตัวเองของผมคืออะไร มันคือการหาจุดพอดีให้เจอ อยากให้ทุกคนมีความสุขในชีวิตของตัวเองครับ”