ทำความรู้จักกับ “โซเชียลคอมเมิร์ซ” เครื่องมือสำคัญช่วยดันยอดขายให้ร้านค้าออนไลน์

315

ตลอดกว่า 1 ปีที่ผ่านมา ที่คนทั้งโลกต้องเผชิญหน้ากับไวรัสตัวร้าย โควิด-19  หนึ่งในการตั้งรับของรัฐบาลทั่วโลก รวมถึงรัฐบาลไทย คือการล็อกดาวน์ให้ผู้คนอยู่กับบ้าน ทำงานที่บ้าน เรียนหนังสือที่บ้าน ทำให้ผู้บริโภคหันมานิยมซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มดิจิทัลผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ธุรกิจอีคอมเมิร์ซจึงมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบการซื้อ-ขายสินค้าที่เด่นชัดที่สุดคือ “โซเชียลคอมเมิร์ซ” ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเนื่องจากเป็นช่องทางที่มอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ไม่ต่างไปจากการซื้อจากหน้าร้าน เพราะผู้ซื้อสามารถมีปฏิสัมพันธ์ พูดคุย สอบถามข้อมูลสินค้ากับคนขายได้ และผู้บริโภคยังสามารถซื้อสินค้าผ่านไลฟ์สดบนเพจเฟซบุ๊กของร้านค้าที่สร้างความสนุก คึกคักกว่าการซื้อหน้าร้าน

ผลสำรวจ Discovery Commerce System โดยเฟซบุ๊ก เผยว่า 86% ของนักช้อปออนไลน์จากทั่วโลกที่ใช้เฟซบุ๊ก มีการซื้อสินค้าและบริการบนแพลตฟอร์มทุกสัปดาห์ ซึ่งสินค้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ สินค้ากลุ่มเครื่องสำอางและอิเล็กทรอนิกส์ ในปี 2563 ผู้บริโภคไทยกว่า 40% ทำการสั่งซื้อสินค้าและบริการบนช่องทางออนไลน์ผ่านระบบแชท (Conversational Commerce) และเทรนด์นี้มีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นช่องทางที่เหมาะกับค้นหาสินค้าและบริการโดยเฉพาะจากแบรนด์ขนาดเล็กใหม่ๆ รวมถึงสำหรับร้านค้าอิสระที่ใช้การไลฟ์สดเป็นช่องทางในการขายสินค้าและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยไม่จำเป็นต้องมีต้นทุนค่าการตลาดสูง

แบรนด์จำเป็นต้องขยายช่องทางการขายเพื่อสร้างธุรกิจให้เติบโต

อีคอมเมิร์ซ กลายเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยอย่างรวดเร็ว โดยรายได้รวมของสินค้าทุกประเภทบนแพลตฟอร์มนี้ในปี 2564 มีมูลค่ากว่า 8.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และคาดว่าจะเติบโตถึง 12.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯภายในปี 2568 แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Shopee และ Lazada เป็นช่องทางที่ช่วยให้ทั้งแบรนด์ขนาดใหญ่ไปจนถึงร้านค้าอิสระสามารถเปิดร้านบนแพลตฟอร์มออนไลน์ได้สะดวกโดยไม่ต้องลงทุนสูง  อย่างไรก็ตาม ต้นทุนด้านการตลาดนับเป็นเรื่องท้าทายสำหรับแบรนด์ขนาดเล็กและร้านค้าอิสระที่จะสร้างการรับรู้และสามารถแข่งขันกับแบรนด์ใหญ่ที่ลงมาใช้ช่องทางเหล่านี้เช่นเดียวกัน ทำหให้โซเชียลคอมเมิร์ซจึงเป็นช่องทางที่ช่วยให้แบรนด์ขนาดเล็กและร้านค้าอิสระสามารถสื่อสารกับกลุ่มผู้บริโภคบนโซเชียลมีเดียได้โดยตรง เพื่อสร้างช่องทางการขายบนเพจเฟซบุ๊กของตนเองและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีปฏิสัมพันธ์กันอยู่แล้ว ซึ่งการสร้างฐานกลุ่มลูกค้าจะช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันกับแบรนด์ดังได้

ใช้ฟังก์ชั่นบนโซเชียลคอมเมิร์ซเพื่อสร้างฐานลูกค้าและแข่งขันกับแบรนด์ใหญ่

กุญแจสู่ความสำเร็จของช่องทางการขายบนแพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับแบรนด์ขนาดเล็กและร้านค้าอิสระขึ้นอยู่กับว่าแบรนด์เหล่านี้สามารถเข้าใจและเก็บข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าบนเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมได้มากน้อยแค่ไหน เนื่องจากโซเชียลมีเดียเป็นพื้นที่ที่ทุกคนมารวมตัวเพื่อเชื่อมต่อถึงกัน รวมถึงเป็นช่องที่ผู้บริโภคใช้ในการค้นหาสินค้า หลังจากร้านเพิ่มการรับรู้ของสินค้าและขยายฐานลูกค้าแล้ว ยิ่งร้านค้าสามารถสร้างการรับรู้บนโซเชียลมีเดียได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งสร้างโอกาสในการเพิ่มยอดขายได้มากเท่านั้น

นอกจากนี้ร้านค้ายังสามารถเข้าถึงฟังก์ชั่นที่หลากหลายบนโซเชียลคอมเมิร์ซเพื่อส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้ารวมถึงสร้างฐานลูกค้าประจำได้ ไม่ว่าจะเป็นการขายผ่านการโพสต์ การไลฟ์ และระบบแชท ซึ่งร้านค้าสามารถสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่โดดเด่นและควบคุมประสบการณ์การซื้อสินค้าของลูกค้าได้ด้วยตนเอง 

  • การโพสต์ขายสินค้า เป็นฟังก์ชั่นที่ร้านค้าสามารถใช้สร้างการรับรู้และเพิ่มการมีส่วนร่วมในกลุ่มลูกค้าเป้าหมายรวมถึงใช้ในการขายสินค้าเช่นกัน เนื่องจากผู้บริโภคไทยใช้เวลาบนอินเตอร์เน็ตเฉลี่ย ชั่วโมงต่อวัน โดยเฟซบุ๊กเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมมากที่สุด จึงเป็นโอกาสดีสำหรับแบรนด์ขนาดเล็กที่จะสร้างการรับรู้และเป็นที่รู้จักมากขึ้น ร้านค้ายังสามารถแนะนำและโพสต์สินค้าที่ต้องการขายซึ่งช่วยสร้างความสนใจและเริ่มพูดคุยกับลูกค้าใหม่ๆได้
  • การไลฟ์สดขายสินค้า เป็นเครื่องมือการขายที่มีประสิทธิภาพที่ช่วยให้ร้านค้าขนาดเล็กสามารถสร้างยอดขายในระยะเวลาสั้นๆได้ โดยมากกว่า 30% จาก 150,000 เพจร้านค้าในประเทศไทย ขายสินค้าผ่านการไลฟ์สด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความนิยมของเทรนด์ไลฟ์สดขายสินค้าที่เติบโตขึ้น เนื่องจากช่วยสร้างประสบการณ์การซื้อขายสินค้าที่สนุกสนานมากขึ้นให้แก่ร้านค้าและลูกค้า
  • การขายผ่านระบบแชท เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ร้านค้าสามรถสื่อสารกับลูกค้าและปิดการขายได้ทุกที่ทุกเวลา ร้านค้าที่สามารถใช้ระบบแชทได้อย่างเต็มประสิทธิภาพสามารถสร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นการตัดสินใจซื้อสินค้าของลูกค้าได้ เมื่อเร็วๆนี้เฟซบุ๊กได้จัดงาน ‘The Chat + Experts + You’  เพื่อเน้นย้ำให้เห็นว่าระบบ
    แชทบอท และการส่งข้อความและโฆษณาผ่านแชท ช่วยให้แบรนด์สามารถมอบประสบการณ์การซื้อขายสินค้าออนไลน์ที่ไร้รอยต่อให้แก่ลูกค้า และเติมเต็มขั้นตอนการซื้อขายสินค้าด้วยการไลฟ์สดได้

ผสานเทคโนโลยี AI เพื่อยกระดับฟังก์ชั่นของโซเชียลคอมเมิร์ซ

การมีพาร์ทเนอร์ที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเพื่อมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบไร้รอยต่อ พร้อมกับรักษาการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ขายและลูกค้าคือสิ่งสำคัญสำหรับร้านค้าบนโซเชียลคอมเมิร์ซและนับเป็นอีกกุญแจสู่ความสำเร็จของร้านค้าที่ขายสินค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการผสานการโพสต์ขายสินค้า ไลฟ์สดขายสินค้า หรือขายผ่านระบบแชทบนโซเชียลมีเดีย

Shoplus ผู้นำด้านการให้บริการเทคโนโลยี AI อัจฉริยะ และโซลูชั่นด้านซียลคอมเมิร์ซแบบครบวงจรสำหรับแบรนด์ในประเทศไทยและทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ช่วยให้แบรนด์พาร์ทเนอร์ประสบความสำเร็จในการขายสินค้าบนเฟซบุ๊ก และสามารถเพิ่มยอดขายรวมได้สูงถึง 97% ภายในครึ่งปีแรกของปี 2564 โดยบริการ AI อัจฉริยะสำหรับโซเชียลคอมเมิร์ซช่วยให้ร้านค้าปิดการขายได้อัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็น การโพสต์ขายและการไลฟ์สดขายสินค้า และด้วยบริการ AI chatbot ของ Shoplus สามารถช่วยร้านค้าเพิ่มยอดขายกว่า 20% และลดปริมาณงานของพนักงานลงกว่า 80% ทำให้เจ้าของร้านค้ามีเวลาในการขยายธุรกิจให้เติบโตไปจนถึงมีเวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้น 

Shoplus ให้บริการ AI-Live sell, AI-Chatbot, AI Messenger และ AI-Post sales ผ่านบริการแพ็คเกจ  Shoplus AI-Starter และ Shoplus AI-Master เป็นส่วนหนึ่งของบริการรายปีของ Shoplus ที่รวมทั้ง ระบบจัดการคำสั่งซื้อแบบไม่จำกัดจำนวน ระบบการจัดการออเดอร์ ระบบ AI-Chat bot และ ฟีเจอร์ไลฟ์สดบนเฟซบุ๊ก