CPT มั่นใจผลงานปี 63 เทิร์นอะราวด์ ตั้งเป้าโตไม่ต่ำกว่า 30%

489

‘บมจ.ซีพีที ไดร์ แอนด์ เพาเวอร์’ หรือ CPT คาดปี 2563 ผลงานเทิร์นอะราวด์ วางกลยุทธ์องค์กรสร้างการเติบโตที่ดีในระยะยาว เน้นขยายฐานลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ๆ เพิ่มรายได้จากธุรกิจให้บริการและซ่อมบำรุงหลังการขาย พร้อมลุยเจรจาร่วมทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจรวมทั้งมองโอกาสเข้าซื้อกิจการ ตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโตมากกว่า 30% พร้อมตุน Backlog กว่า 450 ล้านบาท และมีงานที่รอความชัดเจนการสั่งซื้ออีกไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท  

                ชัยยศ ปิยะวรรณรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพีที ไดร์ แอนด์ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPT ผู้ให้บริการระบบไฟฟ้าและระบบอัตโนมัติสำหรับควบคุมการทำงานของเครื่องจักร เพื่อเพิ่มขีดความสามารถเชิงการแข่งขันแก่ภาคอุตสาหกรรม ครอบคลุมถึงการจำหน่ายอุปกรณ์และระบบควบคุมไฟฟ้าที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงให้บริการติดตั้งและก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อย เปิดเผยว่า ในปี 2563 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 30% โดยวางแผนงานขับเคลื่อนองค์กรภายใต้ 3 กลยุทธ์หลักเพื่อสร้างการเติบโตที่ดีในระยะยาวคือ

  1.   เพิ่มคำสั่งซื้อจากฐานลูกค้าเดิมและขยายฐานลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมภาคการผลิต (Process Industry) โดยได้เพิ่มทีมงานเพื่อรองรับลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ ปัจจุบันมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) รวมมูลค่ากว่า 450 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้กว่า 90% และมีงานที่รอความชัดเจนในการสั่งซื้ออีกกว่า 1,000 ล้านบาท
  2.  สร้างรายได้จากธุรกิจให้บริการ และซ่อมบำรุงหลังการขาย เพิ่มศักยภาพของบุคลากร และ
  3.  แสวงหาโอกาสใหม่ๆ จากการเข้าซื้อกิจการ (M&A) และร่วมลงทุน (Joint Venture) กับพันธมิตรทางธุรกิจ โดยตั้งเป้าว่าจะได้ข้อสรุปอย่างน้อย 1-2 รายในปีนี้

               ทั้งนี้ ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา โรงงานใหม่แห่งที่ 2 ของ CPT ได้เริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเริ่มผลิตตู้ไฟฟ้าแรงดันต่ำและปานกลางภายใต้แบรนด์ SIEMENS ที่บริษัทฯ ได้รับการแต่งตั้งเป็น License Partner หลังจากได้รับการตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานขั้นสุดท้ายจาก บริษัท ซีเมนส์ จำกัด เป็นที่เรียบร้อย

ขณะเดียวกันโรงงานดังกล่าว ยังได้รับผลดีจากการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และสิทธิประโยชน์ของสถาบันไฟฟ้า (EEI) จากการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ ตลอดจนมุ่งเน้นบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าวเป็นส่วนสำคัญที่จะผลักดันผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ให้กลับมาเทิร์นอะราวด์ และสร้างผลกำไรอย่างยั่งยืนในปี 2563

               “เราประเมินว่าแนวโน้มภาพรวมอุตสาหกรรมระบบไฟฟ้าในปีนี้จะค่อนข้างทรงตัว ดังนั้นการเติบโตของบริษัทฯ จึงจะมาจากกลยุทธ์เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดและขยายฐานลูกค้าในอุตสาหกรรมใหม่ๆขยายรายได้จากงานให้บริการ นอกจากนี้การที่ภาครัฐมีโครงการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ถือเป็นโอกาสที่ CPT จะเข้ารับงานในโครงการเหล่านี้ด้วย โดยจะใช้โรงงานแห่งใหม่เป็นฐานสำหรับการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูง ได้มาตรฐานระดับสากล” ชัยยศ กล่าว