ธุรกิจแก๊สหงอย WP ทุ่ม 500 ลบ ลุยธุรกิจอาหาร รักษาเป้าเติบโต

407

บมจ.ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP) เปิดเกมปี 2564 อัดงบลงทุน 400-500 ล้านบาท ปั้นธุรกิจอาหาร ผ่าน แบรนด์ วันเดอร์ฟู้ด  พร้อมลุยธุรกิจเกี่ยวเนื่องแก๊ส LPG อาทิ ซ่อมและผลิตถังแก๊ส  หนุนรายได้เพิ่ม สร้างฐานธุรกิจแข็งแกร่ง “ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง” ประกาศนำทัพเดินหน้าลุยต่อยอดธุรกิจไม่ยั้ง เพื่อตอกย้ำจุดยืน หุ้นผลการดำเนินงานเติบโตและจ่ายปันผลต่อเนื่อง

ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (WP) เปิดเผยถึงกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจปี 2564  ว่ากลุ่มบริษัทฯ ได้เตรียมงบลงทุนประมาณ 400-500 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขยายธุรกิจธุรกิจอาหารที่จะเป็นธุรกิจที่ช่วยในการเพิ่ม margin ให้กับกลุ่มบริษัทฯในอนาคต และธุรกิจจัดจำหน่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ซึ่งถือเป็นธุรกิจหลัก และเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยในการขับเคลื่อนธุรกิจของบริษัทฯ ภายใต้แบรนด์ “เวิลด์แก๊ส” ที่ยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ แบ่งเป็นใช้สำหรับลงทุนธุรกิจซ่อมถัง 100 ล้านบาท ลงทุนซื้อถังบรรจุแก๊ส 200-300 ล้านบาท และลงทุนในธุรกิจอาหาร 50 ล้านบาท  ด้วยการขยายแบรนด์ วันเดอร์ฟู้ด จากในเครือที่จัดตั้ง ได้แก่ ผัดไทยไฟทะลุ,ข้าวซอย Hungry Rabbit,ร้านอาหาร Hyper Fine Dining ระดับมิชลินสตาร์ 1 ดาวในชื่อ Table 38 และ Pi Kun  โดยมีแผนต่อยอดธุรกิจอาหารแช่แข็ง ธุรกิจแคทเทอริ่งและการขยายแฟรนไชส์ไปยังประเทศในแถบเอเชีย   ส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนสำรอง เพื่อรองรับการขยายธุรกิจที่ตั้งเป้าเติบโตทุกช่องทางในปี 2564 และเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจหลัก แบรนด์  “เวิลด์แก๊ส” ให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น

สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรม LPG  ในประเทศปี 2564 เชื่อว่า ยังคงทรงตัว เนื่องจากเป็นสินค้าที่ต้องใช้ และมีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน   ส่วนราคาคาดว่า ยังคงทรงตัว ไม่หวือหวามากนัก  ขณะที่แนวโน้มปริมาณการขาย LPG ของบริษัทฯ คาดว่าจะอยู่ในระดับ 800,000 ตัน

ขณะที่ภาพการเติบโตของผลการดำเนินงาน ประเมินว่าจะทรงตัวจากปี 2563  ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นเชื่อว่าน่าจะปรับตัวดีขึ้นจากสัดส่วนการขายที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายตัวของจุดกระจายสินค้าที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

“กลุ่มบริษัทฯ ยังคงมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อต่อยอดรายได้และสร้างฐานธุรกิจให้แข็งแกร่ง ตามแผนที่ได้วางไว้  เป็นการตอกย้ำให้เห็นว่ากลุ่มบริษัทฯ พร้อมลุยต่อจิ๊กซอว์ธุรกิจ ให้ครอบคลุม ครบวงจร จากเดิมมีเพียงธุรกิจจัดจำหน่ายก๊าซ LGP  อีกทั้งเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19  และภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอยู่ในขณะนี้ ที่สำคัญเพื่อรักษาอัตราการทำกำไร และเพิ่มยอดขายให้มากขึ้น  และกระจายความเสี่ยงของธุรกิจในอนาคต   โดยังเน้นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักที่ทำอยู่คือ LPG อาทิ  การผลิตถัง และซ่อมถัง   ส่วนธุรกิจที่ไม่ใช่ LPG  คือ ธุรกิจอาหาร ซึ่งน่าจะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจหลักที่จะสร้างรายได้ในอนาคต  ซึ่งภาพของบริษัทฯ ต่อจากนี้จะเป็นในลักษณะ  Energy Provider และ Energy Solution   ดังนั้นจึงขอให้ผู้ถือหุ้นเชื่อมั่นว่า WP จะสามารถรักษามาตรฐานการดำเนินธุรกิจ และเป็นหุ้นที่ผลการดำเนินงานเติบโต และปันผลได้อย่างต่อเนื่อง” ชมกมล กล่าว